ชื่อเรื่อง :
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : เขียนคำร้องเรียน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: เขียนคำร้องเรียน
../add_file/เขียนคำร้องเรียน
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : https://www.google.com/
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://www.google.com/../add_file/https://www.google.com/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รายละเอียด(ถ้ามี) จะไม่แสดงกรณีไม่กรอกข้อมูล
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รายละเอียด(ถ้ามี) จะไม่แสดงกรณีไม่กรอกข้อมูล../add_file/รายละเอียด(ถ้ามี) จะไม่แสดงกรณีไม่กรอกข้อมูล
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง มีพื้นที่รับผิดชอบในเขตตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีความเป็นอิสระในการดำเนินงานภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด มีทรัพย์สินและรายได้เป็นของตนเอง
ที่ตั้ง
เลขที่ ๑๓๙ หมู่ที่ ๕ ถนนสายเอเชีย ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางปะอินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๗.๕๐ กิโลเมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร
อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลบ้านตลิ่งชัน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลบ้านโพและตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื้อที่
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑๒.๗๓ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๗,๙๕๖.๒๕ ไร่
หมู่ที่ พื้นที่ในหมู่บ้าน (ไร่) พื้นที่ทำนา(ไร่)
๑ ๕๖ ๒๘๕
๒ ๖๕ ๒๗๕
๓ ๔๖ ๓๙๕
๔ ๕๔ ๑,๐๙๐
๕ ๓๐๐ ๒,๑๐๐
๖ ๓๘๐ ๑,๓๕๐
๗ ๕๕ ๑.๑๕๖
รวม ๙๕๖ ๖,๖๕๑
ภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ของตำบลบ้านหว้า มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม น้ำท่วมถึงทุกปี พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ตั้งชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมโดยมีแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ คลองโพ คลองตาม่วง คลองหัวจระเข้
จำนวนหมู่บ้าน
แบ่งการปกครองออกเป็น ๗ หมู่บ้านและทุกหมู่บ้านอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วน
ตำบลบ้านหว้า เต็มทั้งหมู่บ้าน ดังนี้
ชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ จำนวนครัวเรือน จำนวนประชากร
ชาย หญิง รวม
บ้านใต้ ๑ ๑๑๑ ๑๓๖ ๑๔๙ ๒๘๕
บ้านหว้า ๒ ๑๘๓ ๑๘๓ ๒๒๒ ๔๐๕
บ้านปากคลอง ๓ ๑๑๓ ๑๔๕ ๑๔๒ ๒๘๗
บ้านโรง ๔ ๙๑ ๑๓๑ ๑๔๒ ๒๗๓
บ้านหัวจระเข้ ๕ ๒๐๓ ๒๙๘ ๓๕๔ ๖๕๒
บ้านนัยนาท ๖ ๒๘๑ ๓๐๖ ๓๒๙ ๖๓๕
บ้านเสาวังคา ๗ ๙๕ ๑๕๓ ๑๖๖ ๓๑๙
รวม ๗ หมู่บ้าน ๑,๐๗๗ ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
ประชากร
มีประชากรรวมทั้งสิ้น ๒,๘๕๖ คน แยกเป็น ชาย ๑,๐๗๗ คน หญิง ๑,๕๐๔ คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย ๒๒๔ คน/ตารางกิโลเมตร หรือ ๐.๓๖ คน/ไร่ (ข้อมูล เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๘ จากทะเบียนราษฎรอำเภอบางปะอิน)
ประชากรแยกตามช่วงอายุ ดังนี้
ช่วงอายุ ชาย หญิง รวม
อายุต่ำกว่า ๑ ปี ๑๙ ๑๙ ๓๘
อายุ ๑-๒ ปี ๓๘ ๓๑ ๖๙
อายุ ๓-๖ ปี ๗๘ ๖๖ ๑๔๔
อายุ ๗-๑๒ ปี ๑๐๐ ๑๐๙ ๒๐๙
อายุ ๑๓-๑๘ ปี ๑๐๘ ๑๐๗ ๒๑๕
อายุ ๑๙-๒๔ ปี ๙๐ ๑๒๔ ๒๑๔
อายุ ๒๕-๓๙ ปี ๓๑๖ ๓๑๕ ๖๓๑
อายุ ๔๐-๔๙ ปี ๒๒๔ ๒๓๘ ๔๖๒
อายุ ๕๐-๕๙ ปี ๒๐๕ ๒๒๕ ๔๓๐
อายุ ๖๐-๗๙ ปี ๑๔๖ ๒๒๑ ๓๖๗
อายุตั้งแต่ ๘๐ ปีขึ้นไป ๒๘ ๔๙ ๗๗
รวม ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง มีพื้นที่รับผิดชอบในเขตตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีความเป็นอิสระในการดำเนินงานภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด มีทรัพย์สินและรายได้เป็นของตนเอง
ที่ตั้ง
เลขที่ ๑๓๙ หมู่ที่ ๕ ถนนสายเอเชีย ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางปะอินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๗.๕๐ กิโลเมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร
อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลบ้านตลิ่งชัน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลบ้านโพและตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื้อที่
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑๒.๗๓ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๗,๙๕๖.๒๕ ไร่
หมู่ที่ พื้นที่ในหมู่บ้าน (ไร่) พื้นที่ทำนา(ไร่)
๑ ๕๖ ๒๘๕
๒ ๖๕ ๒๗๕
๓ ๔๖ ๓๙๕
๔ ๕๔ ๑,๐๙๐
๕ ๓๐๐ ๒,๑๐๐
๖ ๓๘๐ ๑,๓๕๐
๗ ๕๕ ๑.๑๕๖
รวม ๙๕๖ ๖,๖๕๑
ภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ของตำบลบ้านหว้า มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม น้ำท่วมถึงทุกปี พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ตั้งชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมโดยมีแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ คลองโพ คลองตาม่วง คลองหัวจระเข้
จำนวนหมู่บ้าน
แบ่งการปกครองออกเป็น ๗ หมู่บ้านและทุกหมู่บ้านอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วน
ตำบลบ้านหว้า เต็มทั้งหมู่บ้าน ดังนี้
ชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ จำนวนครัวเรือน จำนวนประชากร
ชาย หญิง รวม
บ้านใต้ ๑ ๑๑๑ ๑๓๖ ๑๔๙ ๒๘๕
บ้านหว้า ๒ ๑๘๓ ๑๘๓ ๒๒๒ ๔๐๕
บ้านปากคลอง ๓ ๑๑๓ ๑๔๕ ๑๔๒ ๒๘๗
บ้านโรง ๔ ๙๑ ๑๓๑ ๑๔๒ ๒๗๓
บ้านหัวจระเข้ ๕ ๒๐๓ ๒๙๘ ๓๕๔ ๖๕๒
บ้านนัยนาท ๖ ๒๘๑ ๓๐๖ ๓๒๙ ๖๓๕
บ้านเสาวังคา ๗ ๙๕ ๑๕๓ ๑๖๖ ๓๑๙
รวม ๗ หมู่บ้าน ๑,๐๗๗ ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
ประชากร
มีประชากรรวมทั้งสิ้น ๒,๘๕๖ คน แยกเป็น ชาย ๑,๐๗๗ คน หญิง ๑,๕๐๔ คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย ๒๒๔ คน/ตารางกิโลเมตร หรือ ๐.๓๖ คน/ไร่ (ข้อมูล เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๘ จากทะเบียนราษฎรอำเภอบางปะอิน)
ประชากรแยกตามช่วงอายุ ดังนี้
ช่วงอายุ ชาย หญิง รวม
อายุต่ำกว่า ๑ ปี ๑๙ ๑๙ ๓๘
อายุ ๑-๒ ปี ๓๘ ๓๑ ๖๙
อายุ ๓-๖ ปี ๗๘ ๖๖ ๑๔๔
อายุ ๗-๑๒ ปี ๑๐๐ ๑๐๙ ๒๐๙
อายุ ๑๓-๑๘ ปี ๑๐๘ ๑๐๗ ๒๑๕
อายุ ๑๙-๒๔ ปี ๙๐ ๑๒๔ ๒๑๔
อายุ ๒๕-๓๙ ปี ๓๑๖ ๓๑๕ ๖๓๑
อายุ ๔๐-๔๙ ปี ๒๒๔ ๒๓๘ ๔๖๒
อายุ ๕๐-๕๙ ปี ๒๐๕ ๒๒๕ ๔๓๐
อายุ ๖๐-๗๙ ปี ๑๔๖ ๒๒๑ ๓๖๗
อายุตั้งแต่ ๘๐ ปีขึ้นไป ๒๘ ๔๙ ๗๗
รวม ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
../add_file/ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง มีพื้นที่รับผิดชอบในเขตตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติสภาตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. ๒๕๓๗ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ มีฐานะเป็นนิติบุคคล มีความเป็นอิสระในการดำเนินงานภายในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด มีทรัพย์สินและรายได้เป็นของตนเอง
ที่ตั้ง
เลขที่ ๑๓๙ หมู่ที่ ๕ ถนนสายเอเชีย ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอบางปะอินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ ๗.๕๐ กิโลเมตร ห่างจากศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ ๑๗ กิโลเมตร
อาณาเขตติดต่อ
ทิศเหนือ ติดต่อกับ ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศใต้ ติดต่อกับ ตำบลคลองจิก อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ตำบลบ้านตลิ่งชัน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ตำบลบ้านโพและตำบลบ้านเลน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื้อที่
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ ๑๒.๗๓ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๗,๙๕๖.๒๕ ไร่
หมู่ที่ พื้นที่ในหมู่บ้าน (ไร่) พื้นที่ทำนา(ไร่)
๑ ๕๖ ๒๘๕
๒ ๖๕ ๒๗๕
๓ ๔๖ ๓๙๕
๔ ๕๔ ๑,๐๙๐
๕ ๓๐๐ ๒,๑๐๐
๖ ๓๘๐ ๑,๓๕๐
๗ ๕๕ ๑.๑๕๖
รวม ๙๕๖ ๖,๖๕๑
ภูมิประเทศ
สภาพพื้นที่ของตำบลบ้านหว้า มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม น้ำท่วมถึงทุกปี พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้เป็นที่ตั้งชุมชนและพื้นที่เกษตรกรรมโดยมีแหล่งน้ำที่สำคัญ ได้แก่ คลองโพ คลองตาม่วง คลองหัวจระเข้
จำนวนหมู่บ้าน
แบ่งการปกครองออกเป็น ๗ หมู่บ้านและทุกหมู่บ้านอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วน
ตำบลบ้านหว้า เต็มทั้งหมู่บ้าน ดังนี้
ชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ จำนวนครัวเรือน จำนวนประชากร
ชาย หญิง รวม
บ้านใต้ ๑ ๑๑๑ ๑๓๖ ๑๔๙ ๒๘๕
บ้านหว้า ๒ ๑๘๓ ๑๘๓ ๒๒๒ ๔๐๕
บ้านปากคลอง ๓ ๑๑๓ ๑๔๕ ๑๔๒ ๒๘๗
บ้านโรง ๔ ๙๑ ๑๓๑ ๑๔๒ ๒๗๓
บ้านหัวจระเข้ ๕ ๒๐๓ ๒๙๘ ๓๕๔ ๖๕๒
บ้านนัยนาท ๖ ๒๘๑ ๓๐๖ ๓๒๙ ๖๓๕
บ้านเสาวังคา ๗ ๙๕ ๑๕๓ ๑๖๖ ๓๑๙
รวม ๗ หมู่บ้าน ๑,๐๗๗ ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
ประชากร
มีประชากรรวมทั้งสิ้น ๒,๘๕๖ คน แยกเป็น ชาย ๑,๐๗๗ คน หญิง ๑,๕๐๔ คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย ๒๒๔ คน/ตารางกิโลเมตร หรือ ๐.๓๖ คน/ไร่ (ข้อมูล เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๘ จากทะเบียนราษฎรอำเภอบางปะอิน)
ประชากรแยกตามช่วงอายุ ดังนี้
ช่วงอายุ ชาย หญิง รวม
อายุต่ำกว่า ๑ ปี ๑๙ ๑๙ ๓๘
อายุ ๑-๒ ปี ๓๘ ๓๑ ๖๙
อายุ ๓-๖ ปี ๗๘ ๖๖ ๑๔๔
อายุ ๗-๑๒ ปี ๑๐๐ ๑๐๙ ๒๐๙
อายุ ๑๓-๑๘ ปี ๑๐๘ ๑๐๗ ๒๑๕
อายุ ๑๙-๒๔ ปี ๙๐ ๑๒๔ ๒๑๔
อายุ ๒๕-๓๙ ปี ๓๑๖ ๓๑๕ ๖๓๑
อายุ ๔๐-๔๙ ปี ๒๒๔ ๒๓๘ ๔๖๒
อายุ ๕๐-๕๙ ปี ๒๐๕ ๒๒๕ ๔๓๐
อายุ ๖๐-๗๙ ปี ๑๔๖ ๒๒๑ ๓๖๗
อายุตั้งแต่ ๘๐ ปีขึ้นไป ๒๘ ๔๙ ๗๗
รวม ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : อำนาจหน้าที่ของ อบต. มีอะไรบ้าง
อำนาจหน้าที่ของ อบต.
อำนาจหน้าที่ของ อบต.
แยกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ อำนาจหน้าที่ตามกฏหมายจัดตั้ง อบต. และอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมายกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเลือกตั้ง อบต.
อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม กิจการ สาธารณที่ อบต. มีอำนาจหน้าที่จัดทำสามารถจำแนกได้ 2 ประเภทคือ
1) กิจการที่ อบต. มีหน้าที่ต้องทำในเขต อบต.ดังนี้
(1) จัดให้มีการบำรุงรักษาทางนี้าและทางบก
(2) รักษาความสะอาดของถนน ทางนี้า ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูล ฝอยและสิ่งปฏิกูล
(3) ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ
(4) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(5) ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(6) ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
(7) คุ้มครองดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(8) บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของ ท้องถิ่น
(9) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมาย โดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากร ให้ตามความจำเป็นและสำคัญ
2) กิจการที่ อบต. อาจจัดทำในเขต อบต. ดังนี้
(1) ให้มีนํ้าเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร
(2) ให้มีการบำรุงรักษาการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น
(3) ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายนี้า
(4) ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬา การพักผ่อนหย่อนใจ และสวนสาธารณะ
(5) ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์
(6) ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว
(7) บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร
(8) การคุ้มครองดูแลและรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
(9) หาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของ อบต.
(10) ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และท่าข้าม
(11) กิจการเกี่ยวกับการพานิชย์
(12) การท่องเที่ยว
(13) การผังเมือง
อำนาจหน้าที่ อบต. ดังกล่าวข้างต้น ไม่ตัดอำนาจของกระทรวง ทบวง กรม องค์การหรือ หน่วยงานของรัฐในการเข้าไปดำเนินการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในตำบล แต่จะต้องแจ้งให้ อบต. ทราบล่วงหน้า และนำความเห็นของ อบต. เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวไปประกอบการพิจารณา ดำเนินงานด้วย
อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก,องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น
นอกจากอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ สภาตำบล และอบต. พ.ศ. 2537 แล้ว อบต. ยังมีอำนาจ หน้าที่เพิ่มเติมในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตน ตาม มาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ดังนี้
(1) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
(2) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางนํ้า และทางระบายนี้า
(3) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ
(4) การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ
(5) การสาธารณูปการ
(6) การส่งเสริม การ ฟิกและประกอบอาชีพ
(7) การพานิชย์ และการส่งเสริมการลงทุน
(8) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(9) การจัดการศึกษา
(10) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และ ผู้ด้อยโอกาส
(11) การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงาม ของท้องถิ่น
(12) การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
(13) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
(14) การส่งเสริมการกีฬา
(15) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(16) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(17) การรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(18) การจำกัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และนี้าเสีย
(19) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(20) การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนกิจสถาน
(21) การควบคุมการเลี้ยงสัตว์
(22) การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
(23) การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัยโรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
(24) การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ แลสิ่งแวดล้อม
(25) การผังเมือง
(26) การขนส่ง และการวิศวกรรมจราจร
(27) การดูแลรักษาที่สาธารณะ
(28) การควบคุมอาคาร
(29) การป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย
(30) การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและการสนับสนุน การป้องกันและ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(31) กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น
การออกข้อบัญญัติท้องถิ่น อบต.
เพื่อใช้บังคับในเขต อบต. ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม อำนาจหน้าที่ของ อบต. หรือเมื่อมีกฎหมายกำหนดให้ อบต. ออกข้อบัญญัติในการนี้จะกำหนด ค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บและกำหนดโทษปรับผู้ฝ่าผืนด้วยก็ได้ แต่มิให้กำหนดโทษปรับเกินหนึ่งพัน บาท เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
ร่างข้อบัญญัติ อบต. จะเสนอได้โดยนายก อบต. หรือ สมาชิกสภา อบต. หรือราษฎรในเขต อบต. ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น
การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของ อบต.
ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และให้ คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาอบต. การจัดทำงบประมาณ การจัดซื้อ จัดจ้าง การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับว่าด้วยการนั้น และหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: อำนาจหน้าที่ของ อบต. มีอะไรบ้าง
อำนาจหน้าที่ของ อบต.
อำนาจหน้าที่ของ อบต.
แยกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ อำนาจหน้าที่ตามกฏหมายจัดตั้ง อบต. และอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมายกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเลือกตั้ง อบต.
อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม กิจการ สาธารณที่ อบต. มีอำนาจหน้าที่จัดทำสามารถจำแนกได้ 2 ประเภทคือ
1) กิจการที่ อบต. มีหน้าที่ต้องทำในเขต อบต.ดังนี้
(1) จัดให้มีการบำรุงรักษาทางนี้าและทางบก
(2) รักษาความสะอาดของถนน ทางนี้า ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูล ฝอยและสิ่งปฏิกูล
(3) ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ
(4) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(5) ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(6) ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
(7) คุ้มครองดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(8) บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของ ท้องถิ่น
(9) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมาย โดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากร ให้ตามความจำเป็นและสำคัญ
2) กิจการที่ อบต. อาจจัดทำในเขต อบต. ดังนี้
(1) ให้มีนํ้าเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร
(2) ให้มีการบำรุงรักษาการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น
(3) ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายนี้า
(4) ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬา การพักผ่อนหย่อนใจ และสวนสาธารณะ
(5) ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์
(6) ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว
(7) บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร
(8) การคุ้มครองดูแลและรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
(9) หาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของ อบต.
(10) ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และท่าข้าม
(11) กิจการเกี่ยวกับการพานิชย์
(12) การท่องเที่ยว
(13) การผังเมือง
อำนาจหน้าที่ อบต. ดังกล่าวข้างต้น ไม่ตัดอำนาจของกระทรวง ทบวง กรม องค์การหรือ หน่วยงานของรัฐในการเข้าไปดำเนินการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในตำบล แต่จะต้องแจ้งให้ อบต. ทราบล่วงหน้า และนำความเห็นของ อบต. เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวไปประกอบการพิจารณา ดำเนินงานด้วย
อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก,องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น
นอกจากอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ สภาตำบล และอบต. พ.ศ. 2537 แล้ว อบต. ยังมีอำนาจ หน้าที่เพิ่มเติมในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตน ตาม มาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ดังนี้
(1) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
(2) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางนํ้า และทางระบายนี้า
(3) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ
(4) การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ
(5) การสาธารณูปการ
(6) การส่งเสริม การ ฟิกและประกอบอาชีพ
(7) การพานิชย์ และการส่งเสริมการลงทุน
(8) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(9) การจัดการศึกษา
(10) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และ ผู้ด้อยโอกาส
(11) การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงาม ของท้องถิ่น
(12) การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
(13) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
(14) การส่งเสริมการกีฬา
(15) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(16) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(17) การรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(18) การจำกัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และนี้าเสีย
(19) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(20) การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนกิจสถาน
(21) การควบคุมการเลี้ยงสัตว์
(22) การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
(23) การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัยโรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
(24) การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ แลสิ่งแวดล้อม
(25) การผังเมือง
(26) การขนส่ง และการวิศวกรรมจราจร
(27) การดูแลรักษาที่สาธารณะ
(28) การควบคุมอาคาร
(29) การป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย
(30) การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและการสนับสนุน การป้องกันและ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(31) กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น
การออกข้อบัญญัติท้องถิ่น อบต.
เพื่อใช้บังคับในเขต อบต. ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม อำนาจหน้าที่ของ อบต. หรือเมื่อมีกฎหมายกำหนดให้ อบต. ออกข้อบัญญัติในการนี้จะกำหนด ค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บและกำหนดโทษปรับผู้ฝ่าผืนด้วยก็ได้ แต่มิให้กำหนดโทษปรับเกินหนึ่งพัน บาท เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
ร่างข้อบัญญัติ อบต. จะเสนอได้โดยนายก อบต. หรือ สมาชิกสภา อบต. หรือราษฎรในเขต อบต. ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น
การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของ อบต.
ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และให้ คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาอบต. การจัดทำงบประมาณ การจัดซื้อ จัดจ้าง การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับว่าด้วยการนั้น และหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด../add_file/อำนาจหน้าที่ของ อบต. มีอะไรบ้าง
อำนาจหน้าที่ของ อบต.
อำนาจหน้าที่ของ อบต.
แยกออกได้เป็น 2 ประเภท คือ อำนาจหน้าที่ตามกฏหมายจัดตั้ง อบต. และอำนาจหน้าที่ ตามกฎหมายกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายเลือกตั้ง อบต.
อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการพัฒนาตำบลทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม กิจการ สาธารณที่ อบต. มีอำนาจหน้าที่จัดทำสามารถจำแนกได้ 2 ประเภทคือ
1) กิจการที่ อบต. มีหน้าที่ต้องทำในเขต อบต.ดังนี้
(1) จัดให้มีการบำรุงรักษาทางนี้าและทางบก
(2) รักษาความสะอาดของถนน ทางนี้า ทางเดิน และที่สาธารณะ รวมทั้งกำจัดมูล ฝอยและสิ่งปฏิกูล
(3) ป้องกันโรคและระงับโรคติดต่อ
(4) ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(5) ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
(6) ส่งเสริมการพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้พิการ
(7) คุ้มครองดูแล และบำรุงรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(8) บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีของ ท้องถิ่น
(9) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ทางราชการมอบหมาย โดยจัดสรรงบประมาณหรือบุคลากร ให้ตามความจำเป็นและสำคัญ
2) กิจการที่ อบต. อาจจัดทำในเขต อบต. ดังนี้
(1) ให้มีนํ้าเพื่ออุปโภค บริโภค และการเกษตร
(2) ให้มีการบำรุงรักษาการไฟฟ้าหรือแสงสว่างโดยวิธีอื่น
(3) ให้มีและบำรุงรักษาทางระบายนี้า
(4) ให้มีและบำรุงสถานที่ประชุม การกีฬา การพักผ่อนหย่อนใจ และสวนสาธารณะ
(5) ให้มีและส่งเสริมกลุ่มเกษตรกรและกิจการสหกรณ์
(6) ส่งเสริมให้มีอุตสาหกรรมในครอบครัว
(7) บำรุงและส่งเสริมการประกอบอาชีพของราษฎร
(8) การคุ้มครองดูแลและรักษาทรัพย์สินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน
(9) หาผลประโยชน์จากทรัพย์สินของ อบต.
(10) ให้มีตลาด ท่าเทียบเรือ และท่าข้าม
(11) กิจการเกี่ยวกับการพานิชย์
(12) การท่องเที่ยว
(13) การผังเมือง
อำนาจหน้าที่ อบต. ดังกล่าวข้างต้น ไม่ตัดอำนาจของกระทรวง ทบวง กรม องค์การหรือ หน่วยงานของรัฐในการเข้าไปดำเนินการใดๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนในตำบล แต่จะต้องแจ้งให้ อบต. ทราบล่วงหน้า และนำความเห็นของ อบต. เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวไปประกอบการพิจารณา ดำเนินงานด้วย
อำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก,องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น
นอกจากอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ สภาตำบล และอบต. พ.ศ. 2537 แล้ว อบต. ยังมีอำนาจ หน้าที่เพิ่มเติมในการจัดระบบบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตน ตาม มาตรา 16 แห่ง พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ดังนี้
(1) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
(2) การจัดให้มีและบำรุงรักษาทางบก ทางนํ้า และทางระบายนี้า
(3) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทียบเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ
(4) การสาธารณูปโภคและการก่อสร้างอื่นๆ
(5) การสาธารณูปการ
(6) การส่งเสริม การ ฟิกและประกอบอาชีพ
(7) การพานิชย์ และการส่งเสริมการลงทุน
(8) การส่งเสริมการท่องเที่ยว
(9) การจัดการศึกษา
(10) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เด็ก สตรี คนชรา และ ผู้ด้อยโอกาส
(11) การบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงาม ของท้องถิ่น
(12) การปรับปรุงแหล่งชุมชนแออัดและการจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย
(13) การจัดให้มีและบำรุงรักษาสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
(14) การส่งเสริมการกีฬา
(15) การส่งเสริมประชาธิปไตย ความเสมอภาค และสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(16) การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของราษฎรในการพัฒนาท้องถิ่น
(17) การรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
(18) การจำกัดมูลฝอย สิ่งปฏิกูล และนี้าเสีย
(19) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรักษาพยาบาล
(20) การจัดให้มีและควบคุมสุสานและฌาปนกิจสถาน
(21) การควบคุมการเลี้ยงสัตว์
(22) การจัดให้มีและควบคุมการฆ่าสัตว์
(23) การรักษาความปลอดภัย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และการอนามัยโรงมหรสพ และสาธารณสถานอื่นๆ
(24) การจัดการ การบำรุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ แลสิ่งแวดล้อม
(25) การผังเมือง
(26) การขนส่ง และการวิศวกรรมจราจร
(27) การดูแลรักษาที่สาธารณะ
(28) การควบคุมอาคาร
(29) การป้องกันละบรรเทาสาธารณภัย
(30) การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและการสนับสนุน การป้องกันและ รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
(31) กิจการอื่นใดที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น
การออกข้อบัญญัติท้องถิ่น อบต.
เพื่อใช้บังคับในเขต อบต. ได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมายเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตาม อำนาจหน้าที่ของ อบต. หรือเมื่อมีกฎหมายกำหนดให้ อบต. ออกข้อบัญญัติในการนี้จะกำหนด ค่าธรรมเนียมที่จะเรียกเก็บและกำหนดโทษปรับผู้ฝ่าผืนด้วยก็ได้ แต่มิให้กำหนดโทษปรับเกินหนึ่งพัน บาท เว้นแต่จะมีกฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
ร่างข้อบัญญัติ อบต. จะเสนอได้โดยนายก อบต. หรือ สมาชิกสภา อบต. หรือราษฎรในเขต อบต. ตามกฎหมายว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น
การปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ของ อบต.
ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และให้ คำนึงถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดทำแผนพัฒนาอบต. การจัดทำงบประมาณ การจัดซื้อ จัดจ้าง การประเมินผลการปฏิบัติงาน และการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับว่าด้วยการนั้น และหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด
ชื่อไฟล์ :
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : การส่งเสริมการจัดการความรู้ (Knowledge Management)
การพัฒนาส่วนราชการให้เป็น“องค์การแห่งการเรียนรู้” โดยอาศัยกระบวนการ “การจัดการความรู้” ในยุคที่มีการแข่งขันและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่วนราชการต้องสร้างให้ข้าราชการในส่วนราชการมีความรู้ เข้มแข็งและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบเพื่อช่วยผลักดันส่วนราชการให้บรรลุผล ตามยุทธศาสตร์30โดยในขั้นตอนของการแปลงแผนการปฏิบัติราชการสู่การปฏิบัติจริงนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลายประการที่จะช่วยผลักดันสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างองค์การพื้นฐานเพื่อรองรับบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้สะดวก เช่น สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ
2. การปรับขั้นตอนการทำงานให้รวดเร็ว และกระชับมากขึ้น เพื่อเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น
3. การพัฒนาคนให้มีขีดความสามารถ มีระบบการยกย่องชมเชย และการให้รางวัลที่เอื้อต่อการจัดการความรู้ และมีวัฒนธรรมการทำงานเชิงรุก และวัฒนธรรมของการแลกเปลี่ยน และแบ่งปันความรู้ระหว่างบุคลากรในองค์การ
4. ปรับกฎระเบียบ และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การจัดการความรู้ในองค์การ31 ต้องดำเนินการ 3 ระดับ คือ (1) การจัดการความรู้ในองค์การ (2) การจัดการความรู้ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน (3) การจัดการความรู้ในตัวบุคคล ซึ่งเป็นการนำข้อมูลมาประมวลเข้าสู่ระบบสารสนเทศ และเป็นการจัดการความรู้สมัยใหม่ในยุคของสังคมแห่งการเรียนรู้
ดังที่ พระราชกฤษฎีการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ๒๕๔๖ มาตรา ๑๑ กำหนดให้ส่วนราชการ มีหน้าที่พัฒนาความรู้ในองค์กร เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: การส่งเสริมการจัดการความรู้ (Knowledge Management)
การพัฒนาส่วนราชการให้เป็น“องค์การแห่งการเรียนรู้” โดยอาศัยกระบวนการ “การจัดการความรู้” ในยุคที่มีการแข่งขันและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่วนราชการต้องสร้างให้ข้าราชการในส่วนราชการมีความรู้ เข้มแข็งและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบเพื่อช่วยผลักดันส่วนราชการให้บรรลุผล ตามยุทธศาสตร์30โดยในขั้นตอนของการแปลงแผนการปฏิบัติราชการสู่การปฏิบัติจริงนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลายประการที่จะช่วยผลักดันสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างองค์การพื้นฐานเพื่อรองรับบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้สะดวก เช่น สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ
2. การปรับขั้นตอนการทำงานให้รวดเร็ว และกระชับมากขึ้น เพื่อเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น
3. การพัฒนาคนให้มีขีดความสามารถ มีระบบการยกย่องชมเชย และการให้รางวัลที่เอื้อต่อการจัดการความรู้ และมีวัฒนธรรมการทำงานเชิงรุก และวัฒนธรรมของการแลกเปลี่ยน และแบ่งปันความรู้ระหว่างบุคลากรในองค์การ
4. ปรับกฎระเบียบ และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การจัดการความรู้ในองค์การ31 ต้องดำเนินการ 3 ระดับ คือ (1) การจัดการความรู้ในองค์การ (2) การจัดการความรู้ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน (3) การจัดการความรู้ในตัวบุคคล ซึ่งเป็นการนำข้อมูลมาประมวลเข้าสู่ระบบสารสนเทศ และเป็นการจัดการความรู้สมัยใหม่ในยุคของสังคมแห่งการเรียนรู้
ดังที่ พระราชกฤษฎีการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ๒๕๔๖ มาตรา ๑๑ กำหนดให้ส่วนราชการ มีหน้าที่พัฒนาความรู้ในองค์กร เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน../add_file/การส่งเสริมการจัดการความรู้ (Knowledge Management)
การพัฒนาส่วนราชการให้เป็น“องค์การแห่งการเรียนรู้” โดยอาศัยกระบวนการ “การจัดการความรู้” ในยุคที่มีการแข่งขันและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่วนราชการต้องสร้างให้ข้าราชการในส่วนราชการมีความรู้ เข้มแข็งและสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างเป็นระบบเพื่อช่วยผลักดันส่วนราชการให้บรรลุผล ตามยุทธศาสตร์30โดยในขั้นตอนของการแปลงแผนการปฏิบัติราชการสู่การปฏิบัติจริงนั้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลายประการที่จะช่วยผลักดันสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างองค์การพื้นฐานเพื่อรองรับบุคลากรให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้สะดวก เช่น สถานที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ
2. การปรับขั้นตอนการทำงานให้รวดเร็ว และกระชับมากขึ้น เพื่อเอื้อต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกยิ่งขึ้น
3. การพัฒนาคนให้มีขีดความสามารถ มีระบบการยกย่องชมเชย และการให้รางวัลที่เอื้อต่อการจัดการความรู้ และมีวัฒนธรรมการทำงานเชิงรุก และวัฒนธรรมของการแลกเปลี่ยน และแบ่งปันความรู้ระหว่างบุคลากรในองค์การ
4. ปรับกฎระเบียบ และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
การจัดการความรู้ในองค์การ31 ต้องดำเนินการ 3 ระดับ คือ (1) การจัดการความรู้ในองค์การ (2) การจัดการความรู้ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน (3) การจัดการความรู้ในตัวบุคคล ซึ่งเป็นการนำข้อมูลมาประมวลเข้าสู่ระบบสารสนเทศ และเป็นการจัดการความรู้สมัยใหม่ในยุคของสังคมแห่งการเรียนรู้
ดังที่ พระราชกฤษฎีการว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ๒๕๔๖ มาตรา ๑๑ กำหนดให้ส่วนราชการ มีหน้าที่พัฒนาความรู้ในองค์กร เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : การประกอบอาชีพของประชาชน อาชีพส่วนใหญ่ของประชาชนในตำบลบ้านหว้า ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม รองลงมาคือการรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม รับราชการ ค้าขาย และประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน
หน่วยธุรกิจในเขต อบต.บ้านหว้า
-หอพัก จำนวน ๓๗ แห่ง
-บริษัท/ร้านค้า จำนวน ๕๗ แห่ง
-ปั้มน้ำมัน จำนวน ๕ แห่ง
-โรงงานอุตสาหกรรม จำนวน ๑๓ แห่ง
-โรงรับซื้อของเก่า จำนวน ๘ แห่ง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: การประกอบอาชีพของประชาชน อาชีพส่วนใหญ่ของประชาชนในตำบลบ้านหว้า ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม รองลงมาคือการรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม รับราชการ ค้าขาย และประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน
หน่วยธุรกิจในเขต อบต.บ้านหว้า
-หอพัก จำนวน ๓๗ แห่ง
-บริษัท/ร้านค้า จำนวน ๕๗ แห่ง
-ปั้มน้ำมัน จำนวน ๕ แห่ง
-โรงงานอุตสาหกรรม จำนวน ๑๓ แห่ง
-โรงรับซื้อของเก่า จำนวน ๘ แห่ง../add_file/ การประกอบอาชีพของประชาชน อาชีพส่วนใหญ่ของประชาชนในตำบลบ้านหว้า ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม รองลงมาคือการรับจ้างในโรงงานอุตสาหกรรม รับราชการ ค้าขาย และประกอบอุตสาหกรรมในครัวเรือน
หน่วยธุรกิจในเขต อบต.บ้านหว้า
-หอพัก จำนวน ๓๗ แห่ง
-บริษัท/ร้านค้า จำนวน ๕๗ แห่ง
-ปั้มน้ำมัน จำนวน ๕ แห่ง
-โรงงานอุตสาหกรรม จำนวน ๑๓ แห่ง
-โรงรับซื้อของเก่า จำนวน ๘ แห่ง
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : สถานศึกษา
โรงเรียนประถมศึกษา จำนวน ๒ แห่ง
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๒ แห่ง
สถาบัน/องค์กรทางศาสนา
วัด (วัดบ้านหว้า) จำนวน ๑ แห่ง (ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒)
การสาธารณสุข
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า จำนวน ๑ แห่ง (ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓)
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ป้อมตำรวจสายตรวจ สภ.บางปะอิน (ป้อมตำรวจนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค-บ้านหว้า)
การคมนาคม
ทางรถยนต์ โดยมีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ , ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การคมนาคมติดต่อกับอำเภอใกล้เคียง มีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ และ ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การคมนาคมติดต่อกับตำบลและใกล้เคียง มีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ และ ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การไฟฟ้า
ในเขตตำบลบ้านหว้า มีไฟฟ้าเข้าถึงให้บริการภายใต้ตำบล โดยมีไฟฟ้าใช้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ การไฟฟ้าอำเภอบางปะอินและการไฟฟ้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีไฟฟ้า ใช้ประมาณ ร้อยละ ๙๙.๓๒ อีกประมาณร้อยละ ๐.๖๘ เป็นบ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นของตนเองโดยพ่วง กับบ้านอื่นเนื่องจากไม่มีบ้านเลขที่และปลูกบ้านบนที่สาธารณะประโยชน์
มวลชนจัดตั้ง
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จำนวน ๑๕ คน
ลูกเสือชาวบ้าน จำนวน ๓๕ คน
สารณสุขมูลฐาน จำนวน ๗ แห่ง
กลุ่มร้านค้าชุมชน ม.๒ จำนวน ๑ กลุ่ม
กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต (ม.๑-ม.๗) จำนวน ๗ กลุ่ม
อาสาสมัครปกป้องสถาบัน (อสป.) จำนวน ๒๐๐ คน
กลุ่มสตรีระดับหมู่บ้าน จำนวน ๗ กลุ่ม
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แหล่งน้ำธรรมชาติ
คลอง ๔ สาย (คลองโพ , คลองตาม่วง , คลองหัวจระเข้ . คลองคุ้งวังพาสน์)
บึง , หนองน้ำ , ลำราง ฯลฯ ๑๓ แห่ง
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
ประปาผิวดิน จำนวน ๑ แห่ง (หมู่ที่ ๓)
ประปาบาดาล จำนวน ๑๐ แห่ง (อบต. บ้านหว้าเป็นผู้ดำเนินการเอง จำนวน ๖ แห่งและ หมู่บ้านดำเนินการเอง จำนวน ๔ แห่ง)
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: สถานศึกษา
โรงเรียนประถมศึกษา จำนวน ๒ แห่ง
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๒ แห่ง
สถาบัน/องค์กรทางศาสนา
วัด (วัดบ้านหว้า) จำนวน ๑ แห่ง (ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒)
การสาธารณสุข
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า จำนวน ๑ แห่ง (ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓)
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ป้อมตำรวจสายตรวจ สภ.บางปะอิน (ป้อมตำรวจนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค-บ้านหว้า)
การคมนาคม
ทางรถยนต์ โดยมีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ , ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การคมนาคมติดต่อกับอำเภอใกล้เคียง มีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ และ ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การคมนาคมติดต่อกับตำบลและใกล้เคียง มีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ และ ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การไฟฟ้า
ในเขตตำบลบ้านหว้า มีไฟฟ้าเข้าถึงให้บริการภายใต้ตำบล โดยมีไฟฟ้าใช้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ การไฟฟ้าอำเภอบางปะอินและการไฟฟ้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีไฟฟ้า ใช้ประมาณ ร้อยละ ๙๙.๓๒ อีกประมาณร้อยละ ๐.๖๘ เป็นบ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นของตนเองโดยพ่วง กับบ้านอื่นเนื่องจากไม่มีบ้านเลขที่และปลูกบ้านบนที่สาธารณะประโยชน์
มวลชนจัดตั้ง
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จำนวน ๑๕ คน
ลูกเสือชาวบ้าน จำนวน ๓๕ คน
สารณสุขมูลฐาน จำนวน ๗ แห่ง
กลุ่มร้านค้าชุมชน ม.๒ จำนวน ๑ กลุ่ม
กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต (ม.๑-ม.๗) จำนวน ๗ กลุ่ม
อาสาสมัครปกป้องสถาบัน (อสป.) จำนวน ๒๐๐ คน
กลุ่มสตรีระดับหมู่บ้าน จำนวน ๗ กลุ่ม
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แหล่งน้ำธรรมชาติ
คลอง ๔ สาย (คลองโพ , คลองตาม่วง , คลองหัวจระเข้ . คลองคุ้งวังพาสน์)
บึง , หนองน้ำ , ลำราง ฯลฯ ๑๓ แห่ง
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
ประปาผิวดิน จำนวน ๑ แห่ง (หมู่ที่ ๓)
ประปาบาดาล จำนวน ๑๐ แห่ง (อบต. บ้านหว้าเป็นผู้ดำเนินการเอง จำนวน ๖ แห่งและ หมู่บ้านดำเนินการเอง จำนวน ๔ แห่ง)../add_file/สถานศึกษา
โรงเรียนประถมศึกษา จำนวน ๒ แห่ง
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จำนวน ๒ แห่ง
สถาบัน/องค์กรทางศาสนา
วัด (วัดบ้านหว้า) จำนวน ๑ แห่ง (ตั้งอยู่หมู่ที่ ๒)
การสาธารณสุข
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า จำนวน ๑ แห่ง (ตั้งอยู่หมู่ที่ ๓)
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ป้อมตำรวจสายตรวจ สภ.บางปะอิน (ป้อมตำรวจนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค-บ้านหว้า)
การคมนาคม
ทางรถยนต์ โดยมีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ , ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การคมนาคมติดต่อกับอำเภอใกล้เคียง มีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ และ ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การคมนาคมติดต่อกับตำบลและใกล้เคียง มีถนนสายหลัก คือ
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒ ผ่านหมู่ที่ ๓ และ ๕
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๐๕๖ ผ่านหมู่ที่ ๕
การไฟฟ้า
ในเขตตำบลบ้านหว้า มีไฟฟ้าเข้าถึงให้บริการภายใต้ตำบล โดยมีไฟฟ้าใช้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน หน่วยงานรับผิดชอบ คือ การไฟฟ้าอำเภอบางปะอินและการไฟฟ้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่ามีไฟฟ้า ใช้ประมาณ ร้อยละ ๙๙.๓๒ อีกประมาณร้อยละ ๐.๖๘ เป็นบ้านที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้เป็นของตนเองโดยพ่วง กับบ้านอื่นเนื่องจากไม่มีบ้านเลขที่และปลูกบ้านบนที่สาธารณะประโยชน์
มวลชนจัดตั้ง
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) จำนวน ๑๕ คน
ลูกเสือชาวบ้าน จำนวน ๓๕ คน
สารณสุขมูลฐาน จำนวน ๗ แห่ง
กลุ่มร้านค้าชุมชน ม.๒ จำนวน ๑ กลุ่ม
กลุ่มสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อการผลิต (ม.๑-ม.๗) จำนวน ๗ กลุ่ม
อาสาสมัครปกป้องสถาบัน (อสป.) จำนวน ๒๐๐ คน
กลุ่มสตรีระดับหมู่บ้าน จำนวน ๗ กลุ่ม
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แหล่งน้ำธรรมชาติ
คลอง ๔ สาย (คลองโพ , คลองตาม่วง , คลองหัวจระเข้ . คลองคุ้งวังพาสน์)
บึง , หนองน้ำ , ลำราง ฯลฯ ๑๓ แห่ง
แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น
ประปาผิวดิน จำนวน ๑ แห่ง (หมู่ที่ ๓)
ประปาบาดาล จำนวน ๑๐ แห่ง (อบต. บ้านหว้าเป็นผู้ดำเนินการเอง จำนวน ๖ แห่งและ หมู่บ้านดำเนินการเอง จำนวน ๔ แห่ง)
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : การปกครองและประชากร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า มีจำนวน ๑,๐๗๗ ครัวเรือน มีประชากรทั้งสิ้น ๒,๘๕๖ คน แยกเป็นชาย ๑,๐๗๗ คน หญิง ๑,๕๐๔ คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย ๐.๓๖ คน : ไร่ ตำบลบ้านหว้าแบ่งการปกครองออกเป็น ๗ หมู่บ้าน ได้แก่
จำนวนประชากร
ชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ จำนวนครัวเรือน ชาย หญิง รวม
บ้านใต้ ๑ ๑๑๑ ๑๓๖ ๑๔๙ ๒๘๕
บ้านหว้า ๒ ๑๘๓ ๑๘๓ ๒๒๒ ๔๐๕
บ้านปากคลอง ๓ ๑๑๓ ๑๔๕ ๑๔๒ ๒๘๗
บ้านโรง ๔ ๙๑ ๑๓๑ ๑๔๒ ๒๗๓
บ้านหัวจระเข้ ๕ ๒๐๓ ๒๙๘ ๓๕๔ ๖๕๒
บ้านนัยนาท ๖ ๒๘๑ ๓๐๖ ๓๒๙ ๖๓๕
บ้านเสาวังคา ๗ ๙๕ ๑๕๓ ๑๖๖ ๓๑
รวม ๗ หมู่บ้าน ๑,๐๗๗ ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: การปกครองและประชากร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า มีจำนวน ๑,๐๗๗ ครัวเรือน มีประชากรทั้งสิ้น ๒,๘๕๖ คน แยกเป็นชาย ๑,๐๗๗ คน หญิง ๑,๕๐๔ คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย ๐.๓๖ คน : ไร่ ตำบลบ้านหว้าแบ่งการปกครองออกเป็น ๗ หมู่บ้าน ได้แก่
จำนวนประชากร
ชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ จำนวนครัวเรือน ชาย หญิง รวม
บ้านใต้ ๑ ๑๑๑ ๑๓๖ ๑๔๙ ๒๘๕
บ้านหว้า ๒ ๑๘๓ ๑๘๓ ๒๒๒ ๔๐๕
บ้านปากคลอง ๓ ๑๑๓ ๑๔๕ ๑๔๒ ๒๘๗
บ้านโรง ๔ ๙๑ ๑๓๑ ๑๔๒ ๒๗๓
บ้านหัวจระเข้ ๕ ๒๐๓ ๒๙๘ ๓๕๔ ๖๕๒
บ้านนัยนาท ๖ ๒๘๑ ๓๐๖ ๓๒๙ ๖๓๕
บ้านเสาวังคา ๗ ๙๕ ๑๕๓ ๑๖๖ ๓๑
รวม ๗ หมู่บ้าน ๑,๐๗๗ ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
../add_file/การปกครองและประชากร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า มีจำนวน ๑,๐๗๗ ครัวเรือน มีประชากรทั้งสิ้น ๒,๘๕๖ คน แยกเป็นชาย ๑,๐๗๗ คน หญิง ๑,๕๐๔ คน มีความหนาแน่นเฉลี่ย ๐.๓๖ คน : ไร่ ตำบลบ้านหว้าแบ่งการปกครองออกเป็น ๗ หมู่บ้าน ได้แก่
จำนวนประชากร
ชื่อหมู่บ้าน หมู่ที่ จำนวนครัวเรือน ชาย หญิง รวม
บ้านใต้ ๑ ๑๑๑ ๑๓๖ ๑๔๙ ๒๘๕
บ้านหว้า ๒ ๑๘๓ ๑๘๓ ๒๒๒ ๔๐๕
บ้านปากคลอง ๓ ๑๑๓ ๑๔๕ ๑๔๒ ๒๘๗
บ้านโรง ๔ ๙๑ ๑๓๑ ๑๔๒ ๒๗๓
บ้านหัวจระเข้ ๕ ๒๐๓ ๒๙๘ ๓๕๔ ๖๕๒
บ้านนัยนาท ๖ ๒๘๑ ๓๐๖ ๓๒๙ ๖๓๕
บ้านเสาวังคา ๗ ๙๕ ๑๕๓ ๑๖๖ ๓๑
รวม ๗ หมู่บ้าน ๑,๐๗๗ ๑,๓๕๒ ๑,๕๐๔ ๒,๘๕๖
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 1.นายแดง รุจิพืช กำนัน
2.นางยุบล ไกรมงคล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๒
3.นางสมจิต แพทย์รักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๓
4.นางสาวสุนันท์ รุจิกลิ่น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๔
5.นายอนัน ไวยนิทา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๕
6.นายสมศักดิ์ นัยเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๗
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 1.นายแดง รุจิพืช กำนัน
2.นางยุบล ไกรมงคล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๒
3.นางสมจิต แพทย์รักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๓
4.นางสาวสุนันท์ รุจิกลิ่น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๔
5.นายอนัน ไวยนิทา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๕
6.นายสมศักดิ์ นัยเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๗../add_file/1.นายแดง รุจิพืช กำนัน
2.นางยุบล ไกรมงคล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๒
3.นางสมจิต แพทย์รักษ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๓
4.นางสาวสุนันท์ รุจิกลิ่น ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๔
5.นายอนัน ไวยนิทา ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๕
6.นายสมศักดิ์ นัยเจริญ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๗
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ขอเชิญร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567
????วันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2567 ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหว้า
????อาหารฟรี กิจกรรมการแสดงบนเวที กิจกรรมตอบคำถามความรู้รอบตัว กิจกรรมเล่นเกมส์พัฒนาทักษะการเรียนรู้
# คำขวัญวันเด็กประจำปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
มอบให้เด็กๆในปีนี้
“มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย" ????????
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ขอเชิญร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567
????วันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2567 ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหว้า
????อาหารฟรี กิจกรรมการแสดงบนเวที กิจกรรมตอบคำถามความรู้รอบตัว กิจกรรมเล่นเกมส์พัฒนาทักษะการเรียนรู้
# คำขวัญวันเด็กประจำปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
มอบให้เด็กๆในปีนี้
“มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย" ????????../add_file/องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ขอเชิญร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567
????วันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2567 ตั้งแต่ เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหว้า
????อาหารฟรี กิจกรรมการแสดงบนเวที กิจกรรมตอบคำถามความรู้รอบตัว กิจกรรมเล่นเกมส์พัฒนาทักษะการเรียนรู้
# คำขวัญวันเด็กประจำปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
มอบให้เด็กๆในปีนี้
“มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย" ????????
ชื่อไฟล์ : ประชาสัมพันธ์ ...
วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567
ในวันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2567
ขอเชิญชวนผู้ใหญ่ใจดีร่วมสนับสนุน ของขวัญ ของรางวัล อาหาร และเครื่องดื่ม ให้แก่เด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ โดยสามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่ วันนี้ - 12 มกราคม 2567
สอบถามเพิ่มเติมที่ สำนักปลัด 035-350776
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ประชาสัมพันธ์ ...
วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567
ในวันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2567
ขอเชิญชวนผู้ใหญ่ใจดีร่วมสนับสนุน ของขวัญ ของรางวัล อาหาร และเครื่องดื่ม ให้แก่เด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ โดยสามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่ วันนี้ - 12 มกราคม 2567
สอบถามเพิ่มเติมที่ สำนักปลัด 035-350776../add_file/ประชาสัมพันธ์ ...
วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567
ในวันเสาร์ ที่ 13 มกราคม 2567
ขอเชิญชวนผู้ใหญ่ใจดีร่วมสนับสนุน ของขวัญ ของรางวัล อาหาร และเครื่องดื่ม ให้แก่เด็กๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ โดยสามารถร่วมบริจาคได้ตั้งแต่ วันนี้ - 12 มกราคม 2567
สอบถามเพิ่มเติมที่ สำนักปลัด 035-350776
ชื่อไฟล์ : ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบ้านหว้า
เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
ด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 7 ตำแหน่ง 11 อัตรา
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 18 และข้อ 19 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 และตามแผนอัตรากำลัง ๓ ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕67 - ๒๕๖9 จึงประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. ตำแหน่งที่รับสมัครสอบ
1.1 พนักงานจ้างตามภารกิจ จำนวน 5 ตำแหน่ง 5 อัตรา ดังนี้
สำนักปลัด
(1) ตำแหน่ง ผู้ช่วยนักวิเคราะห์นโยบายและแผน จำนวน 1 อัตรา
(2) ตำแหน่ง ผู้ช่วยครูผู้ช่วย จำนวน 1 อัตรา
(3) ตำแหน่ง ผู้ดูแลเด็ก จำนวน 1 อัตรา
(4) ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา
(5) ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา จำนวน 1 อัตรา
(รถบรรทุกขยะ)
1.2 พนักงานจ้างทั่วไป จำนวน 2 ตำแหน่ง 6 อัตรา ดังนี้
สำนักปลัด
(1) ตำแหน่ง คนงานประจำรถขยะ จำนวน 5 อัตรา
กองคลัง จำนวน 1 อัตรา
รายละเอียดลักษณะงานที่ปฏิบัติ คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ระยะการจ้าง และอัตราค่าตอบแทนปรากฏอยู่ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (ภาคผนวก ก)
2. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร
2.1 คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการพนักงาน ส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับพนักงานจ้าง
ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีปีบริบูรณ์ และไม่เกินหกสิบปี
(3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในประกาศกำหนดโรคที่เป็นลักษณะต้องห้ามเบื้องต้น สำหรับพนักงานส่วนตำบล ดังนี้
(ก) โรคเรื้อนในระยะติดต่อ หรือในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(ข) วัณโรคในระยะอันตราย
(ค) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(ง) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
(จ) โรคพิษสุราเรื้อรัง
(5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น
(7) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิด ทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) ไม่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
หมายเหตุ ผู้ที่ผ่านการสรรหาและเลือกสรรในวันที่ทำสัญญาจ้างจะต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น
คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
2.2 คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง/ลักษณะงาน และอัตราค่าตอบแทน
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง และได้รับอัตราค่าตอบแทนตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด แนบท้ายประกาศรับสมัครฉบับนี้
3. การรับสมัคร
3.1 วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร
ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง สามารถขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัคร พร้อมหลักฐานด้วยตัวเอง ได้ที่งานการเจ้าหน้าที่ (ชั้น 2) สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18 – 26 ธันวาคม 2566 ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า หรือ โทรศัพท์หมายเลข 0-3535-0776
3.2 เอกสารและหลักฐานที่ต้องนำมายื่นพร้อมใบสมัคร
ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่รับสมัครด้วยตนเอง ซึ่งผู้สมัครได้รับรองสำเนาถูกต้อง และลงลายมือชื่อกำกับไว้ในเอกสารทุกฉบับ ดังต่อไปนี้
(1) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 1 นิ้วถ่ายครั้งเดียวกันไม่เกิน 6 เดือน และให้ผู้สมัครเขียนชื่อ-สกุลไว้ด้านหลังรูปถ่ายทุกรูป จำนวน 3 รูป
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
(3) สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
(4) ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่เป็นโรคต้องห้ามตามประกาศที่คระกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยากำหนด
ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ตรวจร่างกาย (ฉบับจริง) จำนวน 1 ฉบับ
(5) สำเนาใบประกาศนียบัตร หรือหนังสือรับรองว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่งและระเบียนแสดงผลการเรียน ที่แสดงว่าผู้สมัครคัดเลือกเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัคร โดยจะต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติก่อนวันปิดรับสมัคร 1 วัน จำนวน 1 ฉบับ
(6) สำเนาเอกสารหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล ใบสำคัญการสมรส/หย่า ใบอนุญาตขับขี่ ฯลฯ (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ
ทั้งนี้ในเอกสารทุกฉบับให้ถ่ายสำเนากระดาษ A4 เท่านั้น ให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองสำเนาถูกต้อง และลงชื่อกำกับไว้ด้วย
3.3 ค่าธรรมเนียมการสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร จะต้องชำระค่าธรรมเนียม จำนวน 100.- บาท (หนึ่งร้อยบาทถ้วน) และเมื่อสมัครแล้วค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
3.4 เงื่อนไขในการสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตรงตามประกาศรับสมัครจริง และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัคร พร้อมทั้งยื่นหลักฐานในการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีความผิดพลาด อันเกิดจากผู้สมัครไม่ว่าเหตุผลใดๆ หรือคุณวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัคร อันเป็นผลทำให้ผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครตามประกาศรับสมัครดังกล่าว หากตรวจสอบพบเมื่อใดให้ถือว่าการรับสมัครและการเข้ารับการสรรหาครั้งนี้เป็นโมฆะสำหรับผู้นั้นตั้งแต่ต้น
4. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร วิธีการ กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการประเมินสมรรถนะ
4.1 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร ในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
และทางเว็บไซต์องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านหว้า www.banhwa.go.th
4.2 ดำเนินการสรรหาและเลือกสรร ในวันที่ 5 มกราคม 2566 ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
5. หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและเลือกสรร/หลักสูตรและวิธีการประเมิน
หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและเลือกสรรของแต่ละตำแหน่งจะยึดหลักสมรรถนะ ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการปฏิบัติงานในตำแหน่งที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด รายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาปรากฏอยู่ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (ภาคผนวก ข)
6. หลักเกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร ต้องเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนในการประเมินสมรรถนะจากการสรรหาและเลือกสรร ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยการดำเนินการจัดจ้างจะเป็นไปตามลำดับคะแนนที่สอบได้
7. การประกาศผลการสรรหาและเลือกสรร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรตามลำดับคะแนนที่สอบได้ ในวันที่ 8 มกราคม 2567 ณ ป้ายประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า และทางเว็บไซต์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า www.banhwa.go.th โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรตามลำดับที่จากผู้ได้รับคะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ ในกรณีที่ผู้สมัครได้คะแนนรวมเท่ากันจะให้ผู้สมัครก่อนเป็นผู้ที่ได้รับลำดับที่สูงกว่า โดยพิจารณาจากผู้ที่ได้รับหมายเลขประจำตัวผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร
8. การขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร
8.1 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร ไม่เกิน ๑ ปี นับตั้งแต่วันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร หากมีการสรรหาและเลือกสรรใหม่ในตำแหน่งดังกล่าวอีก ให้บัญชีเก่าเป็นอันยกเลิก
8.2 ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรและได้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการเลือกสรรแล้ว ถ้ามีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ให้เป็นอันยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร
(๑) ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรขอสละสิทธิ์การบรรจุแต่งตั้ง
(๒) ผ่านการสรรหาและเลือกสรรไม่มารายงานตัวเพื่อเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งภายในเวลา ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนดไว้
(๓) ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรที่แสดงหลักฐานหรือข้อความที่เป็นเท็จต่อทางราชการ
9. การสั่งจ้างและแต่งตั้ง
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะสั่งจ้างและแต่งตั้งผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้างตามลำดับที่ขึ้นบัญชีไว้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ก.อบต.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) แล้ว (กรณีพนักงานจ้างตามภารกิจ) โดยมีระยะเวลาการทำสัญญาจ้างพนักงานจ้าง ตามภารกิจ คราวละไม่เกิน 3 ปี และพนักงานจ้างทั่วไป ทำสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 1 ปี ตามกรอบแผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 - 2569 โดยจะต้องทำสัญญาจ้างและสัญญาค้ำประกันตามแบบที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวขาดคุณสมบัติ หรือคุณสมบัติไม่ตรงตามกำหนด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อาจถอนชื่อออกจากบัญชีผู้ที่ได้รับการสรรหาและเลือกสรรได้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบ้านหว้า
เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
ด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 7 ตำแหน่ง 11 อัตรา
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 18 และข้อ 19 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 และตามแผนอัตรากำลัง ๓ ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕67 - ๒๕๖9 จึงประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. ตำแหน่งที่รับสมัครสอบ
1.1 พนักงานจ้างตามภารกิจ จำนวน 5 ตำแหน่ง 5 อัตรา ดังนี้
สำนักปลัด
(1) ตำแหน่ง ผู้ช่วยนักวิเคราะห์นโยบายและแผน จำนวน 1 อัตรา
(2) ตำแหน่ง ผู้ช่วยครูผู้ช่วย จำนวน 1 อัตรา
(3) ตำแหน่ง ผู้ดูแลเด็ก จำนวน 1 อัตรา
(4) ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา
(5) ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา จำนวน 1 อัตรา
(รถบรรทุกขยะ)
1.2 พนักงานจ้างทั่วไป จำนวน 2 ตำแหน่ง 6 อัตรา ดังนี้
สำนักปลัด
(1) ตำแหน่ง คนงานประจำรถขยะ จำนวน 5 อัตรา
กองคลัง จำนวน 1 อัตรา
รายละเอียดลักษณะงานที่ปฏิบัติ คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ระยะการจ้าง และอัตราค่าตอบแทนปรากฏอยู่ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (ภาคผนวก ก)
2. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร
2.1 คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการพนักงาน ส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับพนักงานจ้าง
ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีปีบริบูรณ์ และไม่เกินหกสิบปี
(3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในประกาศกำหนดโรคที่เป็นลักษณะต้องห้ามเบื้องต้น สำหรับพนักงานส่วนตำบล ดังนี้
(ก) โรคเรื้อนในระยะติดต่อ หรือในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(ข) วัณโรคในระยะอันตราย
(ค) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(ง) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
(จ) โรคพิษสุราเรื้อรัง
(5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น
(7) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิด ทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) ไม่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
หมายเหตุ ผู้ที่ผ่านการสรรหาและเลือกสรรในวันที่ทำสัญญาจ้างจะต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น
คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
2.2 คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง/ลักษณะงาน และอัตราค่าตอบแทน
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง และได้รับอัตราค่าตอบแทนตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด แนบท้ายประกาศรับสมัครฉบับนี้
3. การรับสมัคร
3.1 วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร
ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง สามารถขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัคร พร้อมหลักฐานด้วยตัวเอง ได้ที่งานการเจ้าหน้าที่ (ชั้น 2) สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18 – 26 ธันวาคม 2566 ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า หรือ โทรศัพท์หมายเลข 0-3535-0776
3.2 เอกสารและหลักฐานที่ต้องนำมายื่นพร้อมใบสมัคร
ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่รับสมัครด้วยตนเอง ซึ่งผู้สมัครได้รับรองสำเนาถูกต้อง และลงลายมือชื่อกำกับไว้ในเอกสารทุกฉบับ ดังต่อไปนี้
(1) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 1 นิ้วถ่ายครั้งเดียวกันไม่เกิน 6 เดือน และให้ผู้สมัครเขียนชื่อ-สกุลไว้ด้านหลังรูปถ่ายทุกรูป จำนวน 3 รูป
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
(3) สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
(4) ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่เป็นโรคต้องห้ามตามประกาศที่คระกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยากำหนด
ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ตรวจร่างกาย (ฉบับจริง) จำนวน 1 ฉบับ
(5) สำเนาใบประกาศนียบัตร หรือหนังสือรับรองว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่งและระเบียนแสดงผลการเรียน ที่แสดงว่าผู้สมัครคัดเลือกเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัคร โดยจะต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติก่อนวันปิดรับสมัคร 1 วัน จำนวน 1 ฉบับ
(6) สำเนาเอกสารหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล ใบสำคัญการสมรส/หย่า ใบอนุญาตขับขี่ ฯลฯ (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ
ทั้งนี้ในเอกสารทุกฉบับให้ถ่ายสำเนากระดาษ A4 เท่านั้น ให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองสำเนาถูกต้อง และลงชื่อกำกับไว้ด้วย
3.3 ค่าธรรมเนียมการสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร จะต้องชำระค่าธรรมเนียม จำนวน 100.- บาท (หนึ่งร้อยบาทถ้วน) และเมื่อสมัครแล้วค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
3.4 เงื่อนไขในการสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตรงตามประกาศรับสมัครจริง และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัคร พร้อมทั้งยื่นหลักฐานในการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีความผิดพลาด อันเกิดจากผู้สมัครไม่ว่าเหตุผลใดๆ หรือคุณวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัคร อันเป็นผลทำให้ผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครตามประกาศรับสมัครดังกล่าว หากตรวจสอบพบเมื่อใดให้ถือว่าการรับสมัครและการเข้ารับการสรรหาครั้งนี้เป็นโมฆะสำหรับผู้นั้นตั้งแต่ต้น
4. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร วิธีการ กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการประเมินสมรรถนะ
4.1 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร ในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
และทางเว็บไซต์องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านหว้า www.banhwa.go.th
4.2 ดำเนินการสรรหาและเลือกสรร ในวันที่ 5 มกราคม 2566 ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
5. หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและเลือกสรร/หลักสูตรและวิธีการประเมิน
หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและเลือกสรรของแต่ละตำแหน่งจะยึดหลักสมรรถนะ ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการปฏิบัติงานในตำแหน่งที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด รายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาปรากฏอยู่ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (ภาคผนวก ข)
6. หลักเกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร ต้องเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนในการประเมินสมรรถนะจากการสรรหาและเลือกสรร ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยการดำเนินการจัดจ้างจะเป็นไปตามลำดับคะแนนที่สอบได้
7. การประกาศผลการสรรหาและเลือกสรร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรตามลำดับคะแนนที่สอบได้ ในวันที่ 8 มกราคม 2567 ณ ป้ายประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า และทางเว็บไซต์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า www.banhwa.go.th โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรตามลำดับที่จากผู้ได้รับคะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ ในกรณีที่ผู้สมัครได้คะแนนรวมเท่ากันจะให้ผู้สมัครก่อนเป็นผู้ที่ได้รับลำดับที่สูงกว่า โดยพิจารณาจากผู้ที่ได้รับหมายเลขประจำตัวผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร
8. การขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร
8.1 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร ไม่เกิน ๑ ปี นับตั้งแต่วันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร หากมีการสรรหาและเลือกสรรใหม่ในตำแหน่งดังกล่าวอีก ให้บัญชีเก่าเป็นอันยกเลิก
8.2 ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรและได้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการเลือกสรรแล้ว ถ้ามีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ให้เป็นอันยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร
(๑) ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรขอสละสิทธิ์การบรรจุแต่งตั้ง
(๒) ผ่านการสรรหาและเลือกสรรไม่มารายงานตัวเพื่อเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งภายในเวลา ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนดไว้
(๓) ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรที่แสดงหลักฐานหรือข้อความที่เป็นเท็จต่อทางราชการ
9. การสั่งจ้างและแต่งตั้ง
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะสั่งจ้างและแต่งตั้งผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้างตามลำดับที่ขึ้นบัญชีไว้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ก.อบต.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) แล้ว (กรณีพนักงานจ้างตามภารกิจ) โดยมีระยะเวลาการทำสัญญาจ้างพนักงานจ้าง ตามภารกิจ คราวละไม่เกิน 3 ปี และพนักงานจ้างทั่วไป ทำสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 1 ปี ตามกรอบแผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 - 2569 โดยจะต้องทำสัญญาจ้างและสัญญาค้ำประกันตามแบบที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวขาดคุณสมบัติ หรือคุณสมบัติไม่ตรงตามกำหนด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อาจถอนชื่อออกจากบัญชีผู้ที่ได้รับการสรรหาและเลือกสรรได้../add_file/ ประกาศองค์การบริหารส่วนตำบ้านหว้า
เรื่อง รับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567
ด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีความประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 7 ตำแหน่ง 11 อัตรา
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 18 และข้อ 19 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับพนักงานจ้าง ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 และตามแผนอัตรากำลัง ๓ ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕67 - ๒๕๖9 จึงประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
๑. ตำแหน่งที่รับสมัครสอบ
1.1 พนักงานจ้างตามภารกิจ จำนวน 5 ตำแหน่ง 5 อัตรา ดังนี้
สำนักปลัด
(1) ตำแหน่ง ผู้ช่วยนักวิเคราะห์นโยบายและแผน จำนวน 1 อัตรา
(2) ตำแหน่ง ผู้ช่วยครูผู้ช่วย จำนวน 1 อัตรา
(3) ตำแหน่ง ผู้ดูแลเด็ก จำนวน 1 อัตรา
(4) ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา
(5) ตำแหน่ง พนักงานขับเครื่องจักรกลขนาดเบา จำนวน 1 อัตรา
(รถบรรทุกขยะ)
1.2 พนักงานจ้างทั่วไป จำนวน 2 ตำแหน่ง 6 อัตรา ดังนี้
สำนักปลัด
(1) ตำแหน่ง คนงานประจำรถขยะ จำนวน 5 อัตรา
กองคลัง จำนวน 1 อัตรา
รายละเอียดลักษณะงานที่ปฏิบัติ คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ระยะการจ้าง และอัตราค่าตอบแทนปรากฏอยู่ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (ภาคผนวก ก)
2. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร
2.1 คุณสมบัติทั่วไป
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการพนักงาน ส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขเกี่ยวกับพนักงานจ้าง
ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 6) ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ดังนี้
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีปีบริบูรณ์ และไม่เกินหกสิบปี
(3) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(4) ไม่เป็นผู้มีกายทุพพลภาพจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดไว้ในประกาศกำหนดโรคที่เป็นลักษณะต้องห้ามเบื้องต้น สำหรับพนักงานส่วนตำบล ดังนี้
(ก) โรคเรื้อนในระยะติดต่อ หรือในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(ข) วัณโรคในระยะอันตราย
(ค) โรคเท้าช้างในระยะที่ปรากฏอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
(ง) โรคติดยาเสพติดให้โทษ
(จ) โรคพิษสุราเรื้อรัง
(5) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
(6) ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารท้องถิ่น คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น
(7) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกเพราะกระทำความผิด ทางอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานอื่นของรัฐ
(9) ไม่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
หมายเหตุ ผู้ที่ผ่านการสรรหาและเลือกสรรในวันที่ทำสัญญาจ้างจะต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรรมการพรรคการเมือง เจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ผู้บริหารท้องถิ่น
คณะผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ พนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานอื่นของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือพนักงานหรือลูกจ้างของราชการส่วนท้องถิ่น
2.2 คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง/ลักษณะงาน และอัตราค่าตอบแทน
ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง และได้รับอัตราค่าตอบแทนตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด แนบท้ายประกาศรับสมัครฉบับนี้
3. การรับสมัคร
3.1 วัน เวลา และสถานที่รับสมัคร
ผู้ที่ประสงค์จะสมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้าง สามารถขอรับใบสมัครและยื่นใบสมัคร พร้อมหลักฐานด้วยตัวเอง ได้ที่งานการเจ้าหน้าที่ (ชั้น 2) สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18 – 26 ธันวาคม 2566 ในวันและเวลาราชการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า หรือ โทรศัพท์หมายเลข 0-3535-0776
3.2 เอกสารและหลักฐานที่ต้องนำมายื่นพร้อมใบสมัคร
ผู้สมัครต้องยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานต่อเจ้าหน้าที่รับสมัครด้วยตนเอง ซึ่งผู้สมัครได้รับรองสำเนาถูกต้อง และลงลายมือชื่อกำกับไว้ในเอกสารทุกฉบับ ดังต่อไปนี้
(1) รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ ขนาด 1 นิ้วถ่ายครั้งเดียวกันไม่เกิน 6 เดือน และให้ผู้สมัครเขียนชื่อ-สกุลไว้ด้านหลังรูปถ่ายทุกรูป จำนวน 3 รูป
(2) สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ฉบับ
(3) สำเนาบัตรประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
(4) ใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าไม่เป็นโรคต้องห้ามตามประกาศที่คระกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยากำหนด
ซึ่งออกให้ไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ตรวจร่างกาย (ฉบับจริง) จำนวน 1 ฉบับ
(5) สำเนาใบประกาศนียบัตร หรือหนังสือรับรองว่าเป็นผู้สำเร็จการศึกษาอย่างใดอย่างหนึ่งและระเบียนแสดงผลการเรียน ที่แสดงว่าผู้สมัครคัดเลือกเป็นผู้มีคุณวุฒิการศึกษาตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัคร โดยจะต้องสำเร็จการศึกษาและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจอนุมัติก่อนวันปิดรับสมัคร 1 วัน จำนวน 1 ฉบับ
(6) สำเนาเอกสารหลักฐานอื่น ๆ เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล ใบสำคัญการสมรส/หย่า ใบอนุญาตขับขี่ ฯลฯ (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ
ทั้งนี้ในเอกสารทุกฉบับให้ถ่ายสำเนากระดาษ A4 เท่านั้น ให้ผู้สมัครเขียนคำรับรองสำเนาถูกต้อง และลงชื่อกำกับไว้ด้วย
3.3 ค่าธรรมเนียมการสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร จะต้องชำระค่าธรรมเนียม จำนวน 100.- บาท (หนึ่งร้อยบาทถ้วน) และเมื่อสมัครแล้วค่าธรรมเนียมจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
3.4 เงื่อนไขในการสมัคร
ผู้สมัครเข้ารับการสรรหาและเลือกสรรจะต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบและรับรองตนเองว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไป และคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตรงตามประกาศรับสมัครจริง และจะต้องกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ในใบสมัคร พร้อมทั้งยื่นหลักฐานในการสมัครให้ถูกต้องครบถ้วน ในกรณีที่มีความผิดพลาด อันเกิดจากผู้สมัครไม่ว่าเหตุผลใดๆ หรือคุณวุฒิการศึกษาไม่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่สมัคร อันเป็นผลทำให้ผู้สมัครไม่มีสิทธิสมัครตามประกาศรับสมัครดังกล่าว หากตรวจสอบพบเมื่อใดให้ถือว่าการรับสมัครและการเข้ารับการสรรหาครั้งนี้เป็นโมฆะสำหรับผู้นั้นตั้งแต่ต้น
4. ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร วิธีการ กำหนดวัน เวลา และสถานที่ในการประเมินสมรรถนะ
4.1 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร ในวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
และทางเว็บไซต์องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านหว้า www.banhwa.go.th
4.2 ดำเนินการสรรหาและเลือกสรร ในวันที่ 5 มกราคม 2566 ตั้งแต่ เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
5. หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและเลือกสรร/หลักสูตรและวิธีการประเมิน
หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาและเลือกสรรของแต่ละตำแหน่งจะยึดหลักสมรรถนะ ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับการปฏิบัติงานในตำแหน่งที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด รายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาปรากฏอยู่ในรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้ (ภาคผนวก ข)
6. หลักเกณฑ์การตัดสิน
ผู้ที่ถือว่าเป็นผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร ต้องเป็นผู้ที่ได้รับคะแนนในการประเมินสมรรถนะจากการสรรหาและเลือกสรร ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยการดำเนินการจัดจ้างจะเป็นไปตามลำดับคะแนนที่สอบได้
7. การประกาศผลการสรรหาและเลือกสรร
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรตามลำดับคะแนนที่สอบได้ ในวันที่ 8 มกราคม 2567 ณ ป้ายประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า และทางเว็บไซต์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า www.banhwa.go.th โดยจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรตามลำดับที่จากผู้ได้รับคะแนนรวมสูงสุดลงมาตามลำดับ ในกรณีที่ผู้สมัครได้คะแนนรวมเท่ากันจะให้ผู้สมัครก่อนเป็นผู้ที่ได้รับลำดับที่สูงกว่า โดยพิจารณาจากผู้ที่ได้รับหมายเลขประจำตัวผู้มีสิทธิเข้ารับการสรรหาและเลือกสรร
8. การขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร
8.1 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร ไม่เกิน ๑ ปี นับตั้งแต่วันประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร หากมีการสรรหาและเลือกสรรใหม่ในตำแหน่งดังกล่าวอีก ให้บัญชีเก่าเป็นอันยกเลิก
8.2 ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรและได้ขึ้นบัญชีผู้ผ่านการเลือกสรรแล้ว ถ้ามีกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ให้เป็นอันยกเลิกการขึ้นบัญชีผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรร
(๑) ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรขอสละสิทธิ์การบรรจุแต่งตั้ง
(๒) ผ่านการสรรหาและเลือกสรรไม่มารายงานตัวเพื่อเข้ารับการบรรจุและแต่งตั้งภายในเวลา ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนดไว้
(๓) ผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรที่แสดงหลักฐานหรือข้อความที่เป็นเท็จต่อทางราชการ
9. การสั่งจ้างและแต่งตั้ง
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า จะสั่งจ้างและแต่งตั้งผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานจ้างตามลำดับที่ขึ้นบัญชีไว้ เมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ก.อบต.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) แล้ว (กรณีพนักงานจ้างตามภารกิจ) โดยมีระยะเวลาการทำสัญญาจ้างพนักงานจ้าง ตามภารกิจ คราวละไม่เกิน 3 ปี และพนักงานจ้างทั่วไป ทำสัญญาจ้างคราวละไม่เกิน 1 ปี ตามกรอบแผนอัตรากำลัง 3 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 - 2569 โดยจะต้องทำสัญญาจ้างและสัญญาค้ำประกันตามแบบที่องค์การบริหาร ส่วนตำบลบ้านหว้ากำหนด ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าบุคคลดังกล่าวขาดคุณสมบัติ หรือคุณสมบัติไม่ตรงตามกำหนด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า อาจถอนชื่อออกจากบัญชีผู้ที่ได้รับการสรรหาและเลือกสรรได้
ชื่อไฟล์ : อยากจะบอกว่า"ปีนี้ไฟสวยมากๆ" ไปถ่ายภาพมาคือดีงาม มีรถรางไว้คอยบริการด้วยนะคะเพราะปีนี้มีหลากหลายโซนเลยน่ะออเจ้า
"ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก"
วันที่ 15-24 ธันวาคม 2566
3วันสุดท้าย ที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนกาลเวลาหาอดีต
#ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก2566
#AyutthayaWorldHeritage
#32ปีอยุธยาเมืองมรดกโลก
#UNESCO #ย้อนเวลา
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: อยากจะบอกว่า"ปีนี้ไฟสวยมากๆ" ไปถ่ายภาพมาคือดีงาม มีรถรางไว้คอยบริการด้วยนะคะเพราะปีนี้มีหลากหลายโซนเลยน่ะออเจ้า
"ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก"
วันที่ 15-24 ธันวาคม 2566
3วันสุดท้าย ที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนกาลเวลาหาอดีต
#ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก2566
#AyutthayaWorldHeritage
#32ปีอยุธยาเมืองมรดกโลก
#UNESCO #ย้อนเวลา../add_file/อยากจะบอกว่า"ปีนี้ไฟสวยมากๆ" ไปถ่ายภาพมาคือดีงาม มีรถรางไว้คอยบริการด้วยนะคะเพราะปีนี้มีหลากหลายโซนเลยน่ะออเจ้า
"ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก"
วันที่ 15-24 ธันวาคม 2566
3วันสุดท้าย ที่จะได้สัมผัสกับบรรยากาศย้อนกาลเวลาหาอดีต
#ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก2566
#AyutthayaWorldHeritage
#32ปีอยุธยาเมืองมรดกโลก
#UNESCO #ย้อนเวลา
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ร่วมหยุดทุกการทุจริต! ร่วมแสดงพลัง "Break the corruption" ไม่ทำ ไม่เฉย รวมไทยต้านโกง
ขอเชิญชวน ประชาชนผู้ไม่ทนต่อการทุจริตร่วมรับชมพร้อมกันทั้งประเทศ
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ตั้งแต่เวลา 08.00 น เป็นต้นไป
ร่วมรับชมการถ่ายทอดสด ได้ที่
Facebook สำนักงาน ป.ป.ช. https://www.facebook.com/NACCThailandOfficialFanpage
และทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ร่วมหยุดทุกการทุจริต! ร่วมแสดงพลัง "Break the corruption" ไม่ทำ ไม่เฉย รวมไทยต้านโกง
ขอเชิญชวน ประชาชนผู้ไม่ทนต่อการทุจริตร่วมรับชมพร้อมกันทั้งประเทศ
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ตั้งแต่เวลา 08.00 น เป็นต้นไป
ร่วมรับชมการถ่ายทอดสด ได้ที่
Facebook สำนักงาน ป.ป.ช. https://www.facebook.com/NACCThailandOfficialFanpage
และทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT../add_file/องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ร่วมหยุดทุกการทุจริต! ร่วมแสดงพลัง "Break the corruption" ไม่ทำ ไม่เฉย รวมไทยต้านโกง
ขอเชิญชวน ประชาชนผู้ไม่ทนต่อการทุจริตร่วมรับชมพร้อมกันทั้งประเทศ
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล (ประเทศไทย) ตั้งแต่เวลา 08.00 น เป็นต้นไป
ร่วมรับชมการถ่ายทอดสด ได้ที่
Facebook สำนักงาน ป.ป.ช. https://www.facebook.com/NACCThailandOfficialFanpage
และทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : https://ltcnew.nhso.go.th/ListCurrent
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://ltcnew.nhso.go.th/ListCurrent../add_file/https://ltcnew.nhso.go.th/ListCurrent
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : อบต.บ้านหว้า ขอเชิญร่วมงาน
ลอยกระทง
วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. เป็นต้นไป
ณ หอประชุมหมู่ ๒ ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน
สัมผัสบรรยากาศลอยกระทงริมแม่
♦️ประกวดหนูน้อยนพมาศ
♦️ประกวดกระทง ประเภทสวยงาม
♦️การแข่งขันพายเรือ ประเภท ๒ ฝีพาย
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: อบต.บ้านหว้า ขอเชิญร่วมงาน
ลอยกระทง
วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. เป็นต้นไป
ณ หอประชุมหมู่ ๒ ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน
สัมผัสบรรยากาศลอยกระทงริมแม่
♦️ประกวดหนูน้อยนพมาศ
♦️ประกวดกระทง ประเภทสวยงาม
♦️การแข่งขันพายเรือ ประเภท ๒ ฝีพาย
../add_file/อบต.บ้านหว้า ขอเชิญร่วมงาน
ลอยกระทง
วันจันทร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๘.๓๐ น. เป็นต้นไป
ณ หอประชุมหมู่ ๒ ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน
สัมผัสบรรยากาศลอยกระทงริมแม่
♦️ประกวดหนูน้อยนพมาศ
♦️ประกวดกระทง ประเภทสวยงาม
♦️การแข่งขันพายเรือ ประเภท ๒ ฝีพาย
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนสตรีไทย อายุระหว่าง 30 ถึง 59 ปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Samping)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง สะดวก ตรวจง่าย ไม่เจ็บ รู้ผลเร็ว ท่านใดสนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทาง อสม.ประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอรับชุดตรวจได้โดยตรงกับ รพ.สต.บ้านหว้า ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
เงื่อนไขการรับบริการดังนี้
1.ไม่จำกัดคนใน-นอกพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
2.สามารถขอรับการตรวจได้ทุกสิทธิการรักษา
(สิทธิบัตรทองในเขต/นอกเขตพื้นที่,สิทธิประกันสังคมรพ.รัฐ/รพ.เอกชน,สิทธิข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ)
3.ต้องไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนสตรีไทย อายุระหว่าง 30 ถึง 59 ปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Samping)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง สะดวก ตรวจง่าย ไม่เจ็บ รู้ผลเร็ว
ท่านใดสนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทาง อสม.ประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอรับชุดตรวจได้โดยตรงกับ รพ.สต.บ้านหว้า ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
เงื่อนไขการรับบริการดังนี้
1.ไม่จำกัดคนใน-นอกพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
2.สามารถขอรับการตรวจได้ทุกสิทธิการรักษา
(สิทธิบัตรทองในเขต/นอกเขตพื้นที่,สิทธิประกันสังคมรพ.รัฐ/รพ.เอกชน,สิทธิข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ)
3.ต้องไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา
ข่าวประชาสัมพันธ์...เรื่องที่ 2 จาก:
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนประชาชนตำบลบ้านหว้าที่เกิดก่อน ปี พ.ศ.2535 หรือผู้ที่มีอายุ 32 ปีขึ้นไป เข้ารับตรวจ คัดกรองโรคตับอักเสบบี และตับอักเสบซี ได้ฟรี ที่รพ.สต.บ้านหว้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนสตรีไทย อายุระหว่าง 30 ถึง 59 ปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Samping)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง สะดวก ตรวจง่าย ไม่เจ็บ รู้ผลเร็ว ท่านใดสนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทาง อสม.ประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอรับชุดตรวจได้โดยตรงกับ รพ.สต.บ้านหว้า ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
เงื่อนไขการรับบริการดังนี้
1.ไม่จำกัดคนใน-นอกพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
2.สามารถขอรับการตรวจได้ทุกสิทธิการรักษา
(สิทธิบัตรทองในเขต/นอกเขตพื้นที่,สิทธิประกันสังคมรพ.รัฐ/รพ.เอกชน,สิทธิข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ)
3.ต้องไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนสตรีไทย อายุระหว่าง 30 ถึง 59 ปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Samping)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง สะดวก ตรวจง่าย ไม่เจ็บ รู้ผลเร็ว
ท่านใดสนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทาง อสม.ประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอรับชุดตรวจได้โดยตรงกับ รพ.สต.บ้านหว้า ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
เงื่อนไขการรับบริการดังนี้
1.ไม่จำกัดคนใน-นอกพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
2.สามารถขอรับการตรวจได้ทุกสิทธิการรักษา
(สิทธิบัตรทองในเขต/นอกเขตพื้นที่,สิทธิประกันสังคมรพ.รัฐ/รพ.เอกชน,สิทธิข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ)
3.ต้องไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา
ข่าวประชาสัมพันธ์...เรื่องที่ 2 จาก:
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนประชาชนตำบลบ้านหว้าที่เกิดก่อน ปี พ.ศ.2535 หรือผู้ที่มีอายุ 32 ปีขึ้นไป เข้ารับตรวจ คัดกรองโรคตับอักเสบบี และตับอักเสบซี ได้ฟรี ที่รพ.สต.บ้านหว้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618../add_file/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนสตรีไทย อายุระหว่าง 30 ถึง 59 ปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Samping)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง สะดวก ตรวจง่าย ไม่เจ็บ รู้ผลเร็ว ท่านใดสนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทาง อสม.ประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอรับชุดตรวจได้โดยตรงกับ รพ.สต.บ้านหว้า ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
เงื่อนไขการรับบริการดังนี้
1.ไม่จำกัดคนใน-นอกพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
2.สามารถขอรับการตรวจได้ทุกสิทธิการรักษา
(สิทธิบัตรทองในเขต/นอกเขตพื้นที่,สิทธิประกันสังคมรพ.รัฐ/รพ.เอกชน,สิทธิข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ)
3.ต้องไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนสตรีไทย อายุระหว่าง 30 ถึง 59 ปี ตรวจมะเร็งปากมดลูกด้วยตนเอง (HPV Self Samping)
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ สามารถตรวจได้ด้วยตนเอง สะดวก ตรวจง่าย ไม่เจ็บ รู้ผลเร็ว
ท่านใดสนใจสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านทาง อสม.ประจำหมู่บ้าน หรือเข้ามาแจ้งความประสงค์ขอรับชุดตรวจได้โดยตรงกับ รพ.สต.บ้านหว้า ได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
เงื่อนไขการรับบริการดังนี้
1.ไม่จำกัดคนใน-นอกพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
2.สามารถขอรับการตรวจได้ทุกสิทธิการรักษา
(สิทธิบัตรทองในเขต/นอกเขตพื้นที่,สิทธิประกันสังคมรพ.รัฐ/รพ.เอกชน,สิทธิข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ)
3.ต้องไม่เคยเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา
ข่าวประชาสัมพันธ์...เรื่องที่ 2 จาก:
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ขอเชิญชวนประชาชนตำบลบ้านหว้าที่เกิดก่อน ปี พ.ศ.2535 หรือผู้ที่มีอายุ 32 ปีขึ้นไป เข้ารับตรวจ คัดกรองโรคตับอักเสบบี และตับอักเสบซี ได้ฟรี ที่รพ.สต.บ้านหว้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ในวันจันทร์ ถึง วันศุกร์ เวลา08.30น.-16.30น. หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 089-9017618
ชื่อไฟล์ : อบต.บ้านหว้า ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ออกรณรงค์และส่งเสริมการใช้ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ระดับครัวเรือน อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดปริมาณก๊าซมีเทนที่เป็นต้นเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจก และลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะของ อปถ.
ท้องถิ่นช่วยลดโลกร้อน #ท้องถิ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: อบต.บ้านหว้า ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ออกรณรงค์และส่งเสริมการใช้ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ระดับครัวเรือน อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดปริมาณก๊าซมีเทนที่เป็นต้นเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจก และลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะของ อปถ.
ท้องถิ่นช่วยลดโลกร้อน #ท้องถิ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม../add_file/อบต.บ้านหว้า ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน ออกรณรงค์และส่งเสริมการใช้ถังขยะเปียก ลดโลกร้อน ระดับครัวเรือน อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการลดปริมาณก๊าซมีเทนที่เป็นต้นเหตุของการเกิดก๊าซเรือนกระจก และลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะของ อปถ.
ท้องถิ่นช่วยลดโลกร้อน #ท้องถิ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : xbr8vfWTue24908.pdf
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์ : ประชาสัมพันธ์
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอเชิญร่วมงานลอยกระทง เที่ยวงานสืบสานประเพณีงานลอยกระทง ประจำปี 2566
ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566
ณ หอประชุมหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหว้า งานเริ่มตั้งแต่ เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป
ในงานมีการจัดกิจกรรม
♦️ประกวดหนูน้อยนพมาศ
♦️ประกวดกระทง ประเภทสวยงาม
♦️การแข่งขันพายเรือ ประเภท 2 ฝีพาย
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ประชาสัมพันธ์
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอเชิญร่วมงานลอยกระทง เที่ยวงานสืบสานประเพณีงานลอยกระทง ประจำปี 2566
ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566
ณ หอประชุมหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหว้า งานเริ่มตั้งแต่ เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป
ในงานมีการจัดกิจกรรม
♦️ประกวดหนูน้อยนพมาศ
♦️ประกวดกระทง ประเภทสวยงาม
♦️การแข่งขันพายเรือ ประเภท 2 ฝีพาย../add_file/ ประชาสัมพันธ์
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอเชิญร่วมงานลอยกระทง เที่ยวงานสืบสานประเพณีงานลอยกระทง ประจำปี 2566
ในวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566
ณ หอประชุมหมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหว้า งานเริ่มตั้งแต่ เวลา 8.30 น. เป็นต้นไป
ในงานมีการจัดกิจกรรม
♦️ประกวดหนูน้อยนพมาศ
♦️ประกวดกระทง ประเภทสวยงาม
♦️การแข่งขันพายเรือ ประเภท 2 ฝีพาย
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 1. แนวทางปฏิบัติด้านคุณธรรมจริยธรรมข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
2. ประกาศเจตนารมณ์ตามนโยบายการป้องกันการทุจริต องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
3. ประกาศคุณธรรม จริยธรรมข้าการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
4. เกร็ดความรู้ห่างไกล สตง.
5. รู้แล้วบอกต่อ บอกต่อเท่าที่รู้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 1. แนวทางปฏิบัติด้านคุณธรรมจริยธรรมข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
2. ประกาศเจตนารมณ์ตามนโยบายการป้องกันการทุจริต องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
3. ประกาศคุณธรรม จริยธรรมข้าการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
4. เกร็ดความรู้ห่างไกล สตง.
5. รู้แล้วบอกต่อ บอกต่อเท่าที่รู้ ../add_file/ 1. แนวทางปฏิบัติด้านคุณธรรมจริยธรรมข้าราชการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
2. ประกาศเจตนารมณ์ตามนโยบายการป้องกันการทุจริต องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
3. ประกาศคุณธรรม จริยธรรมข้าการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
4. เกร็ดความรู้ห่างไกล สตง.
5. รู้แล้วบอกต่อ บอกต่อเท่าที่รู้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ขั้นตอนการลงทะเบียน ThaID ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ThaiD คือ แอปพลิเคชัน การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อการยืนยันตัวตน จากทุกภาคส่วนเข้ามาไว้ด้วยกันแทนระบบเดิมที่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ต้องมาเผชิญหน้าและแสดงตน เพื่อยืนยันตัวตนด้วยเอกสารทางราชการ เป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรม ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางดิจิทัล และมีความปลอดภัยมากขึ้นและอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ยังลดความเสี่ยงในการใช้เอกสารราชการปลอม ในกระบวนการยืนยันตัวตนของระบบเพื่อสนับสนุนการบริการประชาชนของภาครัฐและเอกชน
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD จะมีทางเลือกในการลงทะเบียน 2 รูปแบบ คือ ลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและการตรวจสอบภาพใบหน้า หรือลงทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง แล้วทำตามขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งจะมีการให้กำหนดรหัสผ่านส่วนบุคคล (8 หลัก) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ตัวอย่างงานบริการสำคัญ เช่น การแจ้งย้ายที่อยู่ คัดและรับรองเอกสารทางทะเบียน การตรวจสอบข้อมูลตัวเอง สวัสดิการ ทรัพย์สิน รวมไปถึงการใช้แสดงตน ในสนามบินภายในประเทศ หน่วยงานภาครัฐ แทนการใช้บัตรประชาชนและเอกสารทะเบียนบ้าน
#ThaID #ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
#ขั้นตอนลงทะเบียน #ด้วยตนเอง
#กระทรวงมหาดไทย #กรมการปกครอง
https://youtu.be/SYJUpbfoe8Q
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ขั้นตอนการลงทะเบียน ThaID ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ThaiD คือ แอปพลิเคชัน การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อการยืนยันตัวตน จากทุกภาคส่วนเข้ามาไว้ด้วยกันแทนระบบเดิมที่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ต้องมาเผชิญหน้าและแสดงตน เพื่อยืนยันตัวตนด้วยเอกสารทางราชการ เป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรม ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางดิจิทัล และมีความปลอดภัยมากขึ้นและอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ยังลดความเสี่ยงในการใช้เอกสารราชการปลอม ในกระบวนการยืนยันตัวตนของระบบเพื่อสนับสนุนการบริการประชาชนของภาครัฐและเอกชน
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD จะมีทางเลือกในการลงทะเบียน 2 รูปแบบ คือ ลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและการตรวจสอบภาพใบหน้า หรือลงทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง แล้วทำตามขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งจะมีการให้กำหนดรหัสผ่านส่วนบุคคล (8 หลัก) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ตัวอย่างงานบริการสำคัญ เช่น การแจ้งย้ายที่อยู่ คัดและรับรองเอกสารทางทะเบียน การตรวจสอบข้อมูลตัวเอง สวัสดิการ ทรัพย์สิน รวมไปถึงการใช้แสดงตน ในสนามบินภายในประเทศ หน่วยงานภาครัฐ แทนการใช้บัตรประชาชนและเอกสารทะเบียนบ้าน
#ThaID #ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
#ขั้นตอนลงทะเบียน #ด้วยตนเอง
#กระทรวงมหาดไทย #กรมการปกครอง
https://youtu.be/SYJUpbfoe8Q../add_file/ขั้นตอนการลงทะเบียน ThaID ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ThaiD คือ แอปพลิเคชัน การพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะเชื่อมต่อการยืนยันตัวตน จากทุกภาคส่วนเข้ามาไว้ด้วยกันแทนระบบเดิมที่ผู้ให้บริการและผู้รับบริการ ต้องมาเผชิญหน้าและแสดงตน เพื่อยืนยันตัวตนด้วยเอกสารทางราชการ เป็นการสร้างมิติใหม่ของการทำธุรกรรม ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางดิจิทัล และมีความปลอดภัยมากขึ้นและอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ยังลดความเสี่ยงในการใช้เอกสารราชการปลอม ในกระบวนการยืนยันตัวตนของระบบเพื่อสนับสนุนการบริการประชาชนของภาครัฐและเอกชน
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD จะมีทางเลือกในการลงทะเบียน 2 รูปแบบ คือ ลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและการตรวจสอบภาพใบหน้า หรือลงทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง แล้วทำตามขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งจะมีการให้กำหนดรหัสผ่านส่วนบุคคล (8 หลัก) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
ตัวอย่างงานบริการสำคัญ เช่น การแจ้งย้ายที่อยู่ คัดและรับรองเอกสารทางทะเบียน การตรวจสอบข้อมูลตัวเอง สวัสดิการ ทรัพย์สิน รวมไปถึงการใช้แสดงตน ในสนามบินภายในประเทศ หน่วยงานภาครัฐ แทนการใช้บัตรประชาชนและเอกสารทะเบียนบ้าน
#ThaID #ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล
#ขั้นตอนลงทะเบียน #ด้วยตนเอง
#กระทรวงมหาดไทย #กรมการปกครอง
https://youtu.be/SYJUpbfoe8Q
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=61
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=61../add_file/https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=61
ชื่อไฟล์ : 1. คู่มือการใช้งาน word 2007
2. คู่มือการปฏิบัติงาน กองทุนหลักประกันสุขภาพ
3. การจัดการความรู้การเขียนหนังสือราชการ
4. คู่มือการปฏิบัติงานการจัดเก็บภาษี
5. คู่มือการปฏิบัติงานธุรการและงานสารบรรณ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 1. คู่มือการใช้งาน word 2007
2. คู่มือการปฏิบัติงาน กองทุนหลักประกันสุขภาพ
3. การจัดการความรู้การเขียนหนังสือราชการ
4. คู่มือการปฏิบัติงานการจัดเก็บภาษี
5. คู่มือการปฏิบัติงานธุรการและงานสารบรรณ ../add_file/ 1. คู่มือการใช้งาน word 2007
2. คู่มือการปฏิบัติงาน กองทุนหลักประกันสุขภาพ
3. การจัดการความรู้การเขียนหนังสือราชการ
4. คู่มือการปฏิบัติงานการจัดเก็บภาษี
5. คู่มือการปฏิบัติงานธุรการและงานสารบรรณ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 5 ไอเดีย ลดภาวะโลกร้อน
1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี
2.ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
3.เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวง จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 กิโลกรัมต่อปี เติมน้ำมันชีวภาพ
4.เติมน้ำมันพลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานประเภทน้ำมัน
5.ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตัน ต่อรถยนต์แต่ละคัน
#ท้องถิ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม #ท้องถิ่นช่วยลดโลกร้อน
ที่มา : https://tech.mthai.com/tips-technic/40583.html ผู้จัดทำ : นางสาวปริศนา ลาเหล่า สำนักวิเคราะห์และติดตามประเมินผล อบก.
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 5 ไอเดีย ลดภาวะโลกร้อน
1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี
2.ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
3.เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวง จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 กิโลกรัมต่อปี เติมน้ำมันชีวภาพ
4.เติมน้ำมันพลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานประเภทน้ำมัน
5.ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตัน ต่อรถยนต์แต่ละคัน
#ท้องถิ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม #ท้องถิ่นช่วยลดโลกร้อน
ที่มา : https://tech.mthai.com/tips-technic/40583.html ผู้จัดทำ : นางสาวปริศนา ลาเหล่า สำนักวิเคราะห์และติดตามประเมินผล อบก.
../add_file/5 ไอเดีย ลดภาวะโลกร้อน
1.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี
2.ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย ช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
3.เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวง จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 กิโลกรัมต่อปี เติมน้ำมันชีวภาพ
4.เติมน้ำมันพลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานประเภทน้ำมัน
5.ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วยลดการใช้น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตัน ต่อรถยนต์แต่ละคัน
#ท้องถิ่นรักษ์สิ่งแวดล้อม #ท้องถิ่นช่วยลดโลกร้อน
ที่มา : https://tech.mthai.com/tips-technic/40583.html ผู้จัดทำ : นางสาวปริศนา ลาเหล่า สำนักวิเคราะห์และติดตามประเมินผล อบก.
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=62
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=62../add_file/https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=62
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : 1. ประกาศนโยบายมาตฐาน คุณธรรม จริยธรรม อบต.บ้านหว้า
2. ประกาศเจตนารมณ์ตามนโยบายการป้องกันการทุจริต องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
3. แผนพัฒนาบุคลากร (พ.ศ.2555-2557)
4. แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 1. ประกาศนโยบายมาตฐาน คุณธรรม จริยธรรม อบต.บ้านหว้า
2. ประกาศเจตนารมณ์ตามนโยบายการป้องกันการทุจริต องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
3. แผนพัฒนาบุคลากร (พ.ศ.2555-2557)
4. แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร ../add_file/ 1. ประกาศนโยบายมาตฐาน คุณธรรม จริยธรรม อบต.บ้านหว้า
2. ประกาศเจตนารมณ์ตามนโยบายการป้องกันการทุจริต องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
3. แผนพัฒนาบุคลากร (พ.ศ.2555-2557)
4. แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาบุคลากร
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=63
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=63../add_file/https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=63
ชื่อไฟล์ : 1. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548
2. คุ่มือจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลควบคุมภายในข้อ 6
3. คุ่มือจัดรายงานการติดตามประเมินผลควบคุมภายในข้อ 5
4. คู่มือการเดินทางไปราชการ
5. หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งพนักงานครูฯ พ.ศ.2558
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 1. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548
2. คุ่มือจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลควบคุมภายในข้อ 6
3. คุ่มือจัดรายงานการติดตามประเมินผลควบคุมภายในข้อ 5
4. คู่มือการเดินทางไปราชการ
5. หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งพนักงานครูฯ พ.ศ.2558 ../add_file/ 1. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548
2. คุ่มือจัดทำรายงานการติดตามประเมินผลควบคุมภายในข้อ 6
3. คุ่มือจัดรายงานการติดตามประเมินผลควบคุมภายในข้อ 5
4. คู่มือการเดินทางไปราชการ
5. หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการกำหนดตำแหน่งพนักงานครูฯ พ.ศ.2558
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : รู้จักของประเภทถังขยะกัน!
1. ถังขยะสำหรับขยะอินทรีย์ ขยะเปียก (สีเขียว)
ขยะอินทรีย์ คือ ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว เช่น เศษอาหาร เปลือกผลไม้ เศษผัก เนื้อสัตว์ เศษใบไม้แห้ง
ประโยชน์จากการแยกขยะ : นำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ใส่ต้นไม้ แปลงผักสวนครัวได้
2. ถังขยะสำหรับขยะทั่วไป (สีน้ำเงิน)
เป็นขยะที่มักจะย่อยสลายไม่ได้ หรือย่อยสลายยากแต่ไม่เป็นพิษและไม่คุ้มค่าต่อการรีไซเคิล จำเป็นต้องหาวิธีกำจัดอย่างถูกวิธี เช่น ซองขนม กล่องโฟม ถุงพลาสติก ภาชนะปนเปื้อนอาหาร กระดาษชานอ้อย
ประโยชน์จากการแยกขยะ : นำผ่านเทคโนโลยีการผลิตเพื่อนำกลับมาใช้เป็นวัสดุใหม่
3.ถังขยะสำหรับขยะรีไซเคิล (สีเหลือง)
ขยะรีไซเคิลก็คือขยะที่เราทิ้งไปแล้วสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งได้ ไม่ใช่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น ขวดพลาสติก, ถุงพลาสติก, ขวดแก้ว, กระป๋อง, กล่องกระดาษ, กระดาษ
ประโยชน์จากการแยกขยะ: ผลิตขาเทียม ผลิตหลังคารีไซเคิล ผลิตหลอดไฟ ผลิตจีวรพระสงฆ์
4. ถังขยะสำหรับขยะอันตราย (สีแดง)
ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีสารปนเปื้อนวัตถุอันตรายชนิดต่างๆ เช่น สารพิษ วัตถุติดเชื้อได้ วัตถุกัดกร่อน เช่น ถ่านไฟฉาย, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ยาหมดอายุ, วัตถุไวไฟ, กระป๋องเสปรย์
ประโยชน์จากการแยกขยะ: แยกขยะเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีตาม เพื่อไม่ไห้รั่วซึมลงแหล่งน้ำ หรือชั้นผิวดิน
ส่วนข้อดีของการแยกขยะก็มีมากมาย! ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยลดปริมาณขยะ
การแยกขยะเพิ่มการนำกลับมารีไซเคิล เราจะเหลือขยะที่ต้องกำจัดน้อยลง ขยะบนโลกก็จะลดลงด้วย
ประหยัดงบในการกำจัดขยะ
นำงบส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ลดการสิ้นเปลืองพลังงานและทรัพยากร
ของที่สามารถกลับมารีไซเคิลได้จะช่วยเพิ่มรายได้และลดทรัพยากรโลกในการผลิตใหม่อีกครั้งด้วยนะ
รักษาสิ่งแวดล้อมลดมลพิษในโลก
การแยกขยะ ทำให้เรากำจัดขยะได้ถูกวิธีมากขึ้น ลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อดีของการแยกขยะ มีเพียบเลยใช่ไหมคะ? :) รู้อย่างนี้แล้วต้องช่วยกันแยกขยะเพื่อเรา เพื่อโลกกันนะ ที่บ้านเพื่อนๆ แยกขยะยังไงกันบ้างมาแชร์ไอเดียกันได้ที่ Facebook Page : CP for Sustainability ลิงค์นี้เลย
https://www.facebook.com/CPGroupSustainability/posts/1330283557169709
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รู้จักของประเภทถังขยะกัน!
1. ถังขยะสำหรับขยะอินทรีย์ ขยะเปียก (สีเขียว)
ขยะอินทรีย์ คือ ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว เช่น เศษอาหาร เปลือกผลไม้ เศษผัก เนื้อสัตว์ เศษใบไม้แห้ง
ประโยชน์จากการแยกขยะ : นำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ใส่ต้นไม้ แปลงผักสวนครัวได้
2. ถังขยะสำหรับขยะทั่วไป (สีน้ำเงิน)
เป็นขยะที่มักจะย่อยสลายไม่ได้ หรือย่อยสลายยากแต่ไม่เป็นพิษและไม่คุ้มค่าต่อการรีไซเคิล จำเป็นต้องหาวิธีกำจัดอย่างถูกวิธี เช่น ซองขนม กล่องโฟม ถุงพลาสติก ภาชนะปนเปื้อนอาหาร กระดาษชานอ้อย
ประโยชน์จากการแยกขยะ : นำผ่านเทคโนโลยีการผลิตเพื่อนำกลับมาใช้เป็นวัสดุใหม่
3.ถังขยะสำหรับขยะรีไซเคิล (สีเหลือง)
ขยะรีไซเคิลก็คือขยะที่เราทิ้งไปแล้วสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งได้ ไม่ใช่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น ขวดพลาสติก, ถุงพลาสติก, ขวดแก้ว, กระป๋อง, กล่องกระดาษ, กระดาษ
ประโยชน์จากการแยกขยะ: ผลิตขาเทียม ผลิตหลังคารีไซเคิล ผลิตหลอดไฟ ผลิตจีวรพระสงฆ์
4. ถังขยะสำหรับขยะอันตราย (สีแดง)
ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีสารปนเปื้อนวัตถุอันตรายชนิดต่างๆ เช่น สารพิษ วัตถุติดเชื้อได้ วัตถุกัดกร่อน เช่น ถ่านไฟฉาย, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ยาหมดอายุ, วัตถุไวไฟ, กระป๋องเสปรย์
ประโยชน์จากการแยกขยะ: แยกขยะเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีตาม เพื่อไม่ไห้รั่วซึมลงแหล่งน้ำ หรือชั้นผิวดิน
ส่วนข้อดีของการแยกขยะก็มีมากมาย! ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยลดปริมาณขยะ
การแยกขยะเพิ่มการนำกลับมารีไซเคิล เราจะเหลือขยะที่ต้องกำจัดน้อยลง ขยะบนโลกก็จะลดลงด้วย
ประหยัดงบในการกำจัดขยะ
นำงบส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ลดการสิ้นเปลืองพลังงานและทรัพยากร
ของที่สามารถกลับมารีไซเคิลได้จะช่วยเพิ่มรายได้และลดทรัพยากรโลกในการผลิตใหม่อีกครั้งด้วยนะ
รักษาสิ่งแวดล้อมลดมลพิษในโลก
การแยกขยะ ทำให้เรากำจัดขยะได้ถูกวิธีมากขึ้น ลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อดีของการแยกขยะ มีเพียบเลยใช่ไหมคะ? :) รู้อย่างนี้แล้วต้องช่วยกันแยกขยะเพื่อเรา เพื่อโลกกันนะ ที่บ้านเพื่อนๆ แยกขยะยังไงกันบ้างมาแชร์ไอเดียกันได้ที่ Facebook Page : CP for Sustainability ลิงค์นี้เลย
https://www.facebook.com/CPGroupSustainability/posts/1330283557169709../add_file/ รู้จักของประเภทถังขยะกัน!
1. ถังขยะสำหรับขยะอินทรีย์ ขยะเปียก (สีเขียว)
ขยะอินทรีย์ คือ ขยะที่เน่าเสียและย่อยสลายได้เร็ว เช่น เศษอาหาร เปลือกผลไม้ เศษผัก เนื้อสัตว์ เศษใบไม้แห้ง
ประโยชน์จากการแยกขยะ : นำไปทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ใส่ต้นไม้ แปลงผักสวนครัวได้
2. ถังขยะสำหรับขยะทั่วไป (สีน้ำเงิน)
เป็นขยะที่มักจะย่อยสลายไม่ได้ หรือย่อยสลายยากแต่ไม่เป็นพิษและไม่คุ้มค่าต่อการรีไซเคิล จำเป็นต้องหาวิธีกำจัดอย่างถูกวิธี เช่น ซองขนม กล่องโฟม ถุงพลาสติก ภาชนะปนเปื้อนอาหาร กระดาษชานอ้อย
ประโยชน์จากการแยกขยะ : นำผ่านเทคโนโลยีการผลิตเพื่อนำกลับมาใช้เป็นวัสดุใหม่
3.ถังขยะสำหรับขยะรีไซเคิล (สีเหลือง)
ขยะรีไซเคิลก็คือขยะที่เราทิ้งไปแล้วสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งได้ ไม่ใช่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น ขวดพลาสติก, ถุงพลาสติก, ขวดแก้ว, กระป๋อง, กล่องกระดาษ, กระดาษ
ประโยชน์จากการแยกขยะ: ผลิตขาเทียม ผลิตหลังคารีไซเคิล ผลิตหลอดไฟ ผลิตจีวรพระสงฆ์
4. ถังขยะสำหรับขยะอันตราย (สีแดง)
ขยะอันตราย คือ ขยะที่มีสารปนเปื้อนวัตถุอันตรายชนิดต่างๆ เช่น สารพิษ วัตถุติดเชื้อได้ วัตถุกัดกร่อน เช่น ถ่านไฟฉาย, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ยาหมดอายุ, วัตถุไวไฟ, กระป๋องเสปรย์
ประโยชน์จากการแยกขยะ: แยกขยะเพื่อนำไปกำจัดอย่างถูกวิธีตาม เพื่อไม่ไห้รั่วซึมลงแหล่งน้ำ หรือชั้นผิวดิน
ส่วนข้อดีของการแยกขยะก็มีมากมาย! ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยลดปริมาณขยะ
การแยกขยะเพิ่มการนำกลับมารีไซเคิล เราจะเหลือขยะที่ต้องกำจัดน้อยลง ขยะบนโลกก็จะลดลงด้วย
ประหยัดงบในการกำจัดขยะ
นำงบส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
ลดการสิ้นเปลืองพลังงานและทรัพยากร
ของที่สามารถกลับมารีไซเคิลได้จะช่วยเพิ่มรายได้และลดทรัพยากรโลกในการผลิตใหม่อีกครั้งด้วยนะ
รักษาสิ่งแวดล้อมลดมลพิษในโลก
การแยกขยะ ทำให้เรากำจัดขยะได้ถูกวิธีมากขึ้น ลดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อดีของการแยกขยะ มีเพียบเลยใช่ไหมคะ? :) รู้อย่างนี้แล้วต้องช่วยกันแยกขยะเพื่อเรา เพื่อโลกกันนะ ที่บ้านเพื่อนๆ แยกขยะยังไงกันบ้างมาแชร์ไอเดียกันได้ที่ Facebook Page : CP for Sustainability ลิงค์นี้เลย
https://www.facebook.com/CPGroupSustainability/posts/1330283557169709
ชื่อไฟล์ : รอปรับปรุง
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: รอปรับปรุง../add_file/รอปรับปรุง
ชื่อไฟล์ : https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=64
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=64../add_file/https://www.nonthonglang.go.th/showall.php?cat=64
ชื่อไฟล์ :
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี พ.ศ. 2566
ระหว่างวันที่ 15 - 24 ธันวาคม 2566
ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ✨✨
เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยได้กำหนดให้มีกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน เช่น การแสดงแสง-เสียง ถนนกินเส้น ร้านกาชาด ลานวัฒนธรรม ตลาดย้อนยุค จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรกร ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP เป็นต้น
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี พ.ศ. 2566
ระหว่างวันที่ 15 - 24 ธันวาคม 2566
ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ✨✨
เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยได้กำหนดให้มีกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน เช่น การแสดงแสง-เสียง ถนนกินเส้น ร้านกาชาด ลานวัฒนธรรม ตลาดย้อนยุค จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรกร ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP เป็นต้น../add_file/
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำหนดจัดงาน “ยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก” ประจำปี พ.ศ. 2566
ระหว่างวันที่ 15 - 24 ธันวาคม 2566
ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ✨✨
เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติได้ขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยได้กำหนดให้มีกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน เช่น การแสดงแสง-เสียง ถนนกินเส้น ร้านกาชาด ลานวัฒนธรรม ตลาดย้อนยุค จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรกร ผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP เป็นต้น
ชื่อไฟล์ : 10 วิธีลดโลกร้อนง่าย ๆ ที่คุณทำได้ทุกวัน
1.ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ (Refill)
3.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้
4.เปลี่ยนจากหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดพลังงาน
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
6.ทางเดียวกันไปด้วยกัน
7.ปลูกต้นไม้ยืนต้นในทิศทางที่ช่วยบังแดดให้บ้านร่มรื่น
8.แยกขยะให้ถูกประเภท เพื่อการรีไซเคิลและการจัดการที่เหมาะสม
9.ให้ความรู้ ชักชวนคนใกล้ตัวให้ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
10.ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 10 วิธีลดโลกร้อนง่าย ๆ ที่คุณทำได้ทุกวัน
1.ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ (Refill)
3.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้
4.เปลี่ยนจากหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดพลังงาน
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
6.ทางเดียวกันไปด้วยกัน
7.ปลูกต้นไม้ยืนต้นในทิศทางที่ช่วยบังแดดให้บ้านร่มรื่น
8.แยกขยะให้ถูกประเภท เพื่อการรีไซเคิลและการจัดการที่เหมาะสม
9.ให้ความรู้ ชักชวนคนใกล้ตัวให้ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
10.ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า../add_file/10 วิธีลดโลกร้อนง่าย ๆ ที่คุณทำได้ทุกวัน
1.ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ (Refill)
3.ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้
4.เปลี่ยนจากหลอดไส้เป็นหลอดประหยัดพลังงาน
5.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
6.ทางเดียวกันไปด้วยกัน
7.ปลูกต้นไม้ยืนต้นในทิศทางที่ช่วยบังแดดให้บ้านร่มรื่น
8.แยกขยะให้ถูกประเภท เพื่อการรีไซเคิลและการจัดการที่เหมาะสม
9.ให้ความรู้ ชักชวนคนใกล้ตัวให้ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
10.ใช้กระดาษทั้ง 2 หน้า
ชื่อไฟล์ : แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ (เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒนาชุมชน)
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ (เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒนาชุมชน)../add_file/แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ (เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒนาชุมชน)
ชื่อไฟล์ : ทุกอย่างมีเดดไลน์... SDGs เองก็เช่นกัน
Sustainable Development Goals (SDGs) หรือ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN ???????? คือ
แนวทางการพัฒนาที่ประเทศสมาชิก UN 193
ประเทศยอมรับและนํามาปรับใช้ในบริบทของ
ประเทศตนเองตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา SDGs
ประกอบด้วยเป้าหมาย 17 ข้อ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะ
ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ใน
ขณะเดียวกันก็อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และไม่ทิ้ง
ใครไว้ข้างหลัง ???? โดยประเทศสมาชิกตกลงกันว่าจะ
บรรลุ SDGs ให้ได้ภายในปี 2030 รวมระยะเวลา
ดําเนินงาน 15 ปี
ขณะนี้ แม้พวกเราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว เหลือ
เวลาอีก 7 ปี แต่รายงานล่าสุดจากเลขาธิการ
สหประชาชาติชี้ให้เห็นว่ามีเป้าหมายเพียง 12% ที่
จะบรรลุได้ทันปี 2030... ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ประเทศสมาชิก UN ทุกประเทศจึงจะมารวมตัวกันที่
การประชุม #SDGSummit ณ สํานักงานใหญ่
สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก และร่วมกําหนดทิศ
ทางการทํางานในช่วงเวลา 7 ปีสุดท้าย เพื่อให้โลก
ของเราบรรลุ SDGs ได้ทันเวลา
แล้วมาร่วมติดตามผลของการประชุม SDG
Summit ไปกับเรา!
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDGs ทั้ง 17 ข้อได้ที่:
https://thailand.un.org/th/sdgs #GlobalGoals
#17SDGsแค่นี้เราทําได้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ทุกอย่างมีเดดไลน์... SDGs เองก็เช่นกัน
Sustainable Development Goals (SDGs) หรือ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN ???????? คือ
แนวทางการพัฒนาที่ประเทศสมาชิก UN 193
ประเทศยอมรับและนํามาปรับใช้ในบริบทของ
ประเทศตนเองตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา SDGs
ประกอบด้วยเป้าหมาย 17 ข้อ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะ
ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ใน
ขณะเดียวกันก็อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และไม่ทิ้ง
ใครไว้ข้างหลัง ???? โดยประเทศสมาชิกตกลงกันว่าจะ
บรรลุ SDGs ให้ได้ภายในปี 2030 รวมระยะเวลา
ดําเนินงาน 15 ปี
ขณะนี้ แม้พวกเราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว เหลือ
เวลาอีก 7 ปี แต่รายงานล่าสุดจากเลขาธิการ
สหประชาชาติชี้ให้เห็นว่ามีเป้าหมายเพียง 12% ที่
จะบรรลุได้ทันปี 2030... ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ประเทศสมาชิก UN ทุกประเทศจึงจะมารวมตัวกันที่
การประชุม #SDGSummit ณ สํานักงานใหญ่
สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก และร่วมกําหนดทิศ
ทางการทํางานในช่วงเวลา 7 ปีสุดท้าย เพื่อให้โลก
ของเราบรรลุ SDGs ได้ทันเวลา
แล้วมาร่วมติดตามผลของการประชุม SDG
Summit ไปกับเรา!
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDGs ทั้ง 17 ข้อได้ที่:
https://thailand.un.org/th/sdgs #GlobalGoals
#17SDGsแค่นี้เราทําได้../add_file/ทุกอย่างมีเดดไลน์... SDGs เองก็เช่นกัน
Sustainable Development Goals (SDGs) หรือ
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ UN ???????? คือ
แนวทางการพัฒนาที่ประเทศสมาชิก UN 193
ประเทศยอมรับและนํามาปรับใช้ในบริบทของ
ประเทศตนเองตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา SDGs
ประกอบด้วยเป้าหมาย 17 ข้อ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะ
ก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ ที่ใน
ขณะเดียวกันก็อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และไม่ทิ้ง
ใครไว้ข้างหลัง ???? โดยประเทศสมาชิกตกลงกันว่าจะ
บรรลุ SDGs ให้ได้ภายในปี 2030 รวมระยะเวลา
ดําเนินงาน 15 ปี
ขณะนี้ แม้พวกเราเดินทางมาถึงครึ่งทางแล้ว เหลือ
เวลาอีก 7 ปี แต่รายงานล่าสุดจากเลขาธิการ
สหประชาชาติชี้ให้เห็นว่ามีเป้าหมายเพียง 12% ที่
จะบรรลุได้ทันปี 2030... ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
ประเทศสมาชิก UN ทุกประเทศจึงจะมารวมตัวกันที่
การประชุม #SDGSummit ณ สํานักงานใหญ่
สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก และร่วมกําหนดทิศ
ทางการทํางานในช่วงเวลา 7 ปีสุดท้าย เพื่อให้โลก
ของเราบรรลุ SDGs ได้ทันเวลา
แล้วมาร่วมติดตามผลของการประชุม SDG
Summit ไปกับเรา!
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SDGs ทั้ง 17 ข้อได้ที่:
https://thailand.un.org/th/sdgs #GlobalGoals
#17SDGsแค่นี้เราทําได้
ชื่อไฟล์ : ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
139 หมู่ 5 ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13160
โทรศัพท์ : 0-3535-0776 ,โทรสาร 0-353-3928
E-Mail : admin@banhwa.go.th
(อีเมลกลาง) : saraban@banhwa.go.th
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
139 หมู่ 5 ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13160
โทรศัพท์ : 0-3535-0776 ,โทรสาร 0-353-3928
E-Mail : admin@banhwa.go.th
(อีเมลกลาง) : saraban@banhwa.go.th
../add_file/ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
139 หมู่ 5 ตำบลบ้านหว้า อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13160
โทรศัพท์ : 0-3535-0776 ,โทรสาร 0-353-3928
E-Mail : admin@banhwa.go.th
(อีเมลกลาง) : saraban@banhwa.go.th
ชื่อไฟล์ : 11 วิธีลดโลกร้อนที่คุณอาจคาดไม่ถึง แต่คอนเฟิร์มว่าเวิร์คจริง!
วิธีลดโลกร้อนแบบเบสิค เราเชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว ตั้งแต่การลดใช้พลาสติก แยกขยะ ลดการใช้แอร์ ลดใช้ยานพาหนะส่วนตัว ฯลฯ แต่วันนี้ OfficeMate มี 11 วิธีลดโลกร้อนที่เราหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง แต่เชื่อเถอะว่าทำแล้วช่วยลดโลกร้อนได้จริง! แต่ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกับภาวะโลกร้อนให้มากขึ้นกันก่อน ลุยเลย!
ภาวะโลกร้อน คืออะไร?
ภาวะโลกร้อน คือ ปรากฎการณ์ที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งปรากฎการณ์นี้ทำให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตบนโลก และมนุษย์อย่างเราๆ
วิธีลดภาวะโลกร้อน
สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน
สาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะโลกร้อน เป็นผลกระทบมาจากภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect) ซึ่งภาวะเรือนกระจกนี้ เกิดจากการที่ชั้นบรรยากาศมีก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) มากเกินไป
ก๊าซเรือนกระจก ประกอบขึ้นเป็นชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลกของเราเอาไว้ แต่ต้องบอกก่อนว่าก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่ตัวร้าย เพราะหน้าที่หลักของก๊าซเรือนกระจก คือ การรักษาระดับอุณหภูมิของโลกให้คงที่ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอากาศร้อนจัด หรือหนาวจัดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ในทางกลับกัน หากบนชั้นบรรยากาศมีก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป ก็จะทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะโลกร้อนนั่นเอง
ก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ก๊าซมีเทน (CH4), ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O), ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอไรด์ (SF6) ฯลฯ ซึ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างเราเองที่เป็นตัวการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
วิธีลดภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน ไม่เพียงแต่ทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพอากาศ สิ่งมีชีวิตบนโลก ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์เราเองด้วย ผลกระทบที่เห็นได้ชัดจากภาวะโลกร้อน คือ น้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังละลายอย่างรวดเร็ว ปะการังในทะเลตายมากขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจนเอ่อล้น และคลื่นความร้อนที่ทำให้คนเสียชีวิตได้ นอกจากนั้น ยังมีผลกระทบทางอ้อมอื่นๆ เช่น บรรดาสัตว์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้น หรือผลผลิตทางการเกษตรต่ำลง เป็นต้น ซึ่งการจะลดภาวะโลกร้อนลงได้ ก็คือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
11 วิธีที่คุณอาจคาดไม่ถึง แต่คอนเฟิร์มว่าช่วยลดโลกร้อนได้จริง
วิธีลดภาวะโลกร้อน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารท้องถิ่นให้มากขึ้น เพื่อลดการขนส่งอาหารหรือวัตถุดิบจากต่างถิ่น จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ใช้ขนส่งอาหารและวัตถุดิบ ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนมากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการลดบริโภคเนื้อสัตว์ เพราะการทำปศุสัตว์อาจนำไปสู่การเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการเผาป่าทำให้เกิดก๊าซพิษมากมาย นอกจากนั้น การทำปศุสัตว์โดยเฉพาะสัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างวัว ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจากมูลสัตว์ปริมาณมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้ง หากการลดบริโภคเนื้อสัตว์เป็นเรื่องยาก ก็แนะนำให้กินอาหารให้หมด เพราะขยะจากอาหารเหลือทิ้งที่หมักหมมกันนั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทนเช่นกัน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารแช่แข็งให้น้อยลง เพราะตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการเก็บรักษา ไปจนถึงกระบวนการขนส่งอาหารแช่แข็ง ล้วนแต่ใช้พลังงานปริมาณมาก และก่อให้เกิดก๊าซพิษ นอกจากนั้น การกินอาหารแช่แข็งเป็นประจำ ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์มากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED หากใครยังใช้หลอดไฟแบบเก่า หรือหลอดไส้ แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นหลอดตะเกียบ หรือหลอดไฟ LED เพราะกินไฟน้อยกว่า สว่างมากกว่า มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอาจจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้อีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนตู้เย็นเครื่องใหม่ เพราะตู้เย็นเก่าๆ ที่ประสิทธิภาพลดลงต้องใช้พลังงานมากในการทำความเย็นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ที่ประสิทธิภาพดีกว่าถึง 2 เท่า และยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าอีกด้วย หากคุณใช้ตู้เย็นเครื่องเก่ามานานกว่า 10 ปี แนะนำให้ซื้อตู้เย็นใหม่ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี หมั่นละลายน้ำแข็ง ไม่แช่ของร้อนในตู้เย็น เพื่อลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นลง
ลดโลกร้อนด้วยการเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยชิ้น เพราะสินค้าบางชนิดอาจมาพร้อมบรรจุภัณฑ์หลายชั้น ซึ่งนอกจากจะใช้พลังงานในกระบวนการผลิตเยอะขึ้นแล้ว บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกที่ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ อาจเป็นการเพิ่มขยะพลาสติกไปโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น สินค้าที่สามารถเติมใหม่ได้ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็แนะนำให้ใช้แบบถุงเติม จะช่วยลดขยะ และช่วยประหยัดเงินเพิ่มขึ้นได้
ลดโลกร้อนด้วยการเช็คลมยางก่อนสตาร์ท เพราะการขับรถที่มีลมยางน้อย จะใช้พลังงานมาก ส่งผลให้ใช้น้ำมันมากขึ้นถึง 3% และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไซด์มากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นทั้งที่บ้านและในสำนักงาน ควรปิดสวิตช์ และดึงปลั๊กออกทุกครั้ง เพื่อตัดวงจรไฟฟ้า ลดการใช้ไฟบ้าน จะช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 16%
ลดโลกร้อนด้วยการรีดผ้าครั้งละมากๆ เพราะเตารีดก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง การรีดผ้าครั้งละตัวสองตัว ช่วงเวลาที่รอให้เตารีดร้อนนั่นเองที่ทำให้เปลืองไฟมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
ลดโลกร้อนด้วยการตากผ้ากับแดด เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดทำให้ผ้าแห้ง แทนการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องอบผ้าที่มีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจก
จะเห็นแล้วว่าวิธีการลดโลกร้อนมีมากกว่าการลดใช้พลาสติก แยกขยะ ปลูกต้นไม้ หรือลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ซึ่งแต่ละวิธีก็สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันของเราๆ ทั้งหมด OfficeMate เชื่อว่า หากเราทุกคนเริ่มลงมือกันทีละนิดทีละหน่อย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมประจำวัน แม้จะไม่เห็นผลทันตา แต่จะสามารถช่วยให้อุณหภูมิของโลกลดลงได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.greenpeace.org
gracz.co.th
www.dtac.co.th
mgronline.com
Tags: บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ลดโลกร้อน วิธีลดโลกร้อน
Post navigation
Prev post: Prev Post
Next post:Next Post
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 11 วิธีลดโลกร้อนที่คุณอาจคาดไม่ถึง แต่คอนเฟิร์มว่าเวิร์คจริง!
วิธีลดโลกร้อนแบบเบสิค เราเชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว ตั้งแต่การลดใช้พลาสติก แยกขยะ ลดการใช้แอร์ ลดใช้ยานพาหนะส่วนตัว ฯลฯ แต่วันนี้ OfficeMate มี 11 วิธีลดโลกร้อนที่เราหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง แต่เชื่อเถอะว่าทำแล้วช่วยลดโลกร้อนได้จริง! แต่ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกับภาวะโลกร้อนให้มากขึ้นกันก่อน ลุยเลย!
ภาวะโลกร้อน คืออะไร?
ภาวะโลกร้อน คือ ปรากฎการณ์ที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งปรากฎการณ์นี้ทำให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตบนโลก และมนุษย์อย่างเราๆ
วิธีลดภาวะโลกร้อน
สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน
สาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะโลกร้อน เป็นผลกระทบมาจากภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect) ซึ่งภาวะเรือนกระจกนี้ เกิดจากการที่ชั้นบรรยากาศมีก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) มากเกินไป
ก๊าซเรือนกระจก ประกอบขึ้นเป็นชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลกของเราเอาไว้ แต่ต้องบอกก่อนว่าก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่ตัวร้าย เพราะหน้าที่หลักของก๊าซเรือนกระจก คือ การรักษาระดับอุณหภูมิของโลกให้คงที่ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอากาศร้อนจัด หรือหนาวจัดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ในทางกลับกัน หากบนชั้นบรรยากาศมีก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป ก็จะทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะโลกร้อนนั่นเอง
ก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ก๊าซมีเทน (CH4), ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O), ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอไรด์ (SF6) ฯลฯ ซึ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างเราเองที่เป็นตัวการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
วิธีลดภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน ไม่เพียงแต่ทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพอากาศ สิ่งมีชีวิตบนโลก ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์เราเองด้วย ผลกระทบที่เห็นได้ชัดจากภาวะโลกร้อน คือ น้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังละลายอย่างรวดเร็ว ปะการังในทะเลตายมากขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจนเอ่อล้น และคลื่นความร้อนที่ทำให้คนเสียชีวิตได้ นอกจากนั้น ยังมีผลกระทบทางอ้อมอื่นๆ เช่น บรรดาสัตว์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้น หรือผลผลิตทางการเกษตรต่ำลง เป็นต้น ซึ่งการจะลดภาวะโลกร้อนลงได้ ก็คือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
11 วิธีที่คุณอาจคาดไม่ถึง แต่คอนเฟิร์มว่าช่วยลดโลกร้อนได้จริง
วิธีลดภาวะโลกร้อน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารท้องถิ่นให้มากขึ้น เพื่อลดการขนส่งอาหารหรือวัตถุดิบจากต่างถิ่น จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ใช้ขนส่งอาหารและวัตถุดิบ ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนมากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการลดบริโภคเนื้อสัตว์ เพราะการทำปศุสัตว์อาจนำไปสู่การเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการเผาป่าทำให้เกิดก๊าซพิษมากมาย นอกจากนั้น การทำปศุสัตว์โดยเฉพาะสัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างวัว ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจากมูลสัตว์ปริมาณมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้ง หากการลดบริโภคเนื้อสัตว์เป็นเรื่องยาก ก็แนะนำให้กินอาหารให้หมด เพราะขยะจากอาหารเหลือทิ้งที่หมักหมมกันนั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทนเช่นกัน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารแช่แข็งให้น้อยลง เพราะตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการเก็บรักษา ไปจนถึงกระบวนการขนส่งอาหารแช่แข็ง ล้วนแต่ใช้พลังงานปริมาณมาก และก่อให้เกิดก๊าซพิษ นอกจากนั้น การกินอาหารแช่แข็งเป็นประจำ ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์มากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED หากใครยังใช้หลอดไฟแบบเก่า หรือหลอดไส้ แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นหลอดตะเกียบ หรือหลอดไฟ LED เพราะกินไฟน้อยกว่า สว่างมากกว่า มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอาจจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้อีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนตู้เย็นเครื่องใหม่ เพราะตู้เย็นเก่าๆ ที่ประสิทธิภาพลดลงต้องใช้พลังงานมากในการทำความเย็นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ที่ประสิทธิภาพดีกว่าถึง 2 เท่า และยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าอีกด้วย หากคุณใช้ตู้เย็นเครื่องเก่ามานานกว่า 10 ปี แนะนำให้ซื้อตู้เย็นใหม่ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี หมั่นละลายน้ำแข็ง ไม่แช่ของร้อนในตู้เย็น เพื่อลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นลง
ลดโลกร้อนด้วยการเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยชิ้น เพราะสินค้าบางชนิดอาจมาพร้อมบรรจุภัณฑ์หลายชั้น ซึ่งนอกจากจะใช้พลังงานในกระบวนการผลิตเยอะขึ้นแล้ว บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกที่ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ อาจเป็นการเพิ่มขยะพลาสติกไปโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น สินค้าที่สามารถเติมใหม่ได้ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็แนะนำให้ใช้แบบถุงเติม จะช่วยลดขยะ และช่วยประหยัดเงินเพิ่มขึ้นได้
ลดโลกร้อนด้วยการเช็คลมยางก่อนสตาร์ท เพราะการขับรถที่มีลมยางน้อย จะใช้พลังงานมาก ส่งผลให้ใช้น้ำมันมากขึ้นถึง 3% และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไซด์มากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นทั้งที่บ้านและในสำนักงาน ควรปิดสวิตช์ และดึงปลั๊กออกทุกครั้ง เพื่อตัดวงจรไฟฟ้า ลดการใช้ไฟบ้าน จะช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 16%
ลดโลกร้อนด้วยการรีดผ้าครั้งละมากๆ เพราะเตารีดก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง การรีดผ้าครั้งละตัวสองตัว ช่วงเวลาที่รอให้เตารีดร้อนนั่นเองที่ทำให้เปลืองไฟมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
ลดโลกร้อนด้วยการตากผ้ากับแดด เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดทำให้ผ้าแห้ง แทนการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องอบผ้าที่มีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจก
จะเห็นแล้วว่าวิธีการลดโลกร้อนมีมากกว่าการลดใช้พลาสติก แยกขยะ ปลูกต้นไม้ หรือลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ซึ่งแต่ละวิธีก็สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันของเราๆ ทั้งหมด OfficeMate เชื่อว่า หากเราทุกคนเริ่มลงมือกันทีละนิดทีละหน่อย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมประจำวัน แม้จะไม่เห็นผลทันตา แต่จะสามารถช่วยให้อุณหภูมิของโลกลดลงได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.greenpeace.org
gracz.co.th
www.dtac.co.th
mgronline.com
Tags: บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ลดโลกร้อน วิธีลดโลกร้อน
Post navigation
Prev post: Prev Post
Next post:Next Post../add_file/11 วิธีลดโลกร้อนที่คุณอาจคาดไม่ถึง แต่คอนเฟิร์มว่าเวิร์คจริง!
วิธีลดโลกร้อนแบบเบสิค เราเชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว ตั้งแต่การลดใช้พลาสติก แยกขยะ ลดการใช้แอร์ ลดใช้ยานพาหนะส่วนตัว ฯลฯ แต่วันนี้ OfficeMate มี 11 วิธีลดโลกร้อนที่เราหลายคนอาจจะคาดไม่ถึง แต่เชื่อเถอะว่าทำแล้วช่วยลดโลกร้อนได้จริง! แต่ก่อนอื่น เราไปทำความรู้จักกับภาวะโลกร้อนให้มากขึ้นกันก่อน ลุยเลย!
ภาวะโลกร้อน คืออะไร?
ภาวะโลกร้อน คือ ปรากฎการณ์ที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งปรากฎการณ์นี้ทำให้สภาพอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตบนโลก และมนุษย์อย่างเราๆ
วิธีลดภาวะโลกร้อน
สาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน
สาเหตุหลักที่ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะโลกร้อน เป็นผลกระทบมาจากภาวะเรือนกระจก (Greenhouse Effect) ซึ่งภาวะเรือนกระจกนี้ เกิดจากการที่ชั้นบรรยากาศมีก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gas) มากเกินไป
ก๊าซเรือนกระจก ประกอบขึ้นเป็นชั้นบรรยากาศห่อหุ้มโลกของเราเอาไว้ แต่ต้องบอกก่อนว่าก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่ตัวร้าย เพราะหน้าที่หลักของก๊าซเรือนกระจก คือ การรักษาระดับอุณหภูมิของโลกให้คงที่ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอากาศร้อนจัด หรือหนาวจัดจนสิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่ในทางกลับกัน หากบนชั้นบรรยากาศมีก๊าซเรือนกระจกมากเกินไป ก็จะทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น จนเกิดเป็นภาวะโลกร้อนนั่นเอง
ก๊าซเรือนกระจก เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ก๊าซมีเทน (CH4), ก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O), ก๊าซซัลเฟอร์เฮกซ่าฟลูโอไรด์ (SF6) ฯลฯ ซึ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างเราเองที่เป็นตัวการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหล่านี้ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศ
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
วิธีลดภาวะโลกร้อน
ภาวะโลกร้อน ไม่เพียงแต่ทำให้อุณหภูมิในโลกสูงขึ้น แต่ยังส่งผลต่อสภาพอากาศ สิ่งมีชีวิตบนโลก ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์เราเองด้วย ผลกระทบที่เห็นได้ชัดจากภาวะโลกร้อน คือ น้ำแข็งขั้วโลกที่กำลังละลายอย่างรวดเร็ว ปะการังในทะเลตายมากขึ้น ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจนเอ่อล้น และคลื่นความร้อนที่ทำให้คนเสียชีวิตได้ นอกจากนั้น ยังมีผลกระทบทางอ้อมอื่นๆ เช่น บรรดาสัตว์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากขึ้น หรือผลผลิตทางการเกษตรต่ำลง เป็นต้น ซึ่งการจะลดภาวะโลกร้อนลงได้ ก็คือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
11 วิธีที่คุณอาจคาดไม่ถึง แต่คอนเฟิร์มว่าช่วยลดโลกร้อนได้จริง
วิธีลดภาวะโลกร้อน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารท้องถิ่นให้มากขึ้น เพื่อลดการขนส่งอาหารหรือวัตถุดิบจากต่างถิ่น จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของยานพาหนะที่ใช้ขนส่งอาหารและวัตถุดิบ ทั้งยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่น ช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนมากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการลดบริโภคเนื้อสัตว์ เพราะการทำปศุสัตว์อาจนำไปสู่การเผาป่า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งการเผาป่าทำให้เกิดก๊าซพิษมากมาย นอกจากนั้น การทำปศุสัตว์โดยเฉพาะสัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างวัว ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจากมูลสัตว์ปริมาณมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารให้หมดไม่เหลือทิ้ง หากการลดบริโภคเนื้อสัตว์เป็นเรื่องยาก ก็แนะนำให้กินอาหารให้หมด เพราะขยะจากอาหารเหลือทิ้งที่หมักหมมกันนั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทนเช่นกัน
ลดโลกร้อนด้วยการกินอาหารแช่แข็งให้น้อยลง เพราะตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการเก็บรักษา ไปจนถึงกระบวนการขนส่งอาหารแช่แข็ง ล้วนแต่ใช้พลังงานปริมาณมาก และก่อให้เกิดก๊าซพิษ นอกจากนั้น การกินอาหารแช่แข็งเป็นประจำ ยังเป็นการเพิ่มปริมาณขยะพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์มากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED หากใครยังใช้หลอดไฟแบบเก่า หรือหลอดไส้ แนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นหลอดตะเกียบ หรือหลอดไฟ LED เพราะกินไฟน้อยกว่า สว่างมากกว่า มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และอาจจะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้อีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการเปลี่ยนตู้เย็นเครื่องใหม่ เพราะตู้เย็นเก่าๆ ที่ประสิทธิภาพลดลงต้องใช้พลังงานมากในการทำความเย็นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ที่ประสิทธิภาพดีกว่าถึง 2 เท่า และยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าอีกด้วย หากคุณใช้ตู้เย็นเครื่องเก่ามานานกว่า 10 ปี แนะนำให้ซื้อตู้เย็นใหม่ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี หมั่นละลายน้ำแข็ง ไม่แช่ของร้อนในตู้เย็น เพื่อลดการใช้พลังงานในการทำความเย็นลง
ลดโลกร้อนด้วยการเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อยชิ้น เพราะสินค้าบางชนิดอาจมาพร้อมบรรจุภัณฑ์หลายชั้น ซึ่งนอกจากจะใช้พลังงานในกระบวนการผลิตเยอะขึ้นแล้ว บรรจุภัณฑ์ชั้นนอกที่ไม่สามารถนำไปใช้ซ้ำได้ อาจเป็นการเพิ่มขยะพลาสติกไปโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น สินค้าที่สามารถเติมใหม่ได้ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม ก็แนะนำให้ใช้แบบถุงเติม จะช่วยลดขยะ และช่วยประหยัดเงินเพิ่มขึ้นได้
ลดโลกร้อนด้วยการเช็คลมยางก่อนสตาร์ท เพราะการขับรถที่มีลมยางน้อย จะใช้พลังงานมาก ส่งผลให้ใช้น้ำมันมากขึ้นถึง 3% และยังปล่อยก๊าซคาร์บอนไซด์มากขึ้นอีกด้วย
ลดโลกร้อนด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังใช้งาน เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นทั้งที่บ้านและในสำนักงาน ควรปิดสวิตช์ และดึงปลั๊กออกทุกครั้ง เพื่อตัดวงจรไฟฟ้า ลดการใช้ไฟบ้าน จะช่วยลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 16%
ลดโลกร้อนด้วยการรีดผ้าครั้งละมากๆ เพราะเตารีดก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสูง การรีดผ้าครั้งละตัวสองตัว ช่วงเวลาที่รอให้เตารีดร้อนนั่นเองที่ทำให้เปลืองไฟมากขึ้นโดยไม่จำเป็น
ลดโลกร้อนด้วยการตากผ้ากับแดด เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ โดยใช้ประโยชน์จากแสงแดดทำให้ผ้าแห้ง แทนการใช้ไฟฟ้าจากเครื่องอบผ้าที่มีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจก
จะเห็นแล้วว่าวิธีการลดโลกร้อนมีมากกว่าการลดใช้พลาสติก แยกขยะ ปลูกต้นไม้ หรือลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว ซึ่งแต่ละวิธีก็สัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันของเราๆ ทั้งหมด OfficeMate เชื่อว่า หากเราทุกคนเริ่มลงมือกันทีละนิดทีละหน่อย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมประจำวัน แม้จะไม่เห็นผลทันตา แต่จะสามารถช่วยให้อุณหภูมิของโลกลดลงได้อย่างแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก
www.greenpeace.org
gracz.co.th
www.dtac.co.th
mgronline.com
Tags: บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ลดโลกร้อน วิธีลดโลกร้อน
Post navigation
Prev post: Prev Post
Next post:Next Post
ชื่อไฟล์ :
สำนักงาน ป.ป.ช. ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส
ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ได้รับคะแนนการประเมิน ITA
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
91.97
อยู่ในระดับ “ผ่าน”
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
สำนักงาน ป.ป.ช. ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส
ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ได้รับคะแนนการประเมิน ITA
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
91.97
อยู่ในระดับ “ผ่าน”../add_file/
สำนักงาน ป.ป.ช. ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใส
ในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ได้รับคะแนนการประเมิน ITA
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566
91.97
อยู่ในระดับ “ผ่าน”
ชื่อไฟล์ :
" class="w3-tag w3-theme-d4 w3-round w3-margin">
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์:
../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : วิธีลดภาวะโลกร้อน
1. ถอดปลั๊กไฟฟ้าทุกครั้งที่เลิกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า รู้มั๊ยคะว่าการใช้ไฟฟ้าในบ้านมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึง 16%
2. หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการตากผ้าแทนการ อบผ้าในเครื่องซักผ้า
3. การรีดผ้า ควรรีดครั้งละมาก ๆแทนการัดทีละตัว เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้า
4. ปิดแอร์บ้าง แล้วหันมาใช้พัดลมหรือว่าเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น
5. เวลาไปที่ห้างสรรพสินค้าอย่าเปิดประตูทิ้งไว้ เพราะแอร์จะทำงานหนักมากว่าปกติ
6. ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ นอกจากจะเป็นการได้ออกกำลังกายแล้วยังประหยัดได้เยอะขึ้นรู้มั้ยคะว่า
การกดลิฟต์หนึ่งครั้งจะเป็นการเสียค่าไฟถึงครั้งละ 7 บาท
7. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น โดยเปิดเฉพาะด้วยที่เราจำเป็นต้องใช้จริง ๆ
8. ลดๆ การเล่นเกมลงบ้าง เพราะนอกจากสายตาจะเสียแล้ว ยังเปลืองไฟมาก ๆ อีกด้วย
9. ตู้เย็นสมัยคุณแม่ยังสาว ขายทิ้งไปได้แล้ว เพราะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ถึง 2 เท่า
10. บอกคุณพ่อคุณแม่ให้เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่าและประหยัดกว่าหลอดปกติ 40%
11. ยืดอายุตู้เย็นด้วยการไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็น และหลักเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร
12. ละลายน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ
13. ใช้รถเมล์ รถไฟฟ้าแทนการใช้รถส่วนตัว
14. ถ้าไม่ได้ไปไหนไกล ๆ ให้ใช้จักรยาน หรือเดินไปก็ดีนะคะ ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
15. ใช้กระดาษแต่ละแผ่นอย่างประหยัดกระดาษรียูทหนังสือพิมพ์ เพราะกระดาษเหล่านั้นมาจากการตัดต้นไม้
16. เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว เอาไปบริจาคบ้างก็ได้ เพราะในบางบริษัทมีการรับ บริจาคเสื้อที่ใช้แล้ว จะนำไปหลอมมาทำเป็นเส้นใยใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 71%
17. ลดใช้พลาสติก โดยใช้ของที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เช่น กระเป๋าผ้า หรือกระติกน้ำ
18. พยายามทานอาหารให้หมด เพราะเศษอาหารเหล่านั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งก่อให้เกิดความร้อนต่อโลกเพิ่มขึ้น
19. ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนนได้อีกทางด้วยค่ะ
20. พยายามลดเนื้อสัตว์ที่เคี้ยวเอื้องอย่าง วัว เพราะมูลของสัตว์เหล่านั้นจะปล่อยก๊าซมีเทน
21 กินผักผลไม้เยอะ ๆ เพราะอุตสาหกรรมการเกษตรไม่ปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นตัวเพิ่มความร้อนให้อากาศ
22. กระดาษหนังสือพิมพ์ไม่ใช้แล้ว อย่าทิ้ง สามารถนำมาเช็ดกระจกให้ใสแจ๋วได้
23. ใช้เศษผ้าเช็ดสิ่งสกปรกแทนกระดาษชำระ
24. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐาน
25. ไปตลาดสดแทนซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ซื้อผัก ผลไม้ หมู ไก่ ปลา เพราะสินค้าที่ห่อด้วยพลาสติกและโฟมนั้นจะทำให้เกิดขยะจำนวนมากมายมหาศาล
26. ใช้น้ำประปาอย่างประหยัด เพราะระบบการผลิตน้ำประปาของเทศบาล
ต่าง ๆ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการทำให้น้ำสะอาด
27. ลดปริมาณการทิ้งขยะลงบ้าง
28. ป้องกันการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศด้วยการแยกขยะอินทรีย์ เช่น พวกเศษผักและเศษอาหารออกจากขยะอื่น ๆ ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์
29. บอกคุณพ่อคุณแม่ให้ขับรถความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
30. ทาหลังคาบ้านด้วยสีอ่อน เพื่อช่วยลดการดูดซับความร้อน
31. ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้อากาศ ปลูกไผ่แทนรั้ว ต้นไผ่เติบโตเร็วเป็นรั้วธรรมชาติที่สวยงาม และยังดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี อาจจะลำบากไปหน่อยแต่ก็เก๋ไม่น้อยนะคะ
32. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ เพื่อเป็นการลดขยะจากห่อของบรรจุภัณฑ์
33. ลดปริมาณขยะโดยใช้หลัก 3R คือ Reuse, Recycle, Reduce
34. ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีในสวนไม้ประดับที่บ้าน แต่ขอให้เลือกใช้ปุ๋ยหมักจากธรรมชาติแทน
35. ทานสเต็กและแฮมเบอร์เกอร์ในร้านใหญ่ ๆ ให้น้อยลงบ้างเพราะอุตสาหกรรมเนื้อระดับนานาชาติผลิตก๊าซเรือนกระจกถึง 18 % สาเหตุหลักก็คือไนตรัสออกไซด์และมีเทนจากมูลวัว
36. มีส่วนร่วมกิจกรรมรณรงค์สิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยเผยแพร่ และการลดปัญหาโลกร้อน
37. อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ตามพระราชดำรัสของในหลวงนะคะ
38. ประหยัดพลังงานเท่าที่จะทำได้ทั้งน้ำ ไฟ น้ำมัน เพื่อให้ลูกหลานของเรามีสิ่งเหล่านี้ใช้กันต่อไปในอนาคต
49. อย่าลืมนำวิธีดี ๆ เหล่านี้ไปบอกต่อเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: วิธีลดภาวะโลกร้อน
1. ถอดปลั๊กไฟฟ้าทุกครั้งที่เลิกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า รู้มั๊ยคะว่าการใช้ไฟฟ้าในบ้านมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึง 16%
2. หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการตากผ้าแทนการ อบผ้าในเครื่องซักผ้า
3. การรีดผ้า ควรรีดครั้งละมาก ๆแทนการัดทีละตัว เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้า
4. ปิดแอร์บ้าง แล้วหันมาใช้พัดลมหรือว่าเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น
5. เวลาไปที่ห้างสรรพสินค้าอย่าเปิดประตูทิ้งไว้ เพราะแอร์จะทำงานหนักมากว่าปกติ
6. ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ นอกจากจะเป็นการได้ออกกำลังกายแล้วยังประหยัดได้เยอะขึ้นรู้มั้ยคะว่า
การกดลิฟต์หนึ่งครั้งจะเป็นการเสียค่าไฟถึงครั้งละ 7 บาท
7. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น โดยเปิดเฉพาะด้วยที่เราจำเป็นต้องใช้จริง ๆ
8. ลดๆ การเล่นเกมลงบ้าง เพราะนอกจากสายตาจะเสียแล้ว ยังเปลืองไฟมาก ๆ อีกด้วย
9. ตู้เย็นสมัยคุณแม่ยังสาว ขายทิ้งไปได้แล้ว เพราะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ถึง 2 เท่า
10. บอกคุณพ่อคุณแม่ให้เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่าและประหยัดกว่าหลอดปกติ 40%
11. ยืดอายุตู้เย็นด้วยการไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็น และหลักเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร
12. ละลายน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ
13. ใช้รถเมล์ รถไฟฟ้าแทนการใช้รถส่วนตัว
14. ถ้าไม่ได้ไปไหนไกล ๆ ให้ใช้จักรยาน หรือเดินไปก็ดีนะคะ ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
15. ใช้กระดาษแต่ละแผ่นอย่างประหยัดกระดาษรียูทหนังสือพิมพ์ เพราะกระดาษเหล่านั้นมาจากการตัดต้นไม้
16. เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว เอาไปบริจาคบ้างก็ได้ เพราะในบางบริษัทมีการรับ บริจาคเสื้อที่ใช้แล้ว จะนำไปหลอมมาทำเป็นเส้นใยใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 71%
17. ลดใช้พลาสติก โดยใช้ของที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เช่น กระเป๋าผ้า หรือกระติกน้ำ
18. พยายามทานอาหารให้หมด เพราะเศษอาหารเหล่านั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งก่อให้เกิดความร้อนต่อโลกเพิ่มขึ้น
19. ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนนได้อีกทางด้วยค่ะ
20. พยายามลดเนื้อสัตว์ที่เคี้ยวเอื้องอย่าง วัว เพราะมูลของสัตว์เหล่านั้นจะปล่อยก๊าซมีเทน
21 กินผักผลไม้เยอะ ๆ เพราะอุตสาหกรรมการเกษตรไม่ปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นตัวเพิ่มความร้อนให้อากาศ
22. กระดาษหนังสือพิมพ์ไม่ใช้แล้ว อย่าทิ้ง สามารถนำมาเช็ดกระจกให้ใสแจ๋วได้
23. ใช้เศษผ้าเช็ดสิ่งสกปรกแทนกระดาษชำระ
24. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐาน
25. ไปตลาดสดแทนซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ซื้อผัก ผลไม้ หมู ไก่ ปลา เพราะสินค้าที่ห่อด้วยพลาสติกและโฟมนั้นจะทำให้เกิดขยะจำนวนมากมายมหาศาล
26. ใช้น้ำประปาอย่างประหยัด เพราะระบบการผลิตน้ำประปาของเทศบาล
ต่าง ๆ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการทำให้น้ำสะอาด
27. ลดปริมาณการทิ้งขยะลงบ้าง
28. ป้องกันการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศด้วยการแยกขยะอินทรีย์ เช่น พวกเศษผักและเศษอาหารออกจากขยะอื่น ๆ ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์
29. บอกคุณพ่อคุณแม่ให้ขับรถความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
30. ทาหลังคาบ้านด้วยสีอ่อน เพื่อช่วยลดการดูดซับความร้อน
31. ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้อากาศ ปลูกไผ่แทนรั้ว ต้นไผ่เติบโตเร็วเป็นรั้วธรรมชาติที่สวยงาม และยังดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี อาจจะลำบากไปหน่อยแต่ก็เก๋ไม่น้อยนะคะ
32. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ เพื่อเป็นการลดขยะจากห่อของบรรจุภัณฑ์
33. ลดปริมาณขยะโดยใช้หลัก 3R คือ Reuse, Recycle, Reduce
34. ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีในสวนไม้ประดับที่บ้าน แต่ขอให้เลือกใช้ปุ๋ยหมักจากธรรมชาติแทน
35. ทานสเต็กและแฮมเบอร์เกอร์ในร้านใหญ่ ๆ ให้น้อยลงบ้างเพราะอุตสาหกรรมเนื้อระดับนานาชาติผลิตก๊าซเรือนกระจกถึง 18 % สาเหตุหลักก็คือไนตรัสออกไซด์และมีเทนจากมูลวัว
36. มีส่วนร่วมกิจกรรมรณรงค์สิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยเผยแพร่ และการลดปัญหาโลกร้อน
37. อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ตามพระราชดำรัสของในหลวงนะคะ
38. ประหยัดพลังงานเท่าที่จะทำได้ทั้งน้ำ ไฟ น้ำมัน เพื่อให้ลูกหลานของเรามีสิ่งเหล่านี้ใช้กันต่อไปในอนาคต
49. อย่าลืมนำวิธีดี ๆ เหล่านี้ไปบอกต่อเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ../add_file/วิธีลดภาวะโลกร้อน
1. ถอดปลั๊กไฟฟ้าทุกครั้งที่เลิกใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้า รู้มั๊ยคะว่าการใช้ไฟฟ้าในบ้านมีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึง 16%
2. หันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการตากผ้าแทนการ อบผ้าในเครื่องซักผ้า
3. การรีดผ้า ควรรีดครั้งละมาก ๆแทนการัดทีละตัว เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้า
4. ปิดแอร์บ้าง แล้วหันมาใช้พัดลมหรือว่าเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทมากขึ้น
5. เวลาไปที่ห้างสรรพสินค้าอย่าเปิดประตูทิ้งไว้ เพราะแอร์จะทำงานหนักมากว่าปกติ
6. ใช้บันไดแทนการใช้ลิฟท์ นอกจากจะเป็นการได้ออกกำลังกายแล้วยังประหยัดได้เยอะขึ้นรู้มั้ยคะว่า
การกดลิฟต์หนึ่งครั้งจะเป็นการเสียค่าไฟถึงครั้งละ 7 บาท
7. ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น โดยเปิดเฉพาะด้วยที่เราจำเป็นต้องใช้จริง ๆ
8. ลดๆ การเล่นเกมลงบ้าง เพราะนอกจากสายตาจะเสียแล้ว ยังเปลืองไฟมาก ๆ อีกด้วย
9. ตู้เย็นสมัยคุณแม่ยังสาว ขายทิ้งไปได้แล้ว เพราะกินไฟมากกว่าตู้เย็นใหม่ถึง 2 เท่า
10. บอกคุณพ่อคุณแม่ให้เปลี่ยนไปใช้ไฟแบบหลอด LED จะได้ไฟที่สว่างกว่าและประหยัดกว่าหลอดปกติ 40%
11. ยืดอายุตู้เย็นด้วยการไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็น และหลักเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร
12. ละลายน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ
13. ใช้รถเมล์ รถไฟฟ้าแทนการใช้รถส่วนตัว
14. ถ้าไม่ได้ไปไหนไกล ๆ ให้ใช้จักรยาน หรือเดินไปก็ดีนะคะ ได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย
15. ใช้กระดาษแต่ละแผ่นอย่างประหยัดกระดาษรียูทหนังสือพิมพ์ เพราะกระดาษเหล่านั้นมาจากการตัดต้นไม้
16. เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้ว เอาไปบริจาคบ้างก็ได้ เพราะในบางบริษัทมีการรับ บริจาคเสื้อที่ใช้แล้ว จะนำไปหลอมมาทำเป็นเส้นใยใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 71%
17. ลดใช้พลาสติก โดยใช้ของที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ เช่น กระเป๋าผ้า หรือกระติกน้ำ
18. พยายามทานอาหารให้หมด เพราะเศษอาหารเหล่านั้นก่อให้เกิดก๊าซมีเทน ซึ่งก่อให้เกิดความร้อนต่อโลกเพิ่มขึ้น
19. ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนนได้อีกทางด้วยค่ะ
20. พยายามลดเนื้อสัตว์ที่เคี้ยวเอื้องอย่าง วัว เพราะมูลของสัตว์เหล่านั้นจะปล่อยก๊าซมีเทน
21 กินผักผลไม้เยอะ ๆ เพราะอุตสาหกรรมการเกษตรไม่ปล่อยก๊าซมีเทนที่เป็นตัวเพิ่มความร้อนให้อากาศ
22. กระดาษหนังสือพิมพ์ไม่ใช้แล้ว อย่าทิ้ง สามารถนำมาเช็ดกระจกให้ใสแจ๋วได้
23. ใช้เศษผ้าเช็ดสิ่งสกปรกแทนกระดาษชำระ
24. มองหาผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ป้ายฉลากเขียว ประหยัดไฟเบอร์ 5 มาตรฐาน
25. ไปตลาดสดแทนซูเปอร์มาร์เก็ตบ้าง ซื้อผัก ผลไม้ หมู ไก่ ปลา เพราะสินค้าที่ห่อด้วยพลาสติกและโฟมนั้นจะทำให้เกิดขยะจำนวนมากมายมหาศาล
26. ใช้น้ำประปาอย่างประหยัด เพราะระบบการผลิตน้ำประปาของเทศบาล
ต่าง ๆ ต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการทำให้น้ำสะอาด
27. ลดปริมาณการทิ้งขยะลงบ้าง
28. ป้องกันการปล่อยก๊าซมีเทนสู่บรรยากาศด้วยการแยกขยะอินทรีย์ เช่น พวกเศษผักและเศษอาหารออกจากขยะอื่น ๆ ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์
29. บอกคุณพ่อคุณแม่ให้ขับรถความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม.
30. ทาหลังคาบ้านด้วยสีอ่อน เพื่อช่วยลดการดูดซับความร้อน
31. ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้อากาศ ปลูกไผ่แทนรั้ว ต้นไผ่เติบโตเร็วเป็นรั้วธรรมชาติที่สวยงาม และยังดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้ดี อาจจะลำบากไปหน่อยแต่ก็เก๋ไม่น้อยนะคะ
32. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ซื้อเติมใหม่ได้ เพื่อเป็นการลดขยะจากห่อของบรรจุภัณฑ์
33. ลดปริมาณขยะโดยใช้หลัก 3R คือ Reuse, Recycle, Reduce
34. ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีในสวนไม้ประดับที่บ้าน แต่ขอให้เลือกใช้ปุ๋ยหมักจากธรรมชาติแทน
35. ทานสเต็กและแฮมเบอร์เกอร์ในร้านใหญ่ ๆ ให้น้อยลงบ้างเพราะอุตสาหกรรมเนื้อระดับนานาชาติผลิตก๊าซเรือนกระจกถึง 18 % สาเหตุหลักก็คือไนตรัสออกไซด์และมีเทนจากมูลวัว
36. มีส่วนร่วมกิจกรรมรณรงค์สิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยเผยแพร่ และการลดปัญหาโลกร้อน
37. อยู่อย่างพอเพียง ไม่ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือย ตามพระราชดำรัสของในหลวงนะคะ
38. ประหยัดพลังงานเท่าที่จะทำได้ทั้งน้ำ ไฟ น้ำมัน เพื่อให้ลูกหลานของเรามีสิ่งเหล่านี้ใช้กันต่อไปในอนาคต
49. อย่าลืมนำวิธีดี ๆ เหล่านี้ไปบอกต่อเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ
ชื่อไฟล์ : 7 วิธีลดโลกร้อนที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน แก้ปัญหาระดับโลก - LIV
ทุกคนคงจะตระหนักถึงปัญหาใหญ่ระดับโลกที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ นั่นก็คือปัญหาภาวะโลกร้อน ที่กระจายความเสียหายไปทั่วทุกพื้นที่ทั่วโลก และค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงและสร้างการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือระดับอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย ทั้งนี้สาเหตุของโลกร้อนหลัก ๆ มาจากน้ำมือมนุษย์เรานั่นเอง ในเมื่อเราทุกคนก็รู้ถึงปัญหา รู้ถึงสาเหตุของโลกร้อนแล้ว วันนี้เรามีวิธีลกโลกร้อนที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันมาฝาก
1. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดใช้ถุงพลาสติกและขยะพลาสติก
ถุงพลาสติกเป็นของใช้ที่เราทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ถุงพลาสติกเป็นต้นเหตุใหญ่และเป็นสาเหตุของโลกร้อน เนื่องจากถุงพลาสติกจำเป็นต้องใช้เวลา 450 กว่าปีในการย่อยสลาย แถมการเผาถุงพลาสติกยังก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นมลพิษทางอากาศ และสัตว์โลกมากมายต้องเสียชีวิตเพราะถุงและขยะพลาสติกที่เราใช้แล้วทิ้ง ดังนั้นวิธีลดโลดร้อนที่ทำได้ในชีวิตประจำวันคือลดใช้ถุงพลาสติกเป็นอันดับแรก หันมาใช้กระเป๋าผ้า หรือหากซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ควรปฏิเสธที่จะรับถุงพลาสติก
2. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการทานอาหารจากต่างถิ่น
การที่เราเลือกกินอาหารที่มาจากต่างถิ่น ต่างประเทศ จำเป็นจะต้องขนส่งด้วยยานพาหนะหลายทอด ทำให้เกิดการสร้างมลพิษในอากาศมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเรากินอาหารที่มาจากต่างถิ่นมาก ๆ การขนส่งก็มากขึ้น และเกิดการปล่อยก๊าซพิษไปในชั้นบรรยากาศมากขึ้นนั่นเอง วิธีลดโลกร้อนที่เราทำได้คือ หันมาทานอาหาร พืช ผัก ที่ปลูกในท้องถิ่นของตัวเอง
3. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการบริโภคเนื้อสัตว์
การทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เนื้อที่ในการทำถึง 2 ใน 3 ของการทำการเกษตรทั้งหมด เมื่อจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากจึงทำให้เกิดการเผาทำลายป่าเพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาเลี้ยงสัตว์ จนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้การทำปศุสัตว์ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุของโลกร้อน วิธีลดโลกร้อนที่ง่ายที่สุดคือลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง และหันไปทานผักแทน
4. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว
ยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ เป็นจำนวนมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโลกร้อน ดังนั้นวิธีลดโลกร้อนที่ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้คือ การหันไปใช้รถโดยสารสาธารณะแทนรถส่วนตัว หากจะไปข้างนอกควรไปพร้อม ๆ กันหลายคน หรือหากต้องเดินทางไม่ไกลอย่างหน้าปากซอย ลองเปลี่ยนมาปั่นจักรยาน ลดโลกร้อนแล้วยังช่วยได้ออกกำลังกายอีกด้วย
5. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการกินอาหารแช่แข็ง
อาหารแช่แข็งที่เรากินกันบ่อย ๆ เนื่องจากความสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่จริง ๆ แล้วกระบวนการผลิต การขนส่ง และการเก็บรักษา จำเป็นต้องใช้พลังงานสูง ทั้งพลังงานในการผลิต การขนส่งที่ต้องมาพร้อมห้องเย็น และเก็บรักษาในห้องเย็น เมื่อจะทานยังต้องใช้พลังงานจากไมโครเวฟ แถมบรรจุภัณฑ์ยังเป็นกล่องพลาสติก ความสะดวกที่ได้จากอาหารแช่แข็ง 1 กล่อง เป็นการสูญเสียพลังงานและเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนแบบที่เราคาดไม่ถึง วิธีลดโลกร้อนที่เราทำได้ก็คือ การหันมาทานอาหารที่ทำใหม่ ๆ จะดีกว่า
6. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED
ปัจจุบันมีหลอดไฟหลากหลายชนิด หลอดไฟที่เป็นตัวการในการก่อนให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดคือ หลอดไส้ ที่กินไฟ สว่างไม่มากพอ แถมยังก่อให้เกิดความร้อนอีกด้วย ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ หรือเปลี่ยนมาใช้เป็นหลอดไฟ LED แทน เพราะหลอดไฟ LED กินไฟน้อย สว่างมาก ไม่ทำให้เกิดความร้อน ไม่ก่อสารคาร์บอนไดออกไซด์ และอายุการใช้งานยาวนาน การเปลี่ยนหลอดไฟมาใช้ LED จึงเป็นอีกวิธีลดโลกร้อนง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
7. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
อากาศร้อน ๆ บ้านไหนมีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศก็คงต้องเปิดเป็นธรรมดา แต่เครื่องปรับอากาศที่มีใช้กันแทบทุกบ้านนั้นเป็นสาหตุของโลกร้อนเช่นกัน เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟฟ้าสูง ปล่อยความร้อนออกสู่อากาศ และน้ำยาแอร์บางชนิดยังปล่อยสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ดังนั้นวิธีลดโลกร้อนที่เราช่วยกันได้คือ ตั้งเวลาเปิดปิดแอร์ ใช้แอร์ให้น้อยลง ปรับอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เปิดหน้าต่างรับลมมากขึ้น ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาในบ้าน เท่านี้ก็เป็นอีกทางที่ทุกคนสามารถช่วยได้
เมื่อเราลองมาพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว จะพบว่ากิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เป็นสาเหตุของโลกร้อน ทั้งแบบที่เรารู้ตวและไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะการใช้พลาสติก หรือพฤติกรรมการบริโภคอาหารเองก็ตาม หากเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำตามวิธีลดโลกร้อนที่แนะนำกันไปข้างต้นให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เชื่อว่าจะสามารถลดภาวะโลกร้อนได้ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเราทำคนเดียวอาจไม่ส่งผลอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้บอกต่อวิธีลดโลกร้อนเหล่านี้ให้กับคนในบ้าน เพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมงาน และคนรอบ ๆ ตัว โลกของเราจะสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน
อ้างอิง: baanjomyut.com
https://www.dtac.co.th/.../%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0...
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 7 วิธีลดโลกร้อนที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน แก้ปัญหาระดับโลก - LIV
ทุกคนคงจะตระหนักถึงปัญหาใหญ่ระดับโลกที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ นั่นก็คือปัญหาภาวะโลกร้อน ที่กระจายความเสียหายไปทั่วทุกพื้นที่ทั่วโลก และค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงและสร้างการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือระดับอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย ทั้งนี้สาเหตุของโลกร้อนหลัก ๆ มาจากน้ำมือมนุษย์เรานั่นเอง ในเมื่อเราทุกคนก็รู้ถึงปัญหา รู้ถึงสาเหตุของโลกร้อนแล้ว วันนี้เรามีวิธีลกโลกร้อนที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันมาฝาก
1. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดใช้ถุงพลาสติกและขยะพลาสติก
ถุงพลาสติกเป็นของใช้ที่เราทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ถุงพลาสติกเป็นต้นเหตุใหญ่และเป็นสาเหตุของโลกร้อน เนื่องจากถุงพลาสติกจำเป็นต้องใช้เวลา 450 กว่าปีในการย่อยสลาย แถมการเผาถุงพลาสติกยังก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นมลพิษทางอากาศ และสัตว์โลกมากมายต้องเสียชีวิตเพราะถุงและขยะพลาสติกที่เราใช้แล้วทิ้ง ดังนั้นวิธีลดโลดร้อนที่ทำได้ในชีวิตประจำวันคือลดใช้ถุงพลาสติกเป็นอันดับแรก หันมาใช้กระเป๋าผ้า หรือหากซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ควรปฏิเสธที่จะรับถุงพลาสติก
2. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการทานอาหารจากต่างถิ่น
การที่เราเลือกกินอาหารที่มาจากต่างถิ่น ต่างประเทศ จำเป็นจะต้องขนส่งด้วยยานพาหนะหลายทอด ทำให้เกิดการสร้างมลพิษในอากาศมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเรากินอาหารที่มาจากต่างถิ่นมาก ๆ การขนส่งก็มากขึ้น และเกิดการปล่อยก๊าซพิษไปในชั้นบรรยากาศมากขึ้นนั่นเอง วิธีลดโลกร้อนที่เราทำได้คือ หันมาทานอาหาร พืช ผัก ที่ปลูกในท้องถิ่นของตัวเอง
3. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการบริโภคเนื้อสัตว์
การทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เนื้อที่ในการทำถึง 2 ใน 3 ของการทำการเกษตรทั้งหมด เมื่อจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากจึงทำให้เกิดการเผาทำลายป่าเพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาเลี้ยงสัตว์ จนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้การทำปศุสัตว์ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุของโลกร้อน วิธีลดโลกร้อนที่ง่ายที่สุดคือลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง และหันไปทานผักแทน
4. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว
ยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ เป็นจำนวนมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโลกร้อน ดังนั้นวิธีลดโลกร้อนที่ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้คือ การหันไปใช้รถโดยสารสาธารณะแทนรถส่วนตัว หากจะไปข้างนอกควรไปพร้อม ๆ กันหลายคน หรือหากต้องเดินทางไม่ไกลอย่างหน้าปากซอย ลองเปลี่ยนมาปั่นจักรยาน ลดโลกร้อนแล้วยังช่วยได้ออกกำลังกายอีกด้วย
5. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการกินอาหารแช่แข็ง
อาหารแช่แข็งที่เรากินกันบ่อย ๆ เนื่องจากความสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่จริง ๆ แล้วกระบวนการผลิต การขนส่ง และการเก็บรักษา จำเป็นต้องใช้พลังงานสูง ทั้งพลังงานในการผลิต การขนส่งที่ต้องมาพร้อมห้องเย็น และเก็บรักษาในห้องเย็น เมื่อจะทานยังต้องใช้พลังงานจากไมโครเวฟ แถมบรรจุภัณฑ์ยังเป็นกล่องพลาสติก ความสะดวกที่ได้จากอาหารแช่แข็ง 1 กล่อง เป็นการสูญเสียพลังงานและเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนแบบที่เราคาดไม่ถึง วิธีลดโลกร้อนที่เราทำได้ก็คือ การหันมาทานอาหารที่ทำใหม่ ๆ จะดีกว่า
6. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED
ปัจจุบันมีหลอดไฟหลากหลายชนิด หลอดไฟที่เป็นตัวการในการก่อนให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดคือ หลอดไส้ ที่กินไฟ สว่างไม่มากพอ แถมยังก่อให้เกิดความร้อนอีกด้วย ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ หรือเปลี่ยนมาใช้เป็นหลอดไฟ LED แทน เพราะหลอดไฟ LED กินไฟน้อย สว่างมาก ไม่ทำให้เกิดความร้อน ไม่ก่อสารคาร์บอนไดออกไซด์ และอายุการใช้งานยาวนาน การเปลี่ยนหลอดไฟมาใช้ LED จึงเป็นอีกวิธีลดโลกร้อนง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
7. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
อากาศร้อน ๆ บ้านไหนมีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศก็คงต้องเปิดเป็นธรรมดา แต่เครื่องปรับอากาศที่มีใช้กันแทบทุกบ้านนั้นเป็นสาหตุของโลกร้อนเช่นกัน เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟฟ้าสูง ปล่อยความร้อนออกสู่อากาศ และน้ำยาแอร์บางชนิดยังปล่อยสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ดังนั้นวิธีลดโลกร้อนที่เราช่วยกันได้คือ ตั้งเวลาเปิดปิดแอร์ ใช้แอร์ให้น้อยลง ปรับอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เปิดหน้าต่างรับลมมากขึ้น ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาในบ้าน เท่านี้ก็เป็นอีกทางที่ทุกคนสามารถช่วยได้
เมื่อเราลองมาพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว จะพบว่ากิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เป็นสาเหตุของโลกร้อน ทั้งแบบที่เรารู้ตวและไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะการใช้พลาสติก หรือพฤติกรรมการบริโภคอาหารเองก็ตาม หากเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำตามวิธีลดโลกร้อนที่แนะนำกันไปข้างต้นให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เชื่อว่าจะสามารถลดภาวะโลกร้อนได้ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเราทำคนเดียวอาจไม่ส่งผลอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้บอกต่อวิธีลดโลกร้อนเหล่านี้ให้กับคนในบ้าน เพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมงาน และคนรอบ ๆ ตัว โลกของเราจะสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน
อ้างอิง: baanjomyut.com
https://www.dtac.co.th/.../%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0...../add_file/7 วิธีลดโลกร้อนที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน แก้ปัญหาระดับโลก - LIV
ทุกคนคงจะตระหนักถึงปัญหาใหญ่ระดับโลกที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติ นั่นก็คือปัญหาภาวะโลกร้อน ที่กระจายความเสียหายไปทั่วทุกพื้นที่ทั่วโลก และค่อย ๆ เพิ่มความรุนแรงและสร้างการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือระดับอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย ทั้งนี้สาเหตุของโลกร้อนหลัก ๆ มาจากน้ำมือมนุษย์เรานั่นเอง ในเมื่อเราทุกคนก็รู้ถึงปัญหา รู้ถึงสาเหตุของโลกร้อนแล้ว วันนี้เรามีวิธีลกโลกร้อนที่ทุกคนสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันมาฝาก
1. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดใช้ถุงพลาสติกและขยะพลาสติก
ถุงพลาสติกเป็นของใช้ที่เราทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ถุงพลาสติกเป็นต้นเหตุใหญ่และเป็นสาเหตุของโลกร้อน เนื่องจากถุงพลาสติกจำเป็นต้องใช้เวลา 450 กว่าปีในการย่อยสลาย แถมการเผาถุงพลาสติกยังก่อให้เกิดสารพิษที่เป็นมลพิษทางอากาศ และสัตว์โลกมากมายต้องเสียชีวิตเพราะถุงและขยะพลาสติกที่เราใช้แล้วทิ้ง ดังนั้นวิธีลดโลดร้อนที่ทำได้ในชีวิตประจำวันคือลดใช้ถุงพลาสติกเป็นอันดับแรก หันมาใช้กระเป๋าผ้า หรือหากซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ควรปฏิเสธที่จะรับถุงพลาสติก
2. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการทานอาหารจากต่างถิ่น
การที่เราเลือกกินอาหารที่มาจากต่างถิ่น ต่างประเทศ จำเป็นจะต้องขนส่งด้วยยานพาหนะหลายทอด ทำให้เกิดการสร้างมลพิษในอากาศมากขึ้น ดังนั้นเมื่อเรากินอาหารที่มาจากต่างถิ่นมาก ๆ การขนส่งก็มากขึ้น และเกิดการปล่อยก๊าซพิษไปในชั้นบรรยากาศมากขึ้นนั่นเอง วิธีลดโลกร้อนที่เราทำได้คือ หันมาทานอาหาร พืช ผัก ที่ปลูกในท้องถิ่นของตัวเอง
3. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการบริโภคเนื้อสัตว์
การทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่ จำเป็นต้องใช้เนื้อที่ในการทำถึง 2 ใน 3 ของการทำการเกษตรทั้งหมด เมื่อจำเป็นต้องใช้พื้นที่มากจึงทำให้เกิดการเผาทำลายป่าเพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาเลี้ยงสัตว์ จนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้การทำปศุสัตว์ยังก่อให้เกิดก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาล ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุของโลกร้อน วิธีลดโลกร้อนที่ง่ายที่สุดคือลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง และหันไปทานผักแทน
4. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว
ยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ จะปล่อยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ เป็นจำนวนมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโลกร้อน ดังนั้นวิธีลดโลกร้อนที่ทุกคนสามารถช่วยกันทำได้คือ การหันไปใช้รถโดยสารสาธารณะแทนรถส่วนตัว หากจะไปข้างนอกควรไปพร้อม ๆ กันหลายคน หรือหากต้องเดินทางไม่ไกลอย่างหน้าปากซอย ลองเปลี่ยนมาปั่นจักรยาน ลดโลกร้อนแล้วยังช่วยได้ออกกำลังกายอีกด้วย
5. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการกินอาหารแช่แข็ง
อาหารแช่แข็งที่เรากินกันบ่อย ๆ เนื่องจากความสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่จริง ๆ แล้วกระบวนการผลิต การขนส่ง และการเก็บรักษา จำเป็นต้องใช้พลังงานสูง ทั้งพลังงานในการผลิต การขนส่งที่ต้องมาพร้อมห้องเย็น และเก็บรักษาในห้องเย็น เมื่อจะทานยังต้องใช้พลังงานจากไมโครเวฟ แถมบรรจุภัณฑ์ยังเป็นกล่องพลาสติก ความสะดวกที่ได้จากอาหารแช่แข็ง 1 กล่อง เป็นการสูญเสียพลังงานและเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนแบบที่เราคาดไม่ถึง วิธีลดโลกร้อนที่เราทำได้ก็คือ การหันมาทานอาหารที่ทำใหม่ ๆ จะดีกว่า
6. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED
ปัจจุบันมีหลอดไฟหลากหลายชนิด หลอดไฟที่เป็นตัวการในการก่อนให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดคือ หลอดไส้ ที่กินไฟ สว่างไม่มากพอ แถมยังก่อให้เกิดความร้อนอีกด้วย ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ หรือเปลี่ยนมาใช้เป็นหลอดไฟ LED แทน เพราะหลอดไฟ LED กินไฟน้อย สว่างมาก ไม่ทำให้เกิดความร้อน ไม่ก่อสารคาร์บอนไดออกไซด์ และอายุการใช้งานยาวนาน การเปลี่ยนหลอดไฟมาใช้ LED จึงเป็นอีกวิธีลดโลกร้อนง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
7. วิธีลดโลกร้อนด้วยการ: ลดการใช้เครื่องปรับอากาศ
อากาศร้อน ๆ บ้านไหนมีแอร์หรือเครื่องปรับอากาศก็คงต้องเปิดเป็นธรรมดา แต่เครื่องปรับอากาศที่มีใช้กันแทบทุกบ้านนั้นเป็นสาหตุของโลกร้อนเช่นกัน เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟฟ้าสูง ปล่อยความร้อนออกสู่อากาศ และน้ำยาแอร์บางชนิดยังปล่อยสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ดังนั้นวิธีลดโลกร้อนที่เราช่วยกันได้คือ ตั้งเวลาเปิดปิดแอร์ ใช้แอร์ให้น้อยลง ปรับอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เปิดหน้าต่างรับลมมากขึ้น ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาในบ้าน เท่านี้ก็เป็นอีกทางที่ทุกคนสามารถช่วยได้
เมื่อเราลองมาพิจารณาอย่างจริงจังแล้ว จะพบว่ากิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เป็นสาเหตุของโลกร้อน ทั้งแบบที่เรารู้ตวและไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะการใช้พลาสติก หรือพฤติกรรมการบริโภคอาหารเองก็ตาม หากเราช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทำตามวิธีลดโลกร้อนที่แนะนำกันไปข้างต้นให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เชื่อว่าจะสามารถลดภาวะโลกร้อนได้ไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเราทำคนเดียวอาจไม่ส่งผลอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้บอกต่อวิธีลดโลกร้อนเหล่านี้ให้กับคนในบ้าน เพื่อนร่วมชั้น เพื่อนร่วมงาน และคนรอบ ๆ ตัว โลกของเราจะสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน
อ้างอิง: baanjomyut.com
https://www.dtac.co.th/.../%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0...
ชื่อไฟล์ : อบต.บ้านหว้า ขอประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ ที่จะทำการพ่นหมอกควันได้ทราบและปฎิบัติ ดังนี้
1.บ้านที่ได้รับการพ่นหมอกควัน ให้ปิดประตูหน้าต่างเพื่ออบควันในบ้านอย่างน้อย 30 นาที
2.คน และสัตว์เลี้ยง บ้านที่จะได้รับการพ่นหมอกควันต้องออกมาอยู่นอกบ้าน
3.ปกปิดภาชนะและอาหารให้มิดชิดในระหว่างที่เจ้าหน้าที่พ่นหมอกควัน
กำหนดการพ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย
ระหว่างวันที่ 4 – 16 สิงหาคม 2566
วัน/เดือน/ปี เวลา สถานที่
4 ส.ค.66
09.00 – 12.00 น. ณ โดมโรเรียนวัดบ้านหว้า
เดินรณรงค์ป้องกันควบคุมไข้เลือดออก
7 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 1 บ้านใต้
8 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 2 บ้านหว้า
9 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 3 บ้านปากคลอง
10 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 4 บ้านโรง,ตากแดด
11 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 5 บ้านหัวจระเข้,ไผ่วงษ์
15 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 6 บ้านนัยนาท,สันติธรรม
16 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 7 บ้านเสาวังคา
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: อบต.บ้านหว้า ขอประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ ที่จะทำการพ่นหมอกควันได้ทราบและปฎิบัติ ดังนี้
1.บ้านที่ได้รับการพ่นหมอกควัน ให้ปิดประตูหน้าต่างเพื่ออบควันในบ้านอย่างน้อย 30 นาที
2.คน และสัตว์เลี้ยง บ้านที่จะได้รับการพ่นหมอกควันต้องออกมาอยู่นอกบ้าน
3.ปกปิดภาชนะและอาหารให้มิดชิดในระหว่างที่เจ้าหน้าที่พ่นหมอกควัน
กำหนดการพ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย
ระหว่างวันที่ 4 – 16 สิงหาคม 2566
วัน/เดือน/ปี เวลา สถานที่
4 ส.ค.66
09.00 – 12.00 น. ณ โดมโรเรียนวัดบ้านหว้า
เดินรณรงค์ป้องกันควบคุมไข้เลือดออก
7 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 1 บ้านใต้
8 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 2 บ้านหว้า
9 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 3 บ้านปากคลอง
10 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 4 บ้านโรง,ตากแดด
11 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 5 บ้านหัวจระเข้,ไผ่วงษ์
15 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 6 บ้านนัยนาท,สันติธรรม
16 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 7 บ้านเสาวังคา../add_file/อบต.บ้านหว้า ขอประกาศให้ประชาชนในพื้นที่ ที่จะทำการพ่นหมอกควันได้ทราบและปฎิบัติ ดังนี้
1.บ้านที่ได้รับการพ่นหมอกควัน ให้ปิดประตูหน้าต่างเพื่ออบควันในบ้านอย่างน้อย 30 นาที
2.คน และสัตว์เลี้ยง บ้านที่จะได้รับการพ่นหมอกควันต้องออกมาอยู่นอกบ้าน
3.ปกปิดภาชนะและอาหารให้มิดชิดในระหว่างที่เจ้าหน้าที่พ่นหมอกควัน
กำหนดการพ่นหมอกควันกำจัดยุงลาย
ระหว่างวันที่ 4 – 16 สิงหาคม 2566
วัน/เดือน/ปี เวลา สถานที่
4 ส.ค.66
09.00 – 12.00 น. ณ โดมโรเรียนวัดบ้านหว้า
เดินรณรงค์ป้องกันควบคุมไข้เลือดออก
7 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 1 บ้านใต้
8 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 2 บ้านหว้า
9 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 3 บ้านปากคลอง
10 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 4 บ้านโรง,ตากแดด
11 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 5 บ้านหัวจระเข้,ไผ่วงษ์
15 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 6 บ้านนัยนาท,สันติธรรม
16 ส.ค.66 08.30 – 15.00 น. หมู่ที่ 7 บ้านเสาวังคา
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด ที่คุณแม่ต้องระวัง
ภาวะคลอดก่อนกำหนดถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของคุณแม่ตั้งครรภ์ ถือเป็นภาวะที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงท้องทุกคน ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์หลายรายรู้สึกกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือเปล่า แล้วภาวะคลอดก่อนกำหนดเกิดจากอะไร สามารถป้องกันได้หรือไม่ ศูนย์สูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกัน
การคลอดก่อนกำหนด คืออะไร
การตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ จะครบกำหนดที่ 38-41สัปดาห์ หรือประมาณ 9 เดือน โดยเฉลี่ยหากคลอดก่อน 37 สัปดาห์ทางการแพทย์ ถือว่าคลอดก่อนกำหนด แต่ทารกที่คลอดตั้งแต่อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะไม่พบปัญหาหรือความผิดปกติใด ๆ แต่ทารกที่จะพบปัญหา คือ ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมาก ๆ ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย
สัญญาณเตือน คลอดก่อนกำหนด มีอะไรบ้าง
มีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ พร้อมกับเวลาที่มดลูกหดตัว อาการปวดท้องลักษณะนี้จะคล้ายกับเวลาที่คุณแม่ปวดท้องประจำเดือน
มีอาการมดลุกบีบตัวถี่ เช่น ทุกครึ่งชั่วโมงจะรู้สึกถึงมดลูกบีบตัว ควร
มีอาการปวดหลัง โดยจะรู้สึกปวดร้าวไปถึงด้านล่างบริเวณก้นกบ ร่วมกับการปวดท้อง
ปวดถ่วงในอุ้งเชิงกราน อาจร้าวไปที่ต้นขา
มีเลือดออกทางช่องคลอด
มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด หรือมีระดูขาวออกมา บางครั้งอาจจะมีมูกปนเลือดออกมาด้วย
โอกาสที่จะทำให้คุณแม่คลอดก่อนกำหนด เกิดจากสาเหตุอะไร
1. เกี่ยวกับตัวคุณแม่ หรือโรคประจำตัว
คุณแม่ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้มากกว่าคุณแม่ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี
คุณแม่ที่เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน โอกาสคลอดก่อนกำหนดก็จะมากขึ้นร้อยละ 50
มีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครอบครัว ซึ่งควรบอกข้อมูลนี้ให้แพทย์ทราบ
คุณแม่ที่แท้งบ่อย หรือเคยผ่านการแท้งมาก่อน ก็มีโอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนดสำหรับท้องถัดมามากขึ้น
คุณแม่ที่มีมดลูกผิดปกติ มดลูกพิการแต่กำเนิด เช่น มีผนังกั้นภายในโพรงมดลูก หรือมดลูกมีเนื้องอกร่วมด้วย
คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต อาจทำให้ทารกในท้องเจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้
2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน
คุณแม่ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรืออยู่ใกล้ชิดคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำมีโอกาสทำให้ทารกในครรภ์ตัวเล็ก และคลอดก่อนกำหนดได้
คุณแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
คุณแม่ที่ทำงานหนักจนเกินไป เช่น นั่งนาน ๆ วันละหลายชั่วโมง หรืองานที่ต้องใช้แรงมาก จะทำให้เหนื่อยง่ายและมีปริมาณเลือดไปเลี้ยงมดลูกลดลง ส่งผลให้ทารกขาดสารอาหารและออกซิเจน ทำให้ทารกตัวเล็ก และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้
คุณแม่ที่มีภาวะเครียด
3. ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
บางรายอาจจะมีความจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ก่อนกำหนด เนื่องจากคุณแม่เกิดภาวะแทรกซ้อนบางประการ เช่น มีภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือทารกในครรภ์มีการเจริญติบโตที่ผิดปกติ
การตั้งครรภ์แฝด
เลือดออกขณะตั้งครรภ์
ปากมดลูกหลวม
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด
กรณีที่ 1 : ถ้ามีสัญญาณเตือน หรือภาวะบ่งชี้ของภาวะคลอดก่อนกำหนด แนะนำให้คุณแม่ให้รีบไปพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยแพทย์จะให้คุณแม่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าปากมดลูกยังขยายไม่มากก็จะช่วยในการรักษา ทำให้ทารกยังสามารถอยู่ในครรภ์ต่อไปได้ จนใกล้กำหนดคลอดมากที่สุด
กรณีที่ 2 : แต่หากแพทย์ประเมินแล้วแจ้งว่าไม่สามารถหยุดยั้งการหดตัวของมดลูกได้ แพทย์จะให้ยาสเตียรอยด์ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้ปอดของทารกทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีโอกาสรอดมากขึ้น ยานี้จะได้ผลเมื่อฉีดเข้าไปอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง และยาจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นอาจจะต้องฉีดยาซ้ำ แต่แพทย์จะพิจารณาถึงความเหมาะสมในคนไข้แต่ละรายอีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ในคุณแม่ทุกรายได้ เช่น คุณแม่ที่น้ำเดิน หรือถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด หรือสงสัยว่าจะมีการอักเสบในร่างกายคุณแม่ จะไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ได้
เนื่องจากการคลอดก่อนกำหนด อาจส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีความพิการหรือเสียชีวิต ดังนั้นการดูแลสุขภาพของคุณแม่ให้ดีก่อนตั้งครรภ์ หรือเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ควรรีบทำการฝากครรภ์ โดยเร็วที่สุด และปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากพบปัญหาหรือความผิดปกติจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมและทันท่วงที
การลดความเสี่ยงจากภาวะคลอดก่อนกำหนด
ไม่อั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ และยังสร้างความระคายเคืองให้มดลูก ทำให้มดลูกบีบตัว และอาจจะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
รักษาโรคช่องคลอดอักเสบ หากคุณแม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคช่องคลอดอักเสบ ควรรีบเข้ารับการรักษา เพื่องจากมีผลวิจัยระบุว่า ผู้หญิงที่เป็นโรคช่องคลอดอักเสบ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง สามารถลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้
รักษาสุขภาพเหงือก เนื่องจากโรคเหงือกเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่อาจเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นควรแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน ไปพบหมอฟังอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างตั้งครรภ์
ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และรักษาความชุ่มชื่นของร่างกาย เพราะหากร่างกายขาดน้ำอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ทานวิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
ควบคุมน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การเพิ่มน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์มากจนเกินไป เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะคลอดก่อนกำหนดทั้งสิ้น นอกจากนี้หากคุณแม่น้ำหนักน้อยเกินไป ก็เป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ที่เหมาะสม โดยเฉลี่ยนแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3-15.8 กิโลกรัม
ที่มา https://vichaivej-omnoi.com/health-info/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94/
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด ที่คุณแม่ต้องระวัง
ภาวะคลอดก่อนกำหนดถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของคุณแม่ตั้งครรภ์ ถือเป็นภาวะที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงท้องทุกคน ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์หลายรายรู้สึกกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือเปล่า แล้วภาวะคลอดก่อนกำหนดเกิดจากอะไร สามารถป้องกันได้หรือไม่ ศูนย์สูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกัน
การคลอดก่อนกำหนด คืออะไร
การตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ จะครบกำหนดที่ 38-41สัปดาห์ หรือประมาณ 9 เดือน โดยเฉลี่ยหากคลอดก่อน 37 สัปดาห์ทางการแพทย์ ถือว่าคลอดก่อนกำหนด แต่ทารกที่คลอดตั้งแต่อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะไม่พบปัญหาหรือความผิดปกติใด ๆ แต่ทารกที่จะพบปัญหา คือ ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมาก ๆ ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย
สัญญาณเตือน คลอดก่อนกำหนด มีอะไรบ้าง
มีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ พร้อมกับเวลาที่มดลูกหดตัว อาการปวดท้องลักษณะนี้จะคล้ายกับเวลาที่คุณแม่ปวดท้องประจำเดือน
มีอาการมดลุกบีบตัวถี่ เช่น ทุกครึ่งชั่วโมงจะรู้สึกถึงมดลูกบีบตัว ควร
มีอาการปวดหลัง โดยจะรู้สึกปวดร้าวไปถึงด้านล่างบริเวณก้นกบ ร่วมกับการปวดท้อง
ปวดถ่วงในอุ้งเชิงกราน อาจร้าวไปที่ต้นขา
มีเลือดออกทางช่องคลอด
มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด หรือมีระดูขาวออกมา บางครั้งอาจจะมีมูกปนเลือดออกมาด้วย
โอกาสที่จะทำให้คุณแม่คลอดก่อนกำหนด เกิดจากสาเหตุอะไร
1. เกี่ยวกับตัวคุณแม่ หรือโรคประจำตัว
คุณแม่ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้มากกว่าคุณแม่ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี
คุณแม่ที่เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน โอกาสคลอดก่อนกำหนดก็จะมากขึ้นร้อยละ 50
มีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครอบครัว ซึ่งควรบอกข้อมูลนี้ให้แพทย์ทราบ
คุณแม่ที่แท้งบ่อย หรือเคยผ่านการแท้งมาก่อน ก็มีโอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนดสำหรับท้องถัดมามากขึ้น
คุณแม่ที่มีมดลูกผิดปกติ มดลูกพิการแต่กำเนิด เช่น มีผนังกั้นภายในโพรงมดลูก หรือมดลูกมีเนื้องอกร่วมด้วย
คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต อาจทำให้ทารกในท้องเจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้
2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน
คุณแม่ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรืออยู่ใกล้ชิดคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำมีโอกาสทำให้ทารกในครรภ์ตัวเล็ก และคลอดก่อนกำหนดได้
คุณแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
คุณแม่ที่ทำงานหนักจนเกินไป เช่น นั่งนาน ๆ วันละหลายชั่วโมง หรืองานที่ต้องใช้แรงมาก จะทำให้เหนื่อยง่ายและมีปริมาณเลือดไปเลี้ยงมดลูกลดลง ส่งผลให้ทารกขาดสารอาหารและออกซิเจน ทำให้ทารกตัวเล็ก และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้
คุณแม่ที่มีภาวะเครียด
3. ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
บางรายอาจจะมีความจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ก่อนกำหนด เนื่องจากคุณแม่เกิดภาวะแทรกซ้อนบางประการ เช่น มีภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือทารกในครรภ์มีการเจริญติบโตที่ผิดปกติ
การตั้งครรภ์แฝด
เลือดออกขณะตั้งครรภ์
ปากมดลูกหลวม
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด
กรณีที่ 1 : ถ้ามีสัญญาณเตือน หรือภาวะบ่งชี้ของภาวะคลอดก่อนกำหนด แนะนำให้คุณแม่ให้รีบไปพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยแพทย์จะให้คุณแม่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าปากมดลูกยังขยายไม่มากก็จะช่วยในการรักษา ทำให้ทารกยังสามารถอยู่ในครรภ์ต่อไปได้ จนใกล้กำหนดคลอดมากที่สุด
กรณีที่ 2 : แต่หากแพทย์ประเมินแล้วแจ้งว่าไม่สามารถหยุดยั้งการหดตัวของมดลูกได้ แพทย์จะให้ยาสเตียรอยด์ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้ปอดของทารกทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีโอกาสรอดมากขึ้น ยานี้จะได้ผลเมื่อฉีดเข้าไปอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง และยาจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นอาจจะต้องฉีดยาซ้ำ แต่แพทย์จะพิจารณาถึงความเหมาะสมในคนไข้แต่ละรายอีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ในคุณแม่ทุกรายได้ เช่น คุณแม่ที่น้ำเดิน หรือถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด หรือสงสัยว่าจะมีการอักเสบในร่างกายคุณแม่ จะไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ได้
เนื่องจากการคลอดก่อนกำหนด อาจส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีความพิการหรือเสียชีวิต ดังนั้นการดูแลสุขภาพของคุณแม่ให้ดีก่อนตั้งครรภ์ หรือเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ควรรีบทำการฝากครรภ์ โดยเร็วที่สุด และปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากพบปัญหาหรือความผิดปกติจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมและทันท่วงที
การลดความเสี่ยงจากภาวะคลอดก่อนกำหนด
ไม่อั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ และยังสร้างความระคายเคืองให้มดลูก ทำให้มดลูกบีบตัว และอาจจะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
รักษาโรคช่องคลอดอักเสบ หากคุณแม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคช่องคลอดอักเสบ ควรรีบเข้ารับการรักษา เพื่องจากมีผลวิจัยระบุว่า ผู้หญิงที่เป็นโรคช่องคลอดอักเสบ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง สามารถลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้
รักษาสุขภาพเหงือก เนื่องจากโรคเหงือกเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่อาจเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นควรแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน ไปพบหมอฟังอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างตั้งครรภ์
ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และรักษาความชุ่มชื่นของร่างกาย เพราะหากร่างกายขาดน้ำอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ทานวิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
ควบคุมน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การเพิ่มน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์มากจนเกินไป เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะคลอดก่อนกำหนดทั้งสิ้น นอกจากนี้หากคุณแม่น้ำหนักน้อยเกินไป ก็เป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ที่เหมาะสม โดยเฉลี่ยนแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3-15.8 กิโลกรัม
ที่มา https://vichaivej-omnoi.com/health-info/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94/../add_file/ สัญญาณเตือนคลอดก่อนกำหนด ที่คุณแม่ต้องระวัง
ภาวะคลอดก่อนกำหนดถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงของคุณแม่ตั้งครรภ์ ถือเป็นภาวะที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงท้องทุกคน ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์หลายรายรู้สึกกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือเปล่า แล้วภาวะคลอดก่อนกำหนดเกิดจากอะไร สามารถป้องกันได้หรือไม่ ศูนย์สูตินรีเวช รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกัน
การคลอดก่อนกำหนด คืออะไร
การตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ จะครบกำหนดที่ 38-41สัปดาห์ หรือประมาณ 9 เดือน โดยเฉลี่ยหากคลอดก่อน 37 สัปดาห์ทางการแพทย์ ถือว่าคลอดก่อนกำหนด แต่ทารกที่คลอดตั้งแต่อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนใหญ่จะไม่พบปัญหาหรือความผิดปกติใด ๆ แต่ทารกที่จะพบปัญหา คือ ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมาก ๆ ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย
สัญญาณเตือน คลอดก่อนกำหนด มีอะไรบ้าง
มีอาการปวดท้องเป็นพัก ๆ พร้อมกับเวลาที่มดลูกหดตัว อาการปวดท้องลักษณะนี้จะคล้ายกับเวลาที่คุณแม่ปวดท้องประจำเดือน
มีอาการมดลุกบีบตัวถี่ เช่น ทุกครึ่งชั่วโมงจะรู้สึกถึงมดลูกบีบตัว ควร
มีอาการปวดหลัง โดยจะรู้สึกปวดร้าวไปถึงด้านล่างบริเวณก้นกบ ร่วมกับการปวดท้อง
ปวดถ่วงในอุ้งเชิงกราน อาจร้าวไปที่ต้นขา
มีเลือดออกทางช่องคลอด
มีน้ำไหลออกจากช่องคลอด หรือมีระดูขาวออกมา บางครั้งอาจจะมีมูกปนเลือดออกมาด้วย
โอกาสที่จะทำให้คุณแม่คลอดก่อนกำหนด เกิดจากสาเหตุอะไร
1. เกี่ยวกับตัวคุณแม่ หรือโรคประจำตัว
คุณแม่ที่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี หรือมากกว่า 35 ปี มีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้มากกว่าคุณแม่ที่มีอายุระหว่าง 18-34 ปี
คุณแม่ที่เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครรภ์ก่อน โอกาสคลอดก่อนกำหนดก็จะมากขึ้นร้อยละ 50
มีประวัติคลอดก่อนกำหนดในครอบครัว ซึ่งควรบอกข้อมูลนี้ให้แพทย์ทราบ
คุณแม่ที่แท้งบ่อย หรือเคยผ่านการแท้งมาก่อน ก็มีโอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนดสำหรับท้องถัดมามากขึ้น
คุณแม่ที่มีมดลูกผิดปกติ มดลูกพิการแต่กำเนิด เช่น มีผนังกั้นภายในโพรงมดลูก หรือมดลูกมีเนื้องอกร่วมด้วย
คุณแม่ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคไต อาจทำให้ทารกในท้องเจริญเติบโตได้ไม่ดี และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้
2. พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน
คุณแม่ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรืออยู่ใกล้ชิดคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำมีโอกาสทำให้ทารกในครรภ์ตัวเล็ก และคลอดก่อนกำหนดได้
คุณแม่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
คุณแม่ที่ทำงานหนักจนเกินไป เช่น นั่งนาน ๆ วันละหลายชั่วโมง หรืองานที่ต้องใช้แรงมาก จะทำให้เหนื่อยง่ายและมีปริมาณเลือดไปเลี้ยงมดลูกลดลง ส่งผลให้ทารกขาดสารอาหารและออกซิเจน ทำให้ทารกตัวเล็ก และมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้
คุณแม่ที่มีภาวะเครียด
3. ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนขณะตั้งครรภ์
บางรายอาจจะมีความจำเป็นต้องยุติการตั้งครรภ์ก่อนกำหนด เนื่องจากคุณแม่เกิดภาวะแทรกซ้อนบางประการ เช่น มีภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือทารกในครรภ์มีการเจริญติบโตที่ผิดปกติ
การตั้งครรภ์แฝด
เลือดออกขณะตั้งครรภ์
ปากมดลูกหลวม
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด
กรณีที่ 1 : ถ้ามีสัญญาณเตือน หรือภาวะบ่งชี้ของภาวะคลอดก่อนกำหนด แนะนำให้คุณแม่ให้รีบไปพบแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ โดยแพทย์จะให้คุณแม่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล และให้ยายับยั้งการหดรัดตัวของมดลูก ถ้าปากมดลูกยังขยายไม่มากก็จะช่วยในการรักษา ทำให้ทารกยังสามารถอยู่ในครรภ์ต่อไปได้ จนใกล้กำหนดคลอดมากที่สุด
กรณีที่ 2 : แต่หากแพทย์ประเมินแล้วแจ้งว่าไม่สามารถหยุดยั้งการหดตัวของมดลูกได้ แพทย์จะให้ยาสเตียรอยด์ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้ปอดของทารกทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีโอกาสรอดมากขึ้น ยานี้จะได้ผลเมื่อฉีดเข้าไปอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง และยาจะมีฤทธิ์อยู่ประมาณ 7 วัน หลังจากนั้นอาจจะต้องฉีดยาซ้ำ แต่แพทย์จะพิจารณาถึงความเหมาะสมในคนไข้แต่ละรายอีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ในคุณแม่ทุกรายได้ เช่น คุณแม่ที่น้ำเดิน หรือถุงน้ำคร่ำแตกก่อนกำหนด หรือสงสัยว่าจะมีการอักเสบในร่างกายคุณแม่ จะไม่สามารถใช้ยาชนิดนี้ได้
เนื่องจากการคลอดก่อนกำหนด อาจส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีความพิการหรือเสียชีวิต ดังนั้นการดูแลสุขภาพของคุณแม่ให้ดีก่อนตั้งครรภ์ หรือเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ควรรีบทำการฝากครรภ์ โดยเร็วที่สุด และปฎิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด หากพบปัญหาหรือความผิดปกติจะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสมและทันท่วงที
การลดความเสี่ยงจากภาวะคลอดก่อนกำหนด
ไม่อั้นปัสสาวะ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะได้ และยังสร้างความระคายเคืองให้มดลูก ทำให้มดลูกบีบตัว และอาจจะทำให้กระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
รักษาโรคช่องคลอดอักเสบ หากคุณแม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคช่องคลอดอักเสบ ควรรีบเข้ารับการรักษา เพื่องจากมีผลวิจัยระบุว่า ผู้หญิงที่เป็นโรคช่องคลอดอักเสบ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง สามารถลดความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้
รักษาสุขภาพเหงือก เนื่องจากโรคเหงือกเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณแม่อาจเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นควรแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟัน ไปพบหมอฟังอย่างน้อย 1 ครั้งระหว่างตั้งครรภ์
ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และรักษาความชุ่มชื่นของร่างกาย เพราะหากร่างกายขาดน้ำอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนดได้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ทานวิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
ควบคุมน้ำหนักในอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การเพิ่มน้ำหนักระหว่างตั้งครรภ์มากจนเกินไป เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และครรภ์เป็นพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะคลอดก่อนกำหนดทั้งสิ้น นอกจากนี้หากคุณแม่น้ำหนักน้อยเกินไป ก็เป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนดได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นน้ำหนักขณะตั้งครรภ์ที่เหมาะสม โดยเฉลี่ยนแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 3-15.8 กิโลกรัม
ที่มา https://vichaivej-omnoi.com/health-info/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : นิยามของคำว่า คลอดก่อนกำหนด ก่อนจะรู้จักคำว่า “คลอดก่อนกำหนด” นั้น ต้องเข้าใจก่อนครับว่า การคลอด “ครบกำหนด” ในทางการแพทย์ คือคลอดในช่วงอายุครรภ์ 37-40 สัปดาห์
คลอดก่อนกำหนด คืออะไร
ดังนั้น การคลอดก่อนกำหนด คือ การคลอดที่เกิดขึ้นก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ส่วนถ้าคลอดก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์จะเรียกว่า “แท้ง” เพราะฉะนั้น คำว่า “คลอดก่อนกำหนด” คือการคลอดในช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์กับ 6 วัน ซึ่งก็มีวิธีการแบ่งย่อยไปอีก เช่น ถ้าคลอดในช่วงอายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์ 6 วัน เรียกว่า Late Pre-term ก็คือ การคลอดก่อนกำหนดช่วงหลัง ภาวะแทรกซ้อนก็จะน้อยกว่าการคลอดก่อนกำหนดในช่วง อายุครรภ์ 33 สัปดาห์กับ 6 วันลงมา ซึ่งเรียกว่า Early pre-term ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้น
อันตรายของ เด็กคลอดก่อนกำหนด
อันดับแรก คือ “เสียชีวิต” เด็กคลอดก่อนกำหนดมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก รวมถึงยังมีโอกาสที่จะพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้แก่
ปอดทำงานไม่ดี
มีภาวะเลือดออกในสมอง
มีภาวะเลือดออกในลำไส้
เด็กที่คลอดก่อนกำหนดนั้น อวัยวะต่างๆ เช่น ปอด หรือเส้นเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ยังไม่พร้อม ยกตัวอย่าง เด็กที่เกิดช่วงอายุครรภ์ 30 สัปดาห์เราจะไม่นับอายุหนึ่งวันตอนที่เขาเกิด แต่จะไปนับอยู่หนึ่งวันตอนที่เขาครบเทอม เหมือนตอนแรกเขายังไม่ได้เกิด ดังนั้นภาวะแทรกซ้อนทางร่างกาย 3 เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
พอผ่าน 3 กรณีไป ก็จะมีปัญหาเรื่องตัวเหลือง เนื่องจากตับมีขนาดเล็ก มีภาวะเลือดจาง และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งหลังจากผ่านจุดนี้ก็ยังพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดจากการรักษา กรณีที่พบได้บ่อยคือ ตาบอด เพราะเด็กกลุ่มนี้จะได้รับออกซิเจนเป็นเวลานานซึ่งมีผลกับตา ทำให้มีโอกาสตาบอดได้และในระยะยาว
อาจจะพบปัญหาคือเจริญเติบโตได้ช้า เพราะเด็กกลุ่มนี้จะตัวเล็ก ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย อวัยวะทำงานได้ไม่ดีเท่าเด็กทั่วไป เวลาโตขึ้นก็อาจจะเป็นโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันสูง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ จึงมีโอกาสที่จะเสียชีวิตหรือทุพพลภาพได้มากกว่าคนปกติทั่วไป
ปัจจัยเสี่ยง คลอดก่อนกำหนด
ในทางสถิติ ประเทศไทยมีเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ประมาณ 12%ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ
แม่มีปากมดลูกสั้น ถ้ามีการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดพบว่าปากมดลูกของแม่มีความยาวไม่ถึง 2.5 ซม. โอกาสคลอดก่อนกำหนดก็จะสูงขึ้น ส่วนในกรณีครรภ์แฝด จะมีกลไกที่ต่างออกไป คาดว่าเกิดจากการที่มดลูกมีการขยายตัวเร็วกว่าปกติ
ถ้าแม่ตั้งครรภ์หรือคนในครอบครัว มีประวัติว่าเคยคลอดก่อนกำหนด ก็จะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้สูงขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ครรภ์แฝด แม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ก็อาจจะมีผลให้ทารกจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนด
สัญญานเตือน อาการคลอดก่อนกำหนด
มีภาวะความดันโลหิตสูง
มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
มีอาการน้ำเดิน
รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยผิดปกติ
มีอาการท้องแข็งบ่อย
การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ในทางสถิติ ประเทศไทยมีเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ประมาณ 12% ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ
1. คุณแม่ควรมาตรวจสุขภาพก่อนที่จะตั้งครรภ์
เพื่อให้ปลอดภัยจากโรค เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้ ควรทำการรักษาโรคให้ดีขึ้นก่อนที่จะตั้งครรภ์
2. ถ้ารู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ควรรีบมาฝากครรภ์
เพราะการตรวจอัลตราซาวด์ ภายใน 3 เดือนแรก จะเป็นการยืนยันอายุครรภ์ได้ดีที่สุด และถ้ารู้ตัวว่ามีความเสี่ยง เช่น ท้องที่แล้วเคยคลอดก่อนกำหนด หรือคนในครอบครัวมีประวัติคลอดก่อนกำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
3. คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ประมาณ 18-22 สัปดาห์ ควรทำอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
ถ้าพบว่ามีปากมดลูกสั้น แพทย์จะทำการป้องกันด้วยการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ใช้สอดในช่องคลอดเพื่อป้องกันไม่ให้ปากมดลูกสั้นลง ซึ่งข้อมูลในปัจจุบันพบว่าสามารถป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้ถึง 45% แต่ถ้ายังไม่ได้ผลก็อาจจะเย็บปากมดลูกหรือใช้ห่วงซิลิโคน (Pessary) เข้าไปรัดปากมดลูก แล้วแต่กรณี
4. การผสมเทียมในกรณีที่มีบุตรยาก
บางครั้งแพทย์อาจจะใส่ตัวอ่อนมากกว่า 1 ตัว จึงเป็นต้นกำเนิดของครรภ์แฝด โดย 50 % ของครรภ์แฝดมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ในปัจจุบันมีการให้ตรวจยีนและโครโมโซมของตัวอ่อน เพื่อให้ได้ตัวอ่อนที่แข็งแรง เพื่อที่จะใส่เข้าไปเพียงตัวเดียว
ที่มา https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94
ที่มาhttps://www.phukethospital.com/th/healthy-articles/preterm-birth/
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: นิยามของคำว่า คลอดก่อนกำหนด ก่อนจะรู้จักคำว่า “คลอดก่อนกำหนด” นั้น ต้องเข้าใจก่อนครับว่า การคลอด “ครบกำหนด” ในทางการแพทย์ คือคลอดในช่วงอายุครรภ์ 37-40 สัปดาห์
คลอดก่อนกำหนด คืออะไร
ดังนั้น การคลอดก่อนกำหนด คือ การคลอดที่เกิดขึ้นก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ส่วนถ้าคลอดก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์จะเรียกว่า “แท้ง” เพราะฉะนั้น คำว่า “คลอดก่อนกำหนด” คือการคลอดในช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์กับ 6 วัน ซึ่งก็มีวิธีการแบ่งย่อยไปอีก เช่น ถ้าคลอดในช่วงอายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์ 6 วัน เรียกว่า Late Pre-term ก็คือ การคลอดก่อนกำหนดช่วงหลัง ภาวะแทรกซ้อนก็จะน้อยกว่าการคลอดก่อนกำหนดในช่วง อายุครรภ์ 33 สัปดาห์กับ 6 วันลงมา ซึ่งเรียกว่า Early pre-term ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้น
อันตรายของ เด็กคลอดก่อนกำหนด
อันดับแรก คือ “เสียชีวิต” เด็กคลอดก่อนกำหนดมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก รวมถึงยังมีโอกาสที่จะพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้แก่
ปอดทำงานไม่ดี
มีภาวะเลือดออกในสมอง
มีภาวะเลือดออกในลำไส้
เด็กที่คลอดก่อนกำหนดนั้น อวัยวะต่างๆ เช่น ปอด หรือเส้นเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ยังไม่พร้อม ยกตัวอย่าง เด็กที่เกิดช่วงอายุครรภ์ 30 สัปดาห์เราจะไม่นับอายุหนึ่งวันตอนที่เขาเกิด แต่จะไปนับอยู่หนึ่งวันตอนที่เขาครบเทอม เหมือนตอนแรกเขายังไม่ได้เกิด ดังนั้นภาวะแทรกซ้อนทางร่างกาย 3 เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
พอผ่าน 3 กรณีไป ก็จะมีปัญหาเรื่องตัวเหลือง เนื่องจากตับมีขนาดเล็ก มีภาวะเลือดจาง และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งหลังจากผ่านจุดนี้ก็ยังพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดจากการรักษา กรณีที่พบได้บ่อยคือ ตาบอด เพราะเด็กกลุ่มนี้จะได้รับออกซิเจนเป็นเวลานานซึ่งมีผลกับตา ทำให้มีโอกาสตาบอดได้และในระยะยาว
อาจจะพบปัญหาคือเจริญเติบโตได้ช้า เพราะเด็กกลุ่มนี้จะตัวเล็ก ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย อวัยวะทำงานได้ไม่ดีเท่าเด็กทั่วไป เวลาโตขึ้นก็อาจจะเป็นโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันสูง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ จึงมีโอกาสที่จะเสียชีวิตหรือทุพพลภาพได้มากกว่าคนปกติทั่วไป
ปัจจัยเสี่ยง คลอดก่อนกำหนด
ในทางสถิติ ประเทศไทยมีเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ประมาณ 12%ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ
แม่มีปากมดลูกสั้น ถ้ามีการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดพบว่าปากมดลูกของแม่มีความยาวไม่ถึง 2.5 ซม. โอกาสคลอดก่อนกำหนดก็จะสูงขึ้น ส่วนในกรณีครรภ์แฝด จะมีกลไกที่ต่างออกไป คาดว่าเกิดจากการที่มดลูกมีการขยายตัวเร็วกว่าปกติ
ถ้าแม่ตั้งครรภ์หรือคนในครอบครัว มีประวัติว่าเคยคลอดก่อนกำหนด ก็จะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้สูงขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ครรภ์แฝด แม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ก็อาจจะมีผลให้ทารกจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนด
สัญญานเตือน อาการคลอดก่อนกำหนด
มีภาวะความดันโลหิตสูง
มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
มีอาการน้ำเดิน
รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยผิดปกติ
มีอาการท้องแข็งบ่อย
การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ในทางสถิติ ประเทศไทยมีเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ประมาณ 12% ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ
1. คุณแม่ควรมาตรวจสุขภาพก่อนที่จะตั้งครรภ์
เพื่อให้ปลอดภัยจากโรค เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้ ควรทำการรักษาโรคให้ดีขึ้นก่อนที่จะตั้งครรภ์
2. ถ้ารู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ควรรีบมาฝากครรภ์
เพราะการตรวจอัลตราซาวด์ ภายใน 3 เดือนแรก จะเป็นการยืนยันอายุครรภ์ได้ดีที่สุด และถ้ารู้ตัวว่ามีความเสี่ยง เช่น ท้องที่แล้วเคยคลอดก่อนกำหนด หรือคนในครอบครัวมีประวัติคลอดก่อนกำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
3. คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ประมาณ 18-22 สัปดาห์ ควรทำอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
ถ้าพบว่ามีปากมดลูกสั้น แพทย์จะทำการป้องกันด้วยการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ใช้สอดในช่องคลอดเพื่อป้องกันไม่ให้ปากมดลูกสั้นลง ซึ่งข้อมูลในปัจจุบันพบว่าสามารถป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้ถึง 45% แต่ถ้ายังไม่ได้ผลก็อาจจะเย็บปากมดลูกหรือใช้ห่วงซิลิโคน (Pessary) เข้าไปรัดปากมดลูก แล้วแต่กรณี
4. การผสมเทียมในกรณีที่มีบุตรยาก
บางครั้งแพทย์อาจจะใส่ตัวอ่อนมากกว่า 1 ตัว จึงเป็นต้นกำเนิดของครรภ์แฝด โดย 50 % ของครรภ์แฝดมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ในปัจจุบันมีการให้ตรวจยีนและโครโมโซมของตัวอ่อน เพื่อให้ได้ตัวอ่อนที่แข็งแรง เพื่อที่จะใส่เข้าไปเพียงตัวเดียว
ที่มา https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94
ที่มาhttps://www.phukethospital.com/th/healthy-articles/preterm-birth/../add_file/นิยามของคำว่า คลอดก่อนกำหนด ก่อนจะรู้จักคำว่า “คลอดก่อนกำหนด” นั้น ต้องเข้าใจก่อนครับว่า การคลอด “ครบกำหนด” ในทางการแพทย์ คือคลอดในช่วงอายุครรภ์ 37-40 สัปดาห์
คลอดก่อนกำหนด คืออะไร
ดังนั้น การคลอดก่อนกำหนด คือ การคลอดที่เกิดขึ้นก่อนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์ ส่วนถ้าคลอดก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์จะเรียกว่า “แท้ง” เพราะฉะนั้น คำว่า “คลอดก่อนกำหนด” คือการคลอดในช่วงอายุครรภ์ 24-36 สัปดาห์กับ 6 วัน ซึ่งก็มีวิธีการแบ่งย่อยไปอีก เช่น ถ้าคลอดในช่วงอายุครรภ์ 34-36 สัปดาห์ 6 วัน เรียกว่า Late Pre-term ก็คือ การคลอดก่อนกำหนดช่วงหลัง ภาวะแทรกซ้อนก็จะน้อยกว่าการคลอดก่อนกำหนดในช่วง อายุครรภ์ 33 สัปดาห์กับ 6 วันลงมา ซึ่งเรียกว่า Early pre-term ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนสูงขึ้น
อันตรายของ เด็กคลอดก่อนกำหนด
อันดับแรก คือ “เสียชีวิต” เด็กคลอดก่อนกำหนดมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก รวมถึงยังมีโอกาสที่จะพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้แก่
ปอดทำงานไม่ดี
มีภาวะเลือดออกในสมอง
มีภาวะเลือดออกในลำไส้
เด็กที่คลอดก่อนกำหนดนั้น อวัยวะต่างๆ เช่น ปอด หรือเส้นเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ยังไม่พร้อม ยกตัวอย่าง เด็กที่เกิดช่วงอายุครรภ์ 30 สัปดาห์เราจะไม่นับอายุหนึ่งวันตอนที่เขาเกิด แต่จะไปนับอยู่หนึ่งวันตอนที่เขาครบเทอม เหมือนตอนแรกเขายังไม่ได้เกิด ดังนั้นภาวะแทรกซ้อนทางร่างกาย 3 เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
พอผ่าน 3 กรณีไป ก็จะมีปัญหาเรื่องตัวเหลือง เนื่องจากตับมีขนาดเล็ก มีภาวะเลือดจาง และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ซึ่งหลังจากผ่านจุดนี้ก็ยังพบภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่อาจเกิดจากการรักษา กรณีที่พบได้บ่อยคือ ตาบอด เพราะเด็กกลุ่มนี้จะได้รับออกซิเจนเป็นเวลานานซึ่งมีผลกับตา ทำให้มีโอกาสตาบอดได้และในระยะยาว
อาจจะพบปัญหาคือเจริญเติบโตได้ช้า เพราะเด็กกลุ่มนี้จะตัวเล็ก ทารกคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อย อวัยวะทำงานได้ไม่ดีเท่าเด็กทั่วไป เวลาโตขึ้นก็อาจจะเป็นโรคต่างๆ เช่น เบาหวาน ไขมันสูง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ จึงมีโอกาสที่จะเสียชีวิตหรือทุพพลภาพได้มากกว่าคนปกติทั่วไป
ปัจจัยเสี่ยง คลอดก่อนกำหนด
ในทางสถิติ ประเทศไทยมีเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ประมาณ 12%ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ
แม่มีปากมดลูกสั้น ถ้ามีการตรวจด้วยอัลตราซาวด์ทางช่องคลอดพบว่าปากมดลูกของแม่มีความยาวไม่ถึง 2.5 ซม. โอกาสคลอดก่อนกำหนดก็จะสูงขึ้น ส่วนในกรณีครรภ์แฝด จะมีกลไกที่ต่างออกไป คาดว่าเกิดจากการที่มดลูกมีการขยายตัวเร็วกว่าปกติ
ถ้าแม่ตั้งครรภ์หรือคนในครอบครัว มีประวัติว่าเคยคลอดก่อนกำหนด ก็จะมีโอกาสคลอดก่อนกำหนดได้สูงขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ครรภ์แฝด แม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ก็อาจจะมีผลให้ทารกจำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนด
สัญญานเตือน อาการคลอดก่อนกำหนด
มีภาวะความดันโลหิตสูง
มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
มีอาการน้ำเดิน
รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยผิดปกติ
มีอาการท้องแข็งบ่อย
การป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
ในทางสถิติ ประเทศไทยมีเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอยู่ที่ประมาณ 12% ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ คือ
1. คุณแม่ควรมาตรวจสุขภาพก่อนที่จะตั้งครรภ์
เพื่อให้ปลอดภัยจากโรค เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ถ้าพบความผิดปกติเหล่านี้ ควรทำการรักษาโรคให้ดีขึ้นก่อนที่จะตั้งครรภ์
2. ถ้ารู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ควรรีบมาฝากครรภ์
เพราะการตรวจอัลตราซาวด์ ภายใน 3 เดือนแรก จะเป็นการยืนยันอายุครรภ์ได้ดีที่สุด และถ้ารู้ตัวว่ามีความเสี่ยง เช่น ท้องที่แล้วเคยคลอดก่อนกำหนด หรือคนในครอบครัวมีประวัติคลอดก่อนกำหนด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
3. คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ประมาณ 18-22 สัปดาห์ ควรทำอัลตราซาวด์ทางช่องคลอด
ถ้าพบว่ามีปากมดลูกสั้น แพทย์จะทำการป้องกันด้วยการให้ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนธรรมชาติที่ใช้สอดในช่องคลอดเพื่อป้องกันไม่ให้ปากมดลูกสั้นลง ซึ่งข้อมูลในปัจจุบันพบว่าสามารถป้องกันการคลอดก่อนกำหนดได้ถึง 45% แต่ถ้ายังไม่ได้ผลก็อาจจะเย็บปากมดลูกหรือใช้ห่วงซิลิโคน (Pessary) เข้าไปรัดปากมดลูก แล้วแต่กรณี
4. การผสมเทียมในกรณีที่มีบุตรยาก
บางครั้งแพทย์อาจจะใส่ตัวอ่อนมากกว่า 1 ตัว จึงเป็นต้นกำเนิดของครรภ์แฝด โดย 50 % ของครรภ์แฝดมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด ในปัจจุบันมีการให้ตรวจยีนและโครโมโซมของตัวอ่อน เพื่อให้ได้ตัวอ่อนที่แข็งแรง เพื่อที่จะใส่เข้าไปเพียงตัวเดียว
ที่มา https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%94
ที่มาhttps://www.phukethospital.com/th/healthy-articles/preterm-birth/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : พื้นที่สีเขียวโดยทั่วไป หมายถึงพื้นที่ที่มีพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรงหรือเศร้าซึม โดยมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า การอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือบริเวณที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เช่น สวนสาธารณะ หรือ สนามเด็กเล่น สามารถลดอัตราการป่วยจากปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างชัดเจน การมีพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น สวยงาม ลดความแข็งกระด้างของสิ่งปลูกสร้าง ลดความตึงเครียดทางจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ต่างก็อำนวยประโยชน์นานาประการ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: พื้นที่สีเขียวโดยทั่วไป หมายถึงพื้นที่ที่มีพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรงหรือเศร้าซึม โดยมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า การอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือบริเวณที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เช่น สวนสาธารณะ หรือ สนามเด็กเล่น สามารถลดอัตราการป่วยจากปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างชัดเจน การมีพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น สวยงาม ลดความแข็งกระด้างของสิ่งปลูกสร้าง ลดความตึงเครียดทางจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ต่างก็อำนวยประโยชน์นานาประการ ../add_file/ พื้นที่สีเขียวโดยทั่วไป หมายถึงพื้นที่ที่มีพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรงหรือเศร้าซึม โดยมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า การอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือบริเวณที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เช่น สวนสาธารณะ หรือ สนามเด็กเล่น สามารถลดอัตราการป่วยจากปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างชัดเจน การมีพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น สวยงาม ลดความแข็งกระด้างของสิ่งปลูกสร้าง ลดความตึงเครียดทางจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ต่างก็อำนวยประโยชน์นานาประการ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : การเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นหนทางหนึ่งในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน เนื่องจากต้นไม้เป็นทั้งแหล่งดูดซับก๊าซพิษ ทั้งยังผลิตก๊าซออกซิเจน และสร้างสมดุลด้วยการลด อุณหภูมิของพื้นที่นั้นๆ ลงอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียสประโยชน์พื้นที่สีเขียว
ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียว
พื้นที่สีเขียวโดยทั่วไป หมายถึงพื้นที่ที่มีพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรงหรือเศร้าซึม โดยมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า การอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือบริเวณที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เช่น สวนสาธารณะ หรือ สนามเด็กเล่น สามารถลดอัตราการป่วยจากปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างชัดเจน การมีพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น สวยงาม ลดความแข็งกระด้างของสิ่งปลูกสร้าง ลดความตึงเครียดทางจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ต่างก็อำนวยประโยชน์นานาประการ ดังที่มีการจำแนกประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวได้ดังนี้ คือ ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ เนื่องจากต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ขณะเดียวกันก็จะปลดปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมา ต้นไม้จึงทำหน้าที่เสมือนปอดที่ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ต้นไม้ยังช่วยดูดสารมลพิษต่าง ๆ และฝุ่นละอองในอากาศ ต้นไม้ช่วยลดอุณหภูมิของเมือง เพราะการคายน้ำของต้นไม้ และร่มเงาที่ช่วยปกป้องรังสีจากดวงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิความร้อนลดลง รากต้นไม้ยังช่วยลดการพังทลายของดินริมตลิ่งโดยการยึดเกาะกับดิน ซึ่งการปลูกต้นไม้ในทิศทางที่เหมาะสม จะช่วยต้านกระแสความเร็วของลมหรือเปลี่ยนทิศทางลม เรือนพุ่มของต้นไม้จะเป็นตัวดูดซับเสียง และรองรับการสะท้อนของเสียง การปลูกต้นไม้ที่หลากหลายชนิด ยังก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด การปลูกต้นไม้ตามแนวถนนในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟจากยวดยานที่แล่นสวนทางมา ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างที่มีการจัดภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้ มักจะทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวยังช่วยเพิ่มความสวยงามร่มรื่น เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้แก่บ้านเมือง และยังสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับผู้ที่อยากให้พื้นที่สีเขียวช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคเบาหวาน โรคไมเกรนและวิงเวียน รวมถึงอาการทางร่างกายเล็กน้อยอื่น ๆ ที่ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างชัดเจน
การอาศัยอยู่ในบ้านภายในรัศมี 1 กิโลเมตรจากพื้นที่สีเขียวมีส่วนช่วยได้ ส่วนโรควิตกกังวล โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และบรรดาอาการเล็กน้อยที่ไม่สามารถวินิจฉัยเป็นโรคได้ จะสามารถบรรเทาลง แม้ว่าบ้านที่อาศัยอยู่จะห่างจากพื้นที่สีเขียวถึง ๓ กิโลเมตร ท่านผู้ฟังคะ สองโรคที่ได้รับผลดีมากที่สุดจากการใกล้ชิดธรรมชาติ คือ โรควิตกกังวล กับโรคซึมเศร้า โดยทีมนักวิจัยให้ความเห็นว่าพื้นที่สีเขียวเหล่านี้ช่วยลดความเครียด และเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาพบปะพูดคุยกัน นอกจากนั้น บางคนยังสามารถรวมกลุ่มออกกำลังกายกันได้อีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้ว คงต้องหาซื้อบ้านอยู่ใกล้ ๆ สวนสาธารณะ หรือพยายามทำให้บริเวณโดยรอบบ้านเป็นพื้นที่สีเขียว
ประเภทพื้นที่สีเขียวที่ควรจัดทำ
พื้นที่สีเขียวนันทนาการ
• สวนสาธารณะ *
• ลานกีฬากลางแจ้ง *
• ลานคนเดิน *
พื้นที่สีเขียวภูมิทัศน์
• สวนหย่อม *
พื้นที่สีเขียวส่วนบุคคล
• พื้นที่สีเขียวในเขตที่อยู่อาศัย *
• พื้นที่สีเขียวในเขตย่านการค้า/ย่านธุรกิจ *
• พื้นที่สีเขียวในเขตแรงงาน*
พื้นที่สีเขียวอรรถประโยชน์
• พื้นที่จอดรถ *
• พื้นที่ฝังกลบและทิ้งขยะ **
• บริเวณบำบัดน้ำเสีย **
• พื้นที่ควบคุมน้ำท่วมและทางระบายน้ำ **
• พื้นที่สีเขียวแนวกันชน/พื้นที่สีเขียวที่ป้องกัน การขยายตัวของเมือง สู่พื้นที่ต่อเมือง ** ( peri-urban )
พื้นที่วัดและโบราณสถาน
• พื้นที่ศาสนสถานทุกศาสนา **
• พื้นที่โบราณสถาน/พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ **
พื้นที่สถาบัน
- พื้นที่สีเขียวของสถานที่ราชการ/ สถานศึกษา / โรงพยาบาล *
พื้นที่ป่า
• ป่าในเมือง **
พื้นที่สีเขียวเป็นริ้วยาว
• ฝั่งแม่น้ำและฝั่งคลอง **
• ริ้วแนวทางเดิน/เขตทางเท้า *
• แนวถอยร่นอาคาร **
• เส้นทางจักรยาน **
• เส้นทางธรรมชาติ / เส้นทางทิวทัศน์ **
• เขตสาธารณูปโภคของเมือง **
พื้นที่สีเขียวอื่นๆ
• พื้นที่ว่างเปล่า **
• พื้นที่ย่านการค้า/ย่านอุตสาหกรรมรกร้าง **
• พื้นที่สีเขียวเพื่อการท่องเที่ยว **
• พื้นที่สีเขียวเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ*
พื้นที่สีเขียวพิเศษ
• พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต **
• แหล่งเรียนรู้พืชพรรณธรรมชาติ **
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: การเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นหนทางหนึ่งในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน เนื่องจากต้นไม้เป็นทั้งแหล่งดูดซับก๊าซพิษ ทั้งยังผลิตก๊าซออกซิเจน และสร้างสมดุลด้วยการลด อุณหภูมิของพื้นที่นั้นๆ ลงอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียสประโยชน์พื้นที่สีเขียว
ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียว
พื้นที่สีเขียวโดยทั่วไป หมายถึงพื้นที่ที่มีพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรงหรือเศร้าซึม โดยมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า การอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือบริเวณที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เช่น สวนสาธารณะ หรือ สนามเด็กเล่น สามารถลดอัตราการป่วยจากปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างชัดเจน การมีพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น สวยงาม ลดความแข็งกระด้างของสิ่งปลูกสร้าง ลดความตึงเครียดทางจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ต่างก็อำนวยประโยชน์นานาประการ ดังที่มีการจำแนกประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวได้ดังนี้ คือ ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ เนื่องจากต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ขณะเดียวกันก็จะปลดปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมา ต้นไม้จึงทำหน้าที่เสมือนปอดที่ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ต้นไม้ยังช่วยดูดสารมลพิษต่าง ๆ และฝุ่นละอองในอากาศ ต้นไม้ช่วยลดอุณหภูมิของเมือง เพราะการคายน้ำของต้นไม้ และร่มเงาที่ช่วยปกป้องรังสีจากดวงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิความร้อนลดลง รากต้นไม้ยังช่วยลดการพังทลายของดินริมตลิ่งโดยการยึดเกาะกับดิน ซึ่งการปลูกต้นไม้ในทิศทางที่เหมาะสม จะช่วยต้านกระแสความเร็วของลมหรือเปลี่ยนทิศทางลม เรือนพุ่มของต้นไม้จะเป็นตัวดูดซับเสียง และรองรับการสะท้อนของเสียง การปลูกต้นไม้ที่หลากหลายชนิด ยังก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด การปลูกต้นไม้ตามแนวถนนในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟจากยวดยานที่แล่นสวนทางมา ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างที่มีการจัดภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้ มักจะทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวยังช่วยเพิ่มความสวยงามร่มรื่น เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้แก่บ้านเมือง และยังสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับผู้ที่อยากให้พื้นที่สีเขียวช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคเบาหวาน โรคไมเกรนและวิงเวียน รวมถึงอาการทางร่างกายเล็กน้อยอื่น ๆ ที่ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างชัดเจน
การอาศัยอยู่ในบ้านภายในรัศมี 1 กิโลเมตรจากพื้นที่สีเขียวมีส่วนช่วยได้ ส่วนโรควิตกกังวล โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และบรรดาอาการเล็กน้อยที่ไม่สามารถวินิจฉัยเป็นโรคได้ จะสามารถบรรเทาลง แม้ว่าบ้านที่อาศัยอยู่จะห่างจากพื้นที่สีเขียวถึง ๓ กิโลเมตร ท่านผู้ฟังคะ สองโรคที่ได้รับผลดีมากที่สุดจากการใกล้ชิดธรรมชาติ คือ โรควิตกกังวล กับโรคซึมเศร้า โดยทีมนักวิจัยให้ความเห็นว่าพื้นที่สีเขียวเหล่านี้ช่วยลดความเครียด และเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาพบปะพูดคุยกัน นอกจากนั้น บางคนยังสามารถรวมกลุ่มออกกำลังกายกันได้อีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้ว คงต้องหาซื้อบ้านอยู่ใกล้ ๆ สวนสาธารณะ หรือพยายามทำให้บริเวณโดยรอบบ้านเป็นพื้นที่สีเขียว
ประเภทพื้นที่สีเขียวที่ควรจัดทำ
พื้นที่สีเขียวนันทนาการ
• สวนสาธารณะ *
• ลานกีฬากลางแจ้ง *
• ลานคนเดิน *
พื้นที่สีเขียวภูมิทัศน์
• สวนหย่อม *
พื้นที่สีเขียวส่วนบุคคล
• พื้นที่สีเขียวในเขตที่อยู่อาศัย *
• พื้นที่สีเขียวในเขตย่านการค้า/ย่านธุรกิจ *
• พื้นที่สีเขียวในเขตแรงงาน*
พื้นที่สีเขียวอรรถประโยชน์
• พื้นที่จอดรถ *
• พื้นที่ฝังกลบและทิ้งขยะ **
• บริเวณบำบัดน้ำเสีย **
• พื้นที่ควบคุมน้ำท่วมและทางระบายน้ำ **
• พื้นที่สีเขียวแนวกันชน/พื้นที่สีเขียวที่ป้องกัน การขยายตัวของเมือง สู่พื้นที่ต่อเมือง ** ( peri-urban )
พื้นที่วัดและโบราณสถาน
• พื้นที่ศาสนสถานทุกศาสนา **
• พื้นที่โบราณสถาน/พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ **
พื้นที่สถาบัน
- พื้นที่สีเขียวของสถานที่ราชการ/ สถานศึกษา / โรงพยาบาล *
พื้นที่ป่า
• ป่าในเมือง **
พื้นที่สีเขียวเป็นริ้วยาว
• ฝั่งแม่น้ำและฝั่งคลอง **
• ริ้วแนวทางเดิน/เขตทางเท้า *
• แนวถอยร่นอาคาร **
• เส้นทางจักรยาน **
• เส้นทางธรรมชาติ / เส้นทางทิวทัศน์ **
• เขตสาธารณูปโภคของเมือง **
พื้นที่สีเขียวอื่นๆ
• พื้นที่ว่างเปล่า **
• พื้นที่ย่านการค้า/ย่านอุตสาหกรรมรกร้าง **
• พื้นที่สีเขียวเพื่อการท่องเที่ยว **
• พื้นที่สีเขียวเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ*
พื้นที่สีเขียวพิเศษ
• พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต **
• แหล่งเรียนรู้พืชพรรณธรรมชาติ **
../add_file/การเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็นหนทางหนึ่งในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน เนื่องจากต้นไม้เป็นทั้งแหล่งดูดซับก๊าซพิษ ทั้งยังผลิตก๊าซออกซิเจน และสร้างสมดุลด้วยการลด อุณหภูมิของพื้นที่นั้นๆ ลงอย่างน้อย 2 องศาเซลเซียสประโยชน์พื้นที่สีเขียว
ประโยชน์ของพื้นที่สีเขียว
พื้นที่สีเขียวโดยทั่วไป หมายถึงพื้นที่ที่มีพืชพรรณเป็นองค์ประกอบหลัก และสีเขียวของต้นไม้เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสบายตา ไม่ดูร้อนแรงหรือเศร้าซึม โดยมีผลการศึกษาวิจัยยืนยันว่า การอาศัยอยู่ใกล้บริเวณพื้นที่สีเขียว หรือบริเวณที่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ เช่น สวนสาธารณะ หรือ สนามเด็กเล่น สามารถลดอัตราการป่วยจากปัญหาสุขภาพจิตได้อย่างชัดเจน การมีพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมือง ทำให้บรรยากาศโดยทั่วไปดูร่มรื่น สวยงาม ลดความแข็งกระด้างของสิ่งปลูกสร้าง ลดความตึงเครียดทางจิตใจ โดยเฉพาะพื้นที่สีเขียวในเขตชุมชนเมืองไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบใด ต่างก็อำนวยประโยชน์นานาประการ ดังที่มีการจำแนกประโยชน์ของพื้นที่สีเขียวได้ดังนี้ คือ ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ เนื่องจากต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ขณะเดียวกันก็จะปลดปล่อยก๊าซออกซิเจนออกมา ต้นไม้จึงทำหน้าที่เสมือนปอดที่ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ต้นไม้ยังช่วยดูดสารมลพิษต่าง ๆ และฝุ่นละอองในอากาศ ต้นไม้ช่วยลดอุณหภูมิของเมือง เพราะการคายน้ำของต้นไม้ และร่มเงาที่ช่วยปกป้องรังสีจากดวงอาทิตย์ ทำให้อุณหภูมิความร้อนลดลง รากต้นไม้ยังช่วยลดการพังทลายของดินริมตลิ่งโดยการยึดเกาะกับดิน ซึ่งการปลูกต้นไม้ในทิศทางที่เหมาะสม จะช่วยต้านกระแสความเร็วของลมหรือเปลี่ยนทิศทางลม เรือนพุ่มของต้นไม้จะเป็นตัวดูดซับเสียง และรองรับการสะท้อนของเสียง การปลูกต้นไม้ที่หลากหลายชนิด ยังก่อให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์นานาชนิด การปลูกต้นไม้ตามแนวถนนในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยลดการสะท้อนของแสงไฟจากยวดยานที่แล่นสวนทางมา ที่ดินหรือสิ่งก่อสร้างที่มีการจัดภูมิทัศน์ด้วยการปลูกต้นไม้ มักจะทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น นอกจากนี้ พื้นที่สีเขียวยังช่วยเพิ่มความสวยงามร่มรื่น เพิ่มความเป็นธรรมชาติให้แก่บ้านเมือง และยังสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ สำหรับผู้ที่อยากให้พื้นที่สีเขียวช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บ เช่น โรคเบาหวาน โรคไมเกรนและวิงเวียน รวมถึงอาการทางร่างกายเล็กน้อยอื่น ๆ ที่ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างชัดเจน
การอาศัยอยู่ในบ้านภายในรัศมี 1 กิโลเมตรจากพื้นที่สีเขียวมีส่วนช่วยได้ ส่วนโรควิตกกังวล โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และบรรดาอาการเล็กน้อยที่ไม่สามารถวินิจฉัยเป็นโรคได้ จะสามารถบรรเทาลง แม้ว่าบ้านที่อาศัยอยู่จะห่างจากพื้นที่สีเขียวถึง ๓ กิโลเมตร ท่านผู้ฟังคะ สองโรคที่ได้รับผลดีมากที่สุดจากการใกล้ชิดธรรมชาติ คือ โรควิตกกังวล กับโรคซึมเศร้า โดยทีมนักวิจัยให้ความเห็นว่าพื้นที่สีเขียวเหล่านี้ช่วยลดความเครียด และเปิดโอกาสให้ผู้คนได้มาพบปะพูดคุยกัน นอกจากนั้น บางคนยังสามารถรวมกลุ่มออกกำลังกายกันได้อีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้ว คงต้องหาซื้อบ้านอยู่ใกล้ ๆ สวนสาธารณะ หรือพยายามทำให้บริเวณโดยรอบบ้านเป็นพื้นที่สีเขียว
ประเภทพื้นที่สีเขียวที่ควรจัดทำ
พื้นที่สีเขียวนันทนาการ
• สวนสาธารณะ *
• ลานกีฬากลางแจ้ง *
• ลานคนเดิน *
พื้นที่สีเขียวภูมิทัศน์
• สวนหย่อม *
พื้นที่สีเขียวส่วนบุคคล
• พื้นที่สีเขียวในเขตที่อยู่อาศัย *
• พื้นที่สีเขียวในเขตย่านการค้า/ย่านธุรกิจ *
• พื้นที่สีเขียวในเขตแรงงาน*
พื้นที่สีเขียวอรรถประโยชน์
• พื้นที่จอดรถ *
• พื้นที่ฝังกลบและทิ้งขยะ **
• บริเวณบำบัดน้ำเสีย **
• พื้นที่ควบคุมน้ำท่วมและทางระบายน้ำ **
• พื้นที่สีเขียวแนวกันชน/พื้นที่สีเขียวที่ป้องกัน การขยายตัวของเมือง สู่พื้นที่ต่อเมือง ** ( peri-urban )
พื้นที่วัดและโบราณสถาน
• พื้นที่ศาสนสถานทุกศาสนา **
• พื้นที่โบราณสถาน/พื้นที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ **
พื้นที่สถาบัน
- พื้นที่สีเขียวของสถานที่ราชการ/ สถานศึกษา / โรงพยาบาล *
พื้นที่ป่า
• ป่าในเมือง **
พื้นที่สีเขียวเป็นริ้วยาว
• ฝั่งแม่น้ำและฝั่งคลอง **
• ริ้วแนวทางเดิน/เขตทางเท้า *
• แนวถอยร่นอาคาร **
• เส้นทางจักรยาน **
• เส้นทางธรรมชาติ / เส้นทางทิวทัศน์ **
• เขตสาธารณูปโภคของเมือง **
พื้นที่สีเขียวอื่นๆ
• พื้นที่ว่างเปล่า **
• พื้นที่ย่านการค้า/ย่านอุตสาหกรรมรกร้าง **
• พื้นที่สีเขียวเพื่อการท่องเที่ยว **
• พื้นที่สีเขียวเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ*
พื้นที่สีเขียวพิเศษ
• พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต **
• แหล่งเรียนรู้พืชพรรณธรรมชาติ **
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
ในปี 2565 นี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกว่า “บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม”
โดยประเด็นการรณรงค์ คือ “ยาสูบ : ภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม” มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากยาสูบ ด้วยการสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากวงจรการปลูก การผลิต การจัดจำหน่ายยาสูบ ของเสีย และขยะที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้คนเลิกสูบบุหรี่อีกด้วย
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
ในปี 2565 นี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกว่า “บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม”
โดยประเด็นการรณรงค์ คือ “ยาสูบ : ภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม” มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากยาสูบ ด้วยการสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากวงจรการปลูก การผลิต การจัดจำหน่ายยาสูบ ของเสีย และขยะที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้คนเลิกสูบบุหรี่อีกด้วย
../add_file/31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
ในปี 2565 นี้ องค์การอนามัยโลก หรือ WHO กำหนดคำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกว่า “บุหรี่ทำลายสิ่งแวดล้อม”
โดยประเด็นการรณรงค์ คือ “ยาสูบ : ภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม” มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากยาสูบ ด้วยการสร้างความตระหนักให้แก่ประชาชนถึงผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากวงจรการปลูก การผลิต การจัดจำหน่ายยาสูบ ของเสีย และขยะที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้คนเลิกสูบบุหรี่อีกด้วย
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอความร่วมมือองค์กร และสถานประกอบการต่างๆ ในเขตตำบลบ้านหว้าจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ 5 ประเภท ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายหรือสัญลักษณ์ และบริการข้อมูลสำหรับคนพิการ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้เหมาะสมสำหรับคนพิการ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการได้ด้วยตนเอง ลดการพึ่งพา ดำรงตนได้อน่างมีความสุข
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอความร่วมมือองค์กร และสถานประกอบการต่างๆ ในเขตตำบลบ้านหว้าจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ 5 ประเภท ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายหรือสัญลักษณ์ และบริการข้อมูลสำหรับคนพิการ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้เหมาะสมสำหรับคนพิการ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการได้ด้วยตนเอง ลดการพึ่งพา ดำรงตนได้อน่างมีความสุข../add_file/องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอความร่วมมือองค์กร และสถานประกอบการต่างๆ ในเขตตำบลบ้านหว้าจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานสำหรับคนพิการ 5 ประเภท ได้แก่ ทางลาด ห้องน้ำ ที่จอดรถ ป้ายหรือสัญลักษณ์ และบริการข้อมูลสำหรับคนพิการ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพให้เหมาะสมสำหรับคนพิการ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงบริการได้ด้วยตนเอง ลดการพึ่งพา ดำรงตนได้อน่างมีความสุข
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : “การเดิน” เป็นการออกกำลังกาย ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแรงหรือไม่ก็ตาม แต่การเดินออกกำลังกายที่ดีและถูกวิธี ควรเป็นอย่างไร Tonkit360 มีข้อมูลมาฝากกัน
การเดิน
แม้ว่า “การเดิน” จะไม่ได้เผาผลาญพลังงานได้มาก เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ แต่ถ้าคุณเดินให้ได้อย่างน้อย 10,000 ก้าว/วัน หรือเดินประมาณ 30 นาที และสะสมให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิต หากเดินอย่างสม่ำเสมอและมากพอในแต่ละสัปดาห์ ร่างกายของคุณก็จะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน
การเดินมีกี่แบบ ?
เดินช้า มีลักษณะคล้ายกับการเดินเล่น เดินจงกรม หรือเดินซื้อของ
เดินเร็ว เป็นการเดินเร็วติดต่อกันนานกว่า 10 นาที/ครั้ง รวมกัน 30 นาที/วัน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์
เดินแข่ง คือ เดินเร็วจนกระทั่งพูดไม่เป็นคำ คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะหายใจไม่ทัน
ข้อดีของการเดินเริ่มต้นง่ายและประหยัด
แค่มีรองเท้ากีฬาที่ใส่สบายและเหมาะสมกับเท้าของคุณก็สามารถเริ่มได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง ทั้งยังไม่ต้องหาเวลา หรือสถานที่เฉพาะเพื่อเดิน แค่ปรับให้การเดินอยู่ในชีวิตประจำวันของคุณ อาทิ เวลาออกไปข้างนอก ก็เลือกวิธีเดินแทนการขับรถหรือขึ้นรถโดยสารแทน
มีแรงกระแทกต่ำ
เหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายแบบเซฟเข่า ลดแรงกระแทกระหว่างออกกำลังกาย เนื่องจากมีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือเข่าเริ่มไม่ดี
สลายไขมันในร่างกายได้เร็ว
ไขมันในร่างกายไม่ได้เริ่มเผาผลาญตั้งแต่เริ่มออกกำลังกาย แต่ต้องออกกำลังกายไปสักระยะจึงจะเริ่มเผาผลาญ ซึ่งการเดินในความเร็วที่พอเหมาะเป็นเวลา 10-20 นาที จะทำให้ไม่เหนื่อยและส่งผลดีต่อการสลายไขมันในร่างกาย
ช่วยลดความเครียด
การเดิน จะช่วยให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมากขึ้น ซึ่งสารดังกล่าวมีผลให้คุณอารมณ์ดี หรือจิตใจแจ่มใส นอกจากนี้ การเดินยังจัดว่า เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการขจัดความเครียดถึงขั้นสามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้เลย
ลักษณะการเดินที่ถูกวิธี มีอะไรบ้าง ?
1. สายตามองตรงไปข้างหน้าขณะเดิน ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในระดับตรง
2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานกับลำตัว มือทั้งสองข้างกำแบบหลวมๆ มือที่แกว่งสูงระดับอกในลักษณะที่ผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมประมาณ 90 องศา ระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง
3. จังหวะก้าวเท้าควรสม่ำเสมอ และมีความต่อเนื่อง ไม่ใช่เดินๆ หยุด อย่างน้อยควรเดินต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 20-30 นาที แต่หากเพิ่งเริ่มต้น อาจเริ่มที่ 5 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ
4. เวลาเดินให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน แล้วถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้า ที่สำคัญควรวางเท้าลงกับพื้นตรงๆ ไม่วางเท้าให้ไขว่กันมากจนเกินไป
5. ไม่ควรก้าวเท้ายาวจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าที่กล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกมากกว่าปกติ
6. หากต้องเดินขึ้นเนิน ควรเดินช้าลง และเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เมื่อเดินลงเนิน ให้พยายามควบคุมความเร็วก้าวสั้นๆ และวางเท้าให้เบา
Walking Miracle นี่แหละมหัศจรรย์แห่งการเดิน
เดินออกกำลังกาย มีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด โดยเฉพาะถ้าอยากมีร่างกายแข็งแรง ก็ลุกออกจากที่นั่งแล้วมาเดินกันเลย
เดิน เบิร์น ไขมัน
การเดินนั้นแทบจะเป็นวิธีการออกกำลังกายเดียวที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันโดยที่คุณก็แทบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าคุณรู้จักการเดินที่ถูกวิธี รับรองว่าหุ่นสวยแน่ ๆ ว่าแต่จะเดินอย่างไรให้เบิร์นไขมันอย่างได้ผล เรามีคำแนะนำมาฝากกัน
* ใส่ใจกับการวางท่า ทำให้ไหล่และแผ่นหลังอยู่ในภาวะที่สบาย สายตามองตรงไปข้างหน้า ปรับระดับคางให้เชิดในระดับตรง
* สังเกตอัตราหัวใจ ควบคุมให้อัตราการเดินสัมพันธ์กับการเต้นของหัวใจ พยายามเดินให้กระฉับกระเฉง อัตราการเต้นของหัวใจที่ดีจะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
* ถ่วงน้ำหนัก สวมเสื้อกล้ามที่มีน้ำหนักสักนิดหนึ่ง หรือไม่ก็หากระเป๋าเป้มาสะพายหลังระหว่างเดิน จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น แต่ให้หลีกเลี่ยงการถือของหนักด้วยมือ หรือหาอะไรมาถ่วงข้อเท้าขณะเดิน
* แกว่งแขนเป็นวงสวย ขณะเดินพยายามให้ข้อศอกทำมุม 90 องศา แกว่งวงแขนไปข้างหน้าและข้างหังโดยให้องศาข้อศอกอยู่ในระดับคงที่
* เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ลองเกร็งกล้ามเนื้อท้องบ่อย ๆ ในขณะที่เดินจะช่วยลดพุงได้
* สะโพกส่ายพองาม เวลาเดินกล้ามเนื้อส่วนสะโพกจะเคลื่อนย้ายไปด้วย เพียงควบคุมส่วนสะโพกให้ส่ายไปตามจังหวะการเดินอย่างพองาม จะช่วยให้กล้ามเนื้อสะโพกเฟิร์มขึ้น
* เกร็งขาอ่อนส่วนหลัง การสร้างกล้ามเนื้อให้เกิดขึ้นบริเวณขาอ่อนส่วนหลังขณะเดินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งเสริมให้หุ่นของเราฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น โดยเฉพาะเชพส่วนสะโพก
* ยกเข่าเป็นจังหวะ ขณะเดินให้ยกเข่าเป็นจังหวะ เมื่อเดินไปได้ระยะหนึ่งต้องหยุดพักเข่าบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
* สาวก้าวยาว ๆ เดินด้วยเท้าก้าวยาว ๆ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อทั้งส่วนในละนอกบริเวณข้อเท้า
* เดินบนพื้นไม่เรียบ หมายความว่าให้คุณออกกำลังกายด้วยการเดินอยู่บนผืนหญ้า ผืนทราย ผืนกรวด พื้นหิน หรือพื้นทางเดินที่ถูกจัดขึ้นไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับการเดิน
* เท้ากับการเดิน เดินโดยให้ส้นเท้าสัมผัสเป็นพื้นเป็นส่วนแรก ก่อนจะปรับเท้าให้โค้งเพื่อส่งน้ำหนักไปที่เท้าส่วนหน้านิ้วเท้าจะช่วยผลักให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างสมดุล
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: “การเดิน” เป็นการออกกำลังกาย ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแรงหรือไม่ก็ตาม แต่การเดินออกกำลังกายที่ดีและถูกวิธี ควรเป็นอย่างไร Tonkit360 มีข้อมูลมาฝากกัน
การเดิน
แม้ว่า “การเดิน” จะไม่ได้เผาผลาญพลังงานได้มาก เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ แต่ถ้าคุณเดินให้ได้อย่างน้อย 10,000 ก้าว/วัน หรือเดินประมาณ 30 นาที และสะสมให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิต หากเดินอย่างสม่ำเสมอและมากพอในแต่ละสัปดาห์ ร่างกายของคุณก็จะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน
การเดินมีกี่แบบ ?
เดินช้า มีลักษณะคล้ายกับการเดินเล่น เดินจงกรม หรือเดินซื้อของ
เดินเร็ว เป็นการเดินเร็วติดต่อกันนานกว่า 10 นาที/ครั้ง รวมกัน 30 นาที/วัน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์
เดินแข่ง คือ เดินเร็วจนกระทั่งพูดไม่เป็นคำ คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะหายใจไม่ทัน
ข้อดีของการเดินเริ่มต้นง่ายและประหยัด
แค่มีรองเท้ากีฬาที่ใส่สบายและเหมาะสมกับเท้าของคุณก็สามารถเริ่มได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง ทั้งยังไม่ต้องหาเวลา หรือสถานที่เฉพาะเพื่อเดิน แค่ปรับให้การเดินอยู่ในชีวิตประจำวันของคุณ อาทิ เวลาออกไปข้างนอก ก็เลือกวิธีเดินแทนการขับรถหรือขึ้นรถโดยสารแทน
มีแรงกระแทกต่ำ
เหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายแบบเซฟเข่า ลดแรงกระแทกระหว่างออกกำลังกาย เนื่องจากมีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือเข่าเริ่มไม่ดี
สลายไขมันในร่างกายได้เร็ว
ไขมันในร่างกายไม่ได้เริ่มเผาผลาญตั้งแต่เริ่มออกกำลังกาย แต่ต้องออกกำลังกายไปสักระยะจึงจะเริ่มเผาผลาญ ซึ่งการเดินในความเร็วที่พอเหมาะเป็นเวลา 10-20 นาที จะทำให้ไม่เหนื่อยและส่งผลดีต่อการสลายไขมันในร่างกาย
ช่วยลดความเครียด
การเดิน จะช่วยให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมากขึ้น ซึ่งสารดังกล่าวมีผลให้คุณอารมณ์ดี หรือจิตใจแจ่มใส นอกจากนี้ การเดินยังจัดว่า เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการขจัดความเครียดถึงขั้นสามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้เลย
ลักษณะการเดินที่ถูกวิธี มีอะไรบ้าง ?
1. สายตามองตรงไปข้างหน้าขณะเดิน ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในระดับตรง
2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานกับลำตัว มือทั้งสองข้างกำแบบหลวมๆ มือที่แกว่งสูงระดับอกในลักษณะที่ผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมประมาณ 90 องศา ระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง
3. จังหวะก้าวเท้าควรสม่ำเสมอ และมีความต่อเนื่อง ไม่ใช่เดินๆ หยุด อย่างน้อยควรเดินต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 20-30 นาที แต่หากเพิ่งเริ่มต้น อาจเริ่มที่ 5 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ
4. เวลาเดินให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน แล้วถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้า ที่สำคัญควรวางเท้าลงกับพื้นตรงๆ ไม่วางเท้าให้ไขว่กันมากจนเกินไป
5. ไม่ควรก้าวเท้ายาวจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าที่กล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกมากกว่าปกติ
6. หากต้องเดินขึ้นเนิน ควรเดินช้าลง และเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เมื่อเดินลงเนิน ให้พยายามควบคุมความเร็วก้าวสั้นๆ และวางเท้าให้เบา
Walking Miracle นี่แหละมหัศจรรย์แห่งการเดิน
เดินออกกำลังกาย มีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด โดยเฉพาะถ้าอยากมีร่างกายแข็งแรง ก็ลุกออกจากที่นั่งแล้วมาเดินกันเลย
เดิน เบิร์น ไขมัน
การเดินนั้นแทบจะเป็นวิธีการออกกำลังกายเดียวที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันโดยที่คุณก็แทบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าคุณรู้จักการเดินที่ถูกวิธี รับรองว่าหุ่นสวยแน่ ๆ ว่าแต่จะเดินอย่างไรให้เบิร์นไขมันอย่างได้ผล เรามีคำแนะนำมาฝากกัน
* ใส่ใจกับการวางท่า ทำให้ไหล่และแผ่นหลังอยู่ในภาวะที่สบาย สายตามองตรงไปข้างหน้า ปรับระดับคางให้เชิดในระดับตรง
* สังเกตอัตราหัวใจ ควบคุมให้อัตราการเดินสัมพันธ์กับการเต้นของหัวใจ พยายามเดินให้กระฉับกระเฉง อัตราการเต้นของหัวใจที่ดีจะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
* ถ่วงน้ำหนัก สวมเสื้อกล้ามที่มีน้ำหนักสักนิดหนึ่ง หรือไม่ก็หากระเป๋าเป้มาสะพายหลังระหว่างเดิน จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น แต่ให้หลีกเลี่ยงการถือของหนักด้วยมือ หรือหาอะไรมาถ่วงข้อเท้าขณะเดิน
* แกว่งแขนเป็นวงสวย ขณะเดินพยายามให้ข้อศอกทำมุม 90 องศา แกว่งวงแขนไปข้างหน้าและข้างหังโดยให้องศาข้อศอกอยู่ในระดับคงที่
* เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ลองเกร็งกล้ามเนื้อท้องบ่อย ๆ ในขณะที่เดินจะช่วยลดพุงได้
* สะโพกส่ายพองาม เวลาเดินกล้ามเนื้อส่วนสะโพกจะเคลื่อนย้ายไปด้วย เพียงควบคุมส่วนสะโพกให้ส่ายไปตามจังหวะการเดินอย่างพองาม จะช่วยให้กล้ามเนื้อสะโพกเฟิร์มขึ้น
* เกร็งขาอ่อนส่วนหลัง การสร้างกล้ามเนื้อให้เกิดขึ้นบริเวณขาอ่อนส่วนหลังขณะเดินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งเสริมให้หุ่นของเราฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น โดยเฉพาะเชพส่วนสะโพก
* ยกเข่าเป็นจังหวะ ขณะเดินให้ยกเข่าเป็นจังหวะ เมื่อเดินไปได้ระยะหนึ่งต้องหยุดพักเข่าบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
* สาวก้าวยาว ๆ เดินด้วยเท้าก้าวยาว ๆ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อทั้งส่วนในละนอกบริเวณข้อเท้า
* เดินบนพื้นไม่เรียบ หมายความว่าให้คุณออกกำลังกายด้วยการเดินอยู่บนผืนหญ้า ผืนทราย ผืนกรวด พื้นหิน หรือพื้นทางเดินที่ถูกจัดขึ้นไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับการเดิน
* เท้ากับการเดิน เดินโดยให้ส้นเท้าสัมผัสเป็นพื้นเป็นส่วนแรก ก่อนจะปรับเท้าให้โค้งเพื่อส่งน้ำหนักไปที่เท้าส่วนหน้านิ้วเท้าจะช่วยผลักให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างสมดุล../add_file/“การเดิน” เป็นการออกกำลังกาย ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแรงหรือไม่ก็ตาม แต่การเดินออกกำลังกายที่ดีและถูกวิธี ควรเป็นอย่างไร Tonkit360 มีข้อมูลมาฝากกัน
การเดิน
แม้ว่า “การเดิน” จะไม่ได้เผาผลาญพลังงานได้มาก เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายประเภทอื่นๆ แต่ถ้าคุณเดินให้ได้อย่างน้อย 10,000 ก้าว/วัน หรือเดินประมาณ 30 นาที และสะสมให้ได้ 150 นาที/สัปดาห์ จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิต หากเดินอย่างสม่ำเสมอและมากพอในแต่ละสัปดาห์ ร่างกายของคุณก็จะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน
การเดินมีกี่แบบ ?
เดินช้า มีลักษณะคล้ายกับการเดินเล่น เดินจงกรม หรือเดินซื้อของ
เดินเร็ว เป็นการเดินเร็วติดต่อกันนานกว่า 10 นาที/ครั้ง รวมกัน 30 นาที/วัน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์
เดินแข่ง คือ เดินเร็วจนกระทั่งพูดไม่เป็นคำ คุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะหายใจไม่ทัน
ข้อดีของการเดินเริ่มต้นง่ายและประหยัด
แค่มีรองเท้ากีฬาที่ใส่สบายและเหมาะสมกับเท้าของคุณก็สามารถเริ่มได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกายราคาแพง ทั้งยังไม่ต้องหาเวลา หรือสถานที่เฉพาะเพื่อเดิน แค่ปรับให้การเดินอยู่ในชีวิตประจำวันของคุณ อาทิ เวลาออกไปข้างนอก ก็เลือกวิธีเดินแทนการขับรถหรือขึ้นรถโดยสารแทน
มีแรงกระแทกต่ำ
เหมาะสำหรับคนที่อยากออกกำลังกายแบบเซฟเข่า ลดแรงกระแทกระหว่างออกกำลังกาย เนื่องจากมีน้ำหนักตัวมากเกินไป หรือเข่าเริ่มไม่ดี
สลายไขมันในร่างกายได้เร็ว
ไขมันในร่างกายไม่ได้เริ่มเผาผลาญตั้งแต่เริ่มออกกำลังกาย แต่ต้องออกกำลังกายไปสักระยะจึงจะเริ่มเผาผลาญ ซึ่งการเดินในความเร็วที่พอเหมาะเป็นเวลา 10-20 นาที จะทำให้ไม่เหนื่อยและส่งผลดีต่อการสลายไขมันในร่างกาย
ช่วยลดความเครียด
การเดิน จะช่วยให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินมากขึ้น ซึ่งสารดังกล่าวมีผลให้คุณอารมณ์ดี หรือจิตใจแจ่มใส นอกจากนี้ การเดินยังจัดว่า เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการขจัดความเครียดถึงขั้นสามารถรักษาอาการซึมเศร้าได้เลย
ลักษณะการเดินที่ถูกวิธี มีอะไรบ้าง ?
1. สายตามองตรงไปข้างหน้าขณะเดิน ศีรษะและลำตัวตั้งตรง ไหล่ทั้งสองข้างอยู่ในระดับตรง
2. แกว่งแขนซ้ายขวาสลับหน้าหลังขนานกับลำตัว มือทั้งสองข้างกำแบบหลวมๆ มือที่แกว่งสูงระดับอกในลักษณะที่ผ่อนคลาย งอศอกเล็กน้อย ทำมุมประมาณ 90 องศา ระหว่างแขนท่อนบน-ล่าง
3. จังหวะก้าวเท้าควรสม่ำเสมอ และมีความต่อเนื่อง ไม่ใช่เดินๆ หยุด อย่างน้อยควรเดินต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 20-30 นาที แต่หากเพิ่งเริ่มต้น อาจเริ่มที่ 5 นาที แล้วค่อยๆ เพิ่มไปเรื่อยๆ
4. เวลาเดินให้ส้นเท้าแตะพื้นก่อน แล้วถ่ายน้ำหนักตัวไปที่ฝ่าเท้า ที่สำคัญควรวางเท้าลงกับพื้นตรงๆ ไม่วางเท้าให้ไขว่กันมากจนเกินไป
5. ไม่ควรก้าวเท้ายาวจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าที่กล้ามเนื้อต้นขาและสะโพกมากกว่าปกติ
6. หากต้องเดินขึ้นเนิน ควรเดินช้าลง และเอนตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย เมื่อเดินลงเนิน ให้พยายามควบคุมความเร็วก้าวสั้นๆ และวางเท้าให้เบา
Walking Miracle นี่แหละมหัศจรรย์แห่งการเดิน
เดินออกกำลังกาย มีประโยชน์มากมายกว่าที่คิด โดยเฉพาะถ้าอยากมีร่างกายแข็งแรง ก็ลุกออกจากที่นั่งแล้วมาเดินกันเลย
เดิน เบิร์น ไขมัน
การเดินนั้นแทบจะเป็นวิธีการออกกำลังกายเดียวที่ถูกสอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวันโดยที่คุณก็แทบไม่รู้ตัว ซึ่งถ้าคุณรู้จักการเดินที่ถูกวิธี รับรองว่าหุ่นสวยแน่ ๆ ว่าแต่จะเดินอย่างไรให้เบิร์นไขมันอย่างได้ผล เรามีคำแนะนำมาฝากกัน
* ใส่ใจกับการวางท่า ทำให้ไหล่และแผ่นหลังอยู่ในภาวะที่สบาย สายตามองตรงไปข้างหน้า ปรับระดับคางให้เชิดในระดับตรง
* สังเกตอัตราหัวใจ ควบคุมให้อัตราการเดินสัมพันธ์กับการเต้นของหัวใจ พยายามเดินให้กระฉับกระเฉง อัตราการเต้นของหัวใจที่ดีจะช่วยเบิร์นแคลอรี่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
* ถ่วงน้ำหนัก สวมเสื้อกล้ามที่มีน้ำหนักสักนิดหนึ่ง หรือไม่ก็หากระเป๋าเป้มาสะพายหลังระหว่างเดิน จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกายได้ดีขึ้น แต่ให้หลีกเลี่ยงการถือของหนักด้วยมือ หรือหาอะไรมาถ่วงข้อเท้าขณะเดิน
* แกว่งแขนเป็นวงสวย ขณะเดินพยายามให้ข้อศอกทำมุม 90 องศา แกว่งวงแขนไปข้างหน้าและข้างหังโดยให้องศาข้อศอกอยู่ในระดับคงที่
* เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง ลองเกร็งกล้ามเนื้อท้องบ่อย ๆ ในขณะที่เดินจะช่วยลดพุงได้
* สะโพกส่ายพองาม เวลาเดินกล้ามเนื้อส่วนสะโพกจะเคลื่อนย้ายไปด้วย เพียงควบคุมส่วนสะโพกให้ส่ายไปตามจังหวะการเดินอย่างพองาม จะช่วยให้กล้ามเนื้อสะโพกเฟิร์มขึ้น
* เกร็งขาอ่อนส่วนหลัง การสร้างกล้ามเนื้อให้เกิดขึ้นบริเวณขาอ่อนส่วนหลังขณะเดินก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ส่งเสริมให้หุ่นของเราฟิตแอนด์เฟิร์มมากขึ้น โดยเฉพาะเชพส่วนสะโพก
* ยกเข่าเป็นจังหวะ ขณะเดินให้ยกเข่าเป็นจังหวะ เมื่อเดินไปได้ระยะหนึ่งต้องหยุดพักเข่าบ้าง เพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ
* สาวก้าวยาว ๆ เดินด้วยเท้าก้าวยาว ๆ เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อทั้งส่วนในละนอกบริเวณข้อเท้า
* เดินบนพื้นไม่เรียบ หมายความว่าให้คุณออกกำลังกายด้วยการเดินอยู่บนผืนหญ้า ผืนทราย ผืนกรวด พื้นหิน หรือพื้นทางเดินที่ถูกจัดขึ้นไว้ให้เป็นพิเศษสำหรับการเดิน
* เท้ากับการเดิน เดินโดยให้ส้นเท้าสัมผัสเป็นพื้นเป็นส่วนแรก ก่อนจะปรับเท้าให้โค้งเพื่อส่งน้ำหนักไปที่เท้าส่วนหน้านิ้วเท้าจะช่วยผลักให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างสมดุล
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : การออกกำลังกาย เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมาย ผู้ที่ใส่ใจในการทานอาหารที่ดี และมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมควบคู่กันไป จึงมีสุขภาพดี แข็งแรง และสดชื่นอ่อนกว่าวัยได้ไม่ยาก
สำหรับในวัยสูงอายุ แม้จะเป็นวัยที่ใช้พลังงานน้อยลงมาก และมีเรี่ยวแรงไม่มากเหมือนในวัยอื่น แต่การออกกำลังกายก็ยังคงมีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับวัยนี้อยู่
ดังนั้น หากผู้สูงอายุใส่ใจให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายด้วยแล้ว สุขภาพที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง และอายุที่ยืนยาวก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย แต่ควรออกให้เหมาะสมกับอายุ สภาพร่างกาย และโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ดังนี้
1. ควรดูแลให้ผู้สูงอายุได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนอยู่เสมอ
ควรเลือกการเดิน การบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่างๆที่สำคัญเช่น ข้อเข่า ข้อไหล่ และข้อนิ้วต่างๆ เพราะข้อต่างๆ จะติดขัดได้ง่ายจากการเสื่อมถอยของเนื้อเยื่อข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น การช่วยงานบ้านที่เหมาะสมกับสุขภาพ เช่น กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ ช่วยดูแลหลานที่โตแล้ว แต่การดูแลเด็กอ่อนและเด็กเล็กควรต้องมีผู้ช่วยผู้สูงอายุด้วย
2. ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้เคลื่อนไหวเสมอ
ไม่นั่งแช่ดูทีวีหรือนอนอยู่แต่บนเตียง การช่วยกันจัดให้มีการรวมกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อกิจกรรมต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ช่วยผู้สูงอายุทั้งสุข ภาพกายและสุขภาพจิต
3. การออกกำลังกาย
ซึ่งนอกเหนือจากการเคลื่อนไหวร่างกายในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อแนะนำวิธีการในการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพของผู้สูงอายุแต่ละคน
4. การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
โดยทั่วไปการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ คือ การเดิน ซึ่งเมื่อไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ แพทย์มักแนะนำการเดินวันละประมาณ 20 - 30 นาทีทุกๆวัน ซึ่งในการเดินควรต้องหาสถานที่ให้ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุโดยเฉพาะการล้ม การใส่เครื่องช่วยพยุงต่างๆเช่น พยุงข้อเท้าและพยุงข้อเข่า รวมทั้งต้องเลือกรองเท้าที่เหมาะสมต่อการเดิน ป้องกันอุบัติเหตุต่อการล้มและต่อข้อต่างๆ ซึ่งทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์และนักกายภาพบำบัดก่อน
ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด ก็ควรออกกำลังกายเสมอๆ เช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ในวัยสูงอายุ ยิ่งหากออกกำลังกายต่อเนื่องมาตลอดชีวิต ก็ย่อมจะเห็นความแตกต่างกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายได้อย่างเด่นชัด และยังทำให้คุณดูอ่อนวัยไปได้ 5-10 ปีอีกด้วย
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: การออกกำลังกาย เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมาย ผู้ที่ใส่ใจในการทานอาหารที่ดี และมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมควบคู่กันไป จึงมีสุขภาพดี แข็งแรง และสดชื่นอ่อนกว่าวัยได้ไม่ยาก
สำหรับในวัยสูงอายุ แม้จะเป็นวัยที่ใช้พลังงานน้อยลงมาก และมีเรี่ยวแรงไม่มากเหมือนในวัยอื่น แต่การออกกำลังกายก็ยังคงมีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับวัยนี้อยู่
ดังนั้น หากผู้สูงอายุใส่ใจให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายด้วยแล้ว สุขภาพที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง และอายุที่ยืนยาวก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย แต่ควรออกให้เหมาะสมกับอายุ สภาพร่างกาย และโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ดังนี้
1. ควรดูแลให้ผู้สูงอายุได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนอยู่เสมอ
ควรเลือกการเดิน การบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่างๆที่สำคัญเช่น ข้อเข่า ข้อไหล่ และข้อนิ้วต่างๆ เพราะข้อต่างๆ จะติดขัดได้ง่ายจากการเสื่อมถอยของเนื้อเยื่อข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น การช่วยงานบ้านที่เหมาะสมกับสุขภาพ เช่น กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ ช่วยดูแลหลานที่โตแล้ว แต่การดูแลเด็กอ่อนและเด็กเล็กควรต้องมีผู้ช่วยผู้สูงอายุด้วย
2. ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้เคลื่อนไหวเสมอ
ไม่นั่งแช่ดูทีวีหรือนอนอยู่แต่บนเตียง การช่วยกันจัดให้มีการรวมกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อกิจกรรมต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ช่วยผู้สูงอายุทั้งสุข ภาพกายและสุขภาพจิต
3. การออกกำลังกาย
ซึ่งนอกเหนือจากการเคลื่อนไหวร่างกายในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อแนะนำวิธีการในการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพของผู้สูงอายุแต่ละคน
4. การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
โดยทั่วไปการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ คือ การเดิน ซึ่งเมื่อไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ แพทย์มักแนะนำการเดินวันละประมาณ 20 - 30 นาทีทุกๆวัน ซึ่งในการเดินควรต้องหาสถานที่ให้ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุโดยเฉพาะการล้ม การใส่เครื่องช่วยพยุงต่างๆเช่น พยุงข้อเท้าและพยุงข้อเข่า รวมทั้งต้องเลือกรองเท้าที่เหมาะสมต่อการเดิน ป้องกันอุบัติเหตุต่อการล้มและต่อข้อต่างๆ ซึ่งทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์และนักกายภาพบำบัดก่อน
ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด ก็ควรออกกำลังกายเสมอๆ เช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ในวัยสูงอายุ ยิ่งหากออกกำลังกายต่อเนื่องมาตลอดชีวิต ก็ย่อมจะเห็นความแตกต่างกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายได้อย่างเด่นชัด และยังทำให้คุณดูอ่อนวัยไปได้ 5-10 ปีอีกด้วย../add_file/การออกกำลังกาย เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมาย ผู้ที่ใส่ใจในการทานอาหารที่ดี และมีการออกกำลังกายที่เหมาะสมควบคู่กันไป จึงมีสุขภาพดี แข็งแรง และสดชื่นอ่อนกว่าวัยได้ไม่ยาก
สำหรับในวัยสูงอายุ แม้จะเป็นวัยที่ใช้พลังงานน้อยลงมาก และมีเรี่ยวแรงไม่มากเหมือนในวัยอื่น แต่การออกกำลังกายก็ยังคงมีความสำคัญ และจำเป็นสำหรับวัยนี้อยู่
ดังนั้น หากผู้สูงอายุใส่ใจให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายด้วยแล้ว สุขภาพที่ดี ร่างกายที่แข็งแรง และอายุที่ยืนยาวก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย แต่ควรออกให้เหมาะสมกับอายุ สภาพร่างกาย และโรคประจำตัวที่เป็นอยู่ ดังนี้
1. ควรดูแลให้ผู้สูงอายุได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วนอยู่เสมอ
ควรเลือกการเดิน การบริหารกล้ามเนื้อและข้อต่างๆที่สำคัญเช่น ข้อเข่า ข้อไหล่ และข้อนิ้วต่างๆ เพราะข้อต่างๆ จะติดขัดได้ง่ายจากการเสื่อมถอยของเนื้อเยื่อข้อกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น การช่วยงานบ้านที่เหมาะสมกับสุขภาพ เช่น กวาดบ้าน รดน้ำต้นไม้ ช่วยดูแลหลานที่โตแล้ว แต่การดูแลเด็กอ่อนและเด็กเล็กควรต้องมีผู้ช่วยผู้สูงอายุด้วย
2. ควรจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุได้เคลื่อนไหวเสมอ
ไม่นั่งแช่ดูทีวีหรือนอนอยู่แต่บนเตียง การช่วยกันจัดให้มีการรวมกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนเพื่อกิจกรรมต่างๆ จะเป็นสิ่งที่ช่วยผู้สูงอายุทั้งสุข ภาพกายและสุขภาพจิต
3. การออกกำลังกาย
ซึ่งนอกเหนือจากการเคลื่อนไหวร่างกายในการใช้ชีวิตประจำวัน ควรต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เพื่อแนะนำวิธีการในการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสุขภาพของผู้สูงอายุแต่ละคน
4. การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ
โดยทั่วไปการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ คือ การเดิน ซึ่งเมื่อไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ แพทย์มักแนะนำการเดินวันละประมาณ 20 - 30 นาทีทุกๆวัน ซึ่งในการเดินควรต้องหาสถานที่ให้ปลอดภัยต่อผู้สูงอายุ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุโดยเฉพาะการล้ม การใส่เครื่องช่วยพยุงต่างๆเช่น พยุงข้อเท้าและพยุงข้อเข่า รวมทั้งต้องเลือกรองเท้าที่เหมาะสมต่อการเดิน ป้องกันอุบัติเหตุต่อการล้มและต่อข้อต่างๆ ซึ่งทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์และนักกายภาพบำบัดก่อน
ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด ก็ควรออกกำลังกายเสมอๆ เช่นเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ในวัยสูงอายุ ยิ่งหากออกกำลังกายต่อเนื่องมาตลอดชีวิต ก็ย่อมจะเห็นความแตกต่างกับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายได้อย่างเด่นชัด และยังทำให้คุณดูอ่อนวัยไปได้ 5-10 ปีอีกด้วย
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.
เพียงกรอกเลขบัตรประจําตัวประชาชน 13 หลัก ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลแสดงรายชื่อที่ตนมีสิทธิ วันที่เลือกตั้ง จังหวัด อำเภอ/เขต ที่มีสิทธิ สถานที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection/
#ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
#ส.ส.
#สำนักบริการการทะเบียน #กรมการปกครอง
#กระทรวงมหาดไทย
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.
เพียงกรอกเลขบัตรประจําตัวประชาชน 13 หลัก ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลแสดงรายชื่อที่ตนมีสิทธิ วันที่เลือกตั้ง จังหวัด อำเภอ/เขต ที่มีสิทธิ สถานที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection/
#ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
#ส.ส.
#สำนักบริการการทะเบียน #กรมการปกครอง
#กระทรวงมหาดไทย
../add_file/ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.
เพียงกรอกเลขบัตรประจําตัวประชาชน 13 หลัก ก็สามารถเข้าถึงข้อมูลแสดงรายชื่อที่ตนมีสิทธิ วันที่เลือกตั้ง จังหวัด อำเภอ/เขต ที่มีสิทธิ สถานที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/enqelection/
#ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
#ส.ส.
#สำนักบริการการทะเบียน #กรมการปกครอง
#กระทรวงมหาดไทย
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ดาวน์โหลด-ใช้แอปพลิเคชั่น ThaiD บนโทรศัพท์มือถือของคุณทั้งระบบ Android และ iOS ได้แล้ววันนี้
ThaiD คือแอปพลิเคชันที่เกิดจากการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน และเปรียบเทียบใบหน้าทางดิจิทัล โดยใช้สำหรับยืนยันตัวตน หรือใช้แสดงแทนบัตรประจำตัวประชาชน ในการทำธุรกรรม-รับบริการ กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ใช้ในด้านความสะดวก-สบาย ประหยัดเวลา-ค่าใช้จ่าย รวดเร็ว และอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD จะมีทางเลือกในการลงทะเบียน 2 รูปแบบ คือ ลงทะเบียน ด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและการตรวจสอบภาพใบหน้า หรือลงทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง แล้วทำตามขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งจะมีการให้กำหนดรหัสผ่านส่วนบุคคล (8 หลัก) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
เมื่อลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD บนมือถือสำเร็จ จะแสดงภาพบัตรประจำตัวประชาชนในรูปแบบดิจิทัล ทั้งด้านหน้าบัตร และหลังบัตร พร้อมช่องทางการบริการงานต่างๆ อาทิ การตรวจสอบข้อมูลของตนเอง การขอรับบริการล่วงหน้า การแจ้งย้ายที่อยู่ด้วยตนเอง การมอบหมายปลูกสร้างบ้านใหม่ (ขอเลขที่บ้าน) การคัดรับรองเอกสารด้วยตนเอง โดยในระยะแรก มีหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล กับกรมการปกครอง 30 หน่วยงาน และจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การดูข้อมูลส่วนบุคคลภายในแอปพลิเคชั่น ThaiD จะปรากฏลิงค์ BORA Portal ผ่านเว็บไซต์ http://thportal.bora.dopa.go.th แล้ว login ด้วย ThaiD โดยการสแกน QR Code และใช้รหัสผ่านที่ตั้งไว้ จำนวน 8 หลัก ข้อมูลที่ปรากฎได้แก่ การศึกษาและความสามารถ สวัสดิการ ประกอบอาชีพ ฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ทรัพย์สิน ตรวจสอบการฉีดวัคซีน เป็นต้น อนึ่ง ในระยะแรกนี้หน่วยงานที่ใช้ ThaiD ในการยืนยันตัวตนแล้ว อาทิเช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ใช้แสดงตนเพื่อโดยสารสายการบินภายในประเทศ , กรมการกงสุล ใช้ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในการขอทำหนังสือเดินทาง , กรมสรรพากร ใช้ในระบบยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) และระบบตรวจสอบค่าลดหย่อน (My Tax Account) เป็นต้น
แอปพลิเคชั่น ThaiD อ่านเป็นภาษาไทยว่า "ไทยดี" คือชื่อที่มีความหมาย จดจำง่าย โดยเป็นคำผสมในภาษาอังกฤษ จาก"Thai" และ ID " ซึ่งเป็นคำเฉพาะ ID ปกติย่อมาจาก IDentification ที่แปลว่า “อัตลักษณ์ไทย” เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแอปปลิเคชั่นคือ “การพิสูจน์และยืนยันตัวตน...ของคนไทย” อย่างแท้จริง
#ThaiD #สะดวก #รวดเร็ว #ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
#ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตน
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ดาวน์โหลด-ใช้แอปพลิเคชั่น ThaiD บนโทรศัพท์มือถือของคุณทั้งระบบ Android และ iOS ได้แล้ววันนี้
ThaiD คือแอปพลิเคชันที่เกิดจากการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน และเปรียบเทียบใบหน้าทางดิจิทัล โดยใช้สำหรับยืนยันตัวตน หรือใช้แสดงแทนบัตรประจำตัวประชาชน ในการทำธุรกรรม-รับบริการ กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ใช้ในด้านความสะดวก-สบาย ประหยัดเวลา-ค่าใช้จ่าย รวดเร็ว และอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD จะมีทางเลือกในการลงทะเบียน 2 รูปแบบ คือ ลงทะเบียน ด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและการตรวจสอบภาพใบหน้า หรือลงทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง แล้วทำตามขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งจะมีการให้กำหนดรหัสผ่านส่วนบุคคล (8 หลัก) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
เมื่อลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD บนมือถือสำเร็จ จะแสดงภาพบัตรประจำตัวประชาชนในรูปแบบดิจิทัล ทั้งด้านหน้าบัตร และหลังบัตร พร้อมช่องทางการบริการงานต่างๆ อาทิ การตรวจสอบข้อมูลของตนเอง การขอรับบริการล่วงหน้า การแจ้งย้ายที่อยู่ด้วยตนเอง การมอบหมายปลูกสร้างบ้านใหม่ (ขอเลขที่บ้าน) การคัดรับรองเอกสารด้วยตนเอง โดยในระยะแรก มีหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล กับกรมการปกครอง 30 หน่วยงาน และจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การดูข้อมูลส่วนบุคคลภายในแอปพลิเคชั่น ThaiD จะปรากฏลิงค์ BORA Portal ผ่านเว็บไซต์ http://thportal.bora.dopa.go.th แล้ว login ด้วย ThaiD โดยการสแกน QR Code และใช้รหัสผ่านที่ตั้งไว้ จำนวน 8 หลัก ข้อมูลที่ปรากฎได้แก่ การศึกษาและความสามารถ สวัสดิการ ประกอบอาชีพ ฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ทรัพย์สิน ตรวจสอบการฉีดวัคซีน เป็นต้น อนึ่ง ในระยะแรกนี้หน่วยงานที่ใช้ ThaiD ในการยืนยันตัวตนแล้ว อาทิเช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ใช้แสดงตนเพื่อโดยสารสายการบินภายในประเทศ , กรมการกงสุล ใช้ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในการขอทำหนังสือเดินทาง , กรมสรรพากร ใช้ในระบบยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) และระบบตรวจสอบค่าลดหย่อน (My Tax Account) เป็นต้น
แอปพลิเคชั่น ThaiD อ่านเป็นภาษาไทยว่า "ไทยดี" คือชื่อที่มีความหมาย จดจำง่าย โดยเป็นคำผสมในภาษาอังกฤษ จาก"Thai" และ ID " ซึ่งเป็นคำเฉพาะ ID ปกติย่อมาจาก IDentification ที่แปลว่า “อัตลักษณ์ไทย” เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแอปปลิเคชั่นคือ “การพิสูจน์และยืนยันตัวตน...ของคนไทย” อย่างแท้จริง
#ThaiD #สะดวก #รวดเร็ว #ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
#ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตน../add_file/กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ดาวน์โหลด-ใช้แอปพลิเคชั่น ThaiD บนโทรศัพท์มือถือของคุณทั้งระบบ Android และ iOS ได้แล้ววันนี้
ThaiD คือแอปพลิเคชันที่เกิดจากการพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตน และเปรียบเทียบใบหน้าทางดิจิทัล โดยใช้สำหรับยืนยันตัวตน หรือใช้แสดงแทนบัตรประจำตัวประชาชน ในการทำธุรกรรม-รับบริการ กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนต่างๆ เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ใช้ในด้านความสะดวก-สบาย ประหยัดเวลา-ค่าใช้จ่าย รวดเร็ว และอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ
เมื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaiD จะมีทางเลือกในการลงทะเบียน 2 รูปแบบ คือ ลงทะเบียน ด้วยตนเอง โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนและการตรวจสอบภาพใบหน้า หรือลงทะเบียนต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง แล้วทำตามขั้นตอนตามลำดับ ซึ่งจะมีการให้กำหนดรหัสผ่านส่วนบุคคล (8 หลัก) เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
เมื่อลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ThaiD บนมือถือสำเร็จ จะแสดงภาพบัตรประจำตัวประชาชนในรูปแบบดิจิทัล ทั้งด้านหน้าบัตร และหลังบัตร พร้อมช่องทางการบริการงานต่างๆ อาทิ การตรวจสอบข้อมูลของตนเอง การขอรับบริการล่วงหน้า การแจ้งย้ายที่อยู่ด้วยตนเอง การมอบหมายปลูกสร้างบ้านใหม่ (ขอเลขที่บ้าน) การคัดรับรองเอกสารด้วยตนเอง โดยในระยะแรก มีหน่วยงานภาครัฐที่ร่วมใช้ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล กับกรมการปกครอง 30 หน่วยงาน และจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป
ทั้งนี้ การดูข้อมูลส่วนบุคคลภายในแอปพลิเคชั่น ThaiD จะปรากฏลิงค์ BORA Portal ผ่านเว็บไซต์ http://thportal.bora.dopa.go.th แล้ว login ด้วย ThaiD โดยการสแกน QR Code และใช้รหัสผ่านที่ตั้งไว้ จำนวน 8 หลัก ข้อมูลที่ปรากฎได้แก่ การศึกษาและความสามารถ สวัสดิการ ประกอบอาชีพ ฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ทรัพย์สิน ตรวจสอบการฉีดวัคซีน เป็นต้น อนึ่ง ในระยะแรกนี้หน่วยงานที่ใช้ ThaiD ในการยืนยันตัวตนแล้ว อาทิเช่น สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ใช้แสดงตนเพื่อโดยสารสายการบินภายในประเทศ , กรมการกงสุล ใช้ยืนยันตัวตนทางดิจิทัลในการขอทำหนังสือเดินทาง , กรมสรรพากร ใช้ในระบบยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาผ่านอินเทอร์เน็ต (e-Filing) และระบบตรวจสอบค่าลดหย่อน (My Tax Account) เป็นต้น
แอปพลิเคชั่น ThaiD อ่านเป็นภาษาไทยว่า "ไทยดี" คือชื่อที่มีความหมาย จดจำง่าย โดยเป็นคำผสมในภาษาอังกฤษ จาก"Thai" และ ID " ซึ่งเป็นคำเฉพาะ ID ปกติย่อมาจาก IDentification ที่แปลว่า “อัตลักษณ์ไทย” เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแอปปลิเคชั่นคือ “การพิสูจน์และยืนยันตัวตน...ของคนไทย” อย่างแท้จริง
#ThaiD #สะดวก #รวดเร็ว #ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
#ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตน
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้าเปิดรับอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) คือ บุคคลที่มีความสนใจ มีความสมัครใจ มีความเสียสละและอุทิศตนในการทำงานด้านการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตนเอง
โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 7 ปีบริบูรณ์
3. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
4.มีความสมัครใจและมีจิตอาสาเข้ามาร่วมดำเนินกิจกรรมด้านการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย รวมถึงการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม
5. เป็นบุคคลที่มีความเสียสละและอุทิศตัวในการทำงานเพื่อส่วนรวม
6. เป็นบุคคลที่ตระหนักถึงการทำงานโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ
7. เป็นบุคคลที่เปิดโอกาสให้กับตัวเองและผู้อื่นในการแสวงหาความรู้ และเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
กรณีที่ผู้สมัครไม่ได้เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย ให้คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครรักษ์โลกระดับท้องถิ่น เป็นผู้พิจารณารับสมัครเป็น อถล.
หลักฐานการสมัคร
1. บัตรประจำตัวประชาชนและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
หมายเหตุ : กรณีผู้สมัครที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองลงนามยินยอมในใบสมัครด้วย
รับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เวลา 08.30-16.30 น. สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้าเปิดรับอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) คือ บุคคลที่มีความสนใจ มีความสมัครใจ มีความเสียสละและอุทิศตนในการทำงานด้านการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตนเอง
โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 7 ปีบริบูรณ์
3. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
4.มีความสมัครใจและมีจิตอาสาเข้ามาร่วมดำเนินกิจกรรมด้านการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย รวมถึงการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม
5. เป็นบุคคลที่มีความเสียสละและอุทิศตัวในการทำงานเพื่อส่วนรวม
6. เป็นบุคคลที่ตระหนักถึงการทำงานโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ
7. เป็นบุคคลที่เปิดโอกาสให้กับตัวเองและผู้อื่นในการแสวงหาความรู้ และเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
กรณีที่ผู้สมัครไม่ได้เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย ให้คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครรักษ์โลกระดับท้องถิ่น เป็นผู้พิจารณารับสมัครเป็น อถล.
หลักฐานการสมัคร
1. บัตรประจำตัวประชาชนและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
หมายเหตุ : กรณีผู้สมัครที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองลงนามยินยอมในใบสมัครด้วย
รับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เวลา 08.30-16.30 น. สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า../add_file/องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้าเปิดรับอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) คือ บุคคลที่มีความสนใจ มีความสมัครใจ มีความเสียสละและอุทิศตนในการทำงานด้านการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย การป้องกันและรักษาสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตนเอง
โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้
1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 7 ปีบริบูรณ์
3. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
4.มีความสมัครใจและมีจิตอาสาเข้ามาร่วมดำเนินกิจกรรมด้านการบริหารจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย รวมถึงการปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม
5. เป็นบุคคลที่มีความเสียสละและอุทิศตัวในการทำงานเพื่อส่วนรวม
6. เป็นบุคคลที่ตระหนักถึงการทำงานโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเป็นสำคัญ
7. เป็นบุคคลที่เปิดโอกาสให้กับตัวเองและผู้อื่นในการแสวงหาความรู้ และเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
กรณีที่ผู้สมัครไม่ได้เป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย ให้คณะกรรมการส่งเสริมและสนับสนุนอาสาสมัครรักษ์โลกระดับท้องถิ่น เป็นผู้พิจารณารับสมัครเป็น อถล.
หลักฐานการสมัคร
1. บัตรประจำตัวประชาชนและเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
หมายเหตุ : กรณีผู้สมัครที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ต้องมีผู้ปกครองลงนามยินยอมในใบสมัครด้วย
รับสมัคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เวลา 08.30-16.30 น. สำนักปลัด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : นายสมนึก ไกรสมดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอเชิญชวนเฃชาวบ้านตำบลบ้านหว้า ร่วมจัดทำถังขยะเปียก เพื่อเป็นการลดโลกร้อน เพื่อลดปริมาณขยะ ในพื้นที่ตำบลบ้านหว้าของเรา
♻️ มารู้จักกับ #ถังขยะเปียกครัวเรือน และวิธีทำแสนง่ายดาย สำหรับใช้คัดแยกและจัดการขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เศษหญ้า หรืออื่นๆที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติกันเถอะ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: นายสมนึก ไกรสมดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอเชิญชวนเฃชาวบ้านตำบลบ้านหว้า ร่วมจัดทำถังขยะเปียก เพื่อเป็นการลดโลกร้อน เพื่อลดปริมาณขยะ ในพื้นที่ตำบลบ้านหว้าของเรา
♻️ มารู้จักกับ #ถังขยะเปียกครัวเรือน และวิธีทำแสนง่ายดาย สำหรับใช้คัดแยกและจัดการขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เศษหญ้า หรืออื่นๆที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติกันเถอะ
../add_file/นายสมนึก ไกรสมดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า ขอเชิญชวนเฃชาวบ้านตำบลบ้านหว้า ร่วมจัดทำถังขยะเปียก เพื่อเป็นการลดโลกร้อน เพื่อลดปริมาณขยะ ในพื้นที่ตำบลบ้านหว้าของเรา
♻️ มารู้จักกับ #ถังขยะเปียกครัวเรือน และวิธีทำแสนง่ายดาย สำหรับใช้คัดแยกและจัดการขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เศษหญ้า หรืออื่นๆที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติกันเถอะ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : มารู้จักกับ #ถังขยะเปียกครัวเรือน และวิธีทำแสนง่ายดาย สำหรับใช้คัดแยกและจัดการขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เศษหญ้า หรืออื่นๆที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติกันเถอะ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: มารู้จักกับ #ถังขยะเปียกครัวเรือน และวิธีทำแสนง่ายดาย สำหรับใช้คัดแยกและจัดการขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เศษหญ้า หรืออื่นๆที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติกันเถอะ../add_file/ มารู้จักกับ #ถังขยะเปียกครัวเรือน และวิธีทำแสนง่ายดาย สำหรับใช้คัดแยกและจัดการขยะอินทรีย์หรือขยะเปียก ได้แก่ เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้ เศษหญ้า หรืออื่นๆที่ย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติกันเถอะ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ ***(เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)***
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2566
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ ***(เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)***
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2566
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒ../add_file/แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ ***(เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)***
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2566
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : "ขยะเปียก" นับเป็นหนึ่งในขยะที่สร้างความรำคาญใจให้กับพ่อบ้านแม่บ้านมากที่สุด เพราะหากจัดการไม่ดี อาจก่อให้เกิดเชื้อโรค และส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาได้ วันนี้บ้านไหนที่อยากจัดการกับขยะเปียกเจ้าปัญหาให้สิ้นซาก เรามีวิธีง่าย ๆ มาฝากกัน
การจัดการขยะนั้นต้องเริ่มแยกขยะตัวร้ายอย่างขยะเปียกออกจากขยะทั้งหมดก่อน ซึ่งขยะประเภทนี้ หากหมักหมมไว้นานโดยไม่ได้จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากจะเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ และเป็นแหล่งเชื้อโรคแล้ว ยังทำให้ขยะชนิดอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันสกปรก และไม่สามารถเข้าสู่การบวนการรีไซเคิลได้
สำหรับการจัดการกับขยะเปียกนั้น กูรูท่านนี้ บอกว่า มีอยู่ 2 วิธี คือ เศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า เช่น กระดูกไก่ ก้างปลา น้ำแกง สับบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นอาหารสัตว์ได้ ส่วนเศษอาหารที่บูดเน่าแล้วเหลือพืชผัก ไม่ว่าจะเป็นเปลือกผลไม้ เศษผัก หรือเศษใบไม้ สับ บด และป่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาเป็นจุลินทรีย์หมักทำปุ๋ยได้
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการจัดการขยะให้เหลือศูนย์ หรือทำปุ๋ยนั้น ดร.สมไทย เผยว่า การหมักเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยกำจัดขยะเปียกแล้ว ยังได้น้ำปุ๋ยหมักชีวภาพไว้ใช้ในครัวเรือนอีกด้วย แต่ก่อนอื่นทุกบ้านต้องมีถังหมักประจำบ้านเสียก่อน ซึ่งมีวิธีการทำง่าย ๆ ดังนี้
1. ถังทำจาก ถังสีเก่าเหลือใช้ขนาด 20 ลิตร
2. เจาะรูตัวถังด้านล่างใส่ก๊อกน้ำพลาสติก เพื่อใช้เปิดปิดน้ำหมัก
3. ฝาด้านบนเจาะรู สำหรับให้ออกซิเจนถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
4. ใช้ตะกร้าพลาสติกวางลงไป ให้ช่องว่างระหว่างก้นตะกร้ากับพื้นถังห่างกันประมาณ 5 ซม. เพื่อให้น้ำแกงตกอยู่ด้านล่าง สำหรับเป็นปุ๋ยน้ำ แยกออกจากด้านบน เป็นกากย่อยสลาย
ส่วนวิธีการจัดการเศษอาหารด้วยถังหมักประจำบ้านนั้น มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ เศษอาหาร 40 เปอร์เซ็นต์ เศษใบไม้ 30 เปอร์เซ็นต์ เศษผัก เศษเปลือกผลไม้ 30 เปอร์เซ็นต์ และจุลินทรีย์ EM 200 ซีซี. ผสมน้ำ 2 ลิตร
ขั้นตอนการทำ
1. นำส่วนผสมต่าง ๆ มาผสมเข้าด้วยกัน (เศษอาหาร ใบไม้ เศษผัก เศษผลไม้สับ หรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และจุลินทรีย์ EM ผสมให้เข้ากัน (ใส่ลงในถังหมัก) พลิกทุก ๆ 2 วัน
2. ใช้ฝาถังที่มีช่องระบายอากาศ เพื่อให้ออกซิเจนถ่ายเทได้สะดวก เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในการย่อยสลาย เปิดวาล์วรวบรวมน้ำหมักชีวภาพเพื่อนำไปใช้ประโยชน์
3. ระยะการบ่มหมัก 3 สัปดาห์ (21 วัน) สำหรับผลิตปุ๋ยหมัก
4. ควรเก็บไว้ในที่ร่ม เนื่องจากคุณสมบัติจุลินทรีย์ EM จะเติบโต และทำงานได้ดีในที่ร่ม เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ส่งกลิ่นเหม็น และทำการย่อยสลายขยะในอุณหภูมิที่ออกซิเจนถ่ายเทได้ดี ถ้านำออกไปตากแดด เกิดความร้อน จุลินทรีย์จะตาย ทำให้ขยะที่ต้องการหมักเน่าเสีย ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: "ขยะเปียก" นับเป็นหนึ่งในขยะที่สร้างความรำคาญใจให้กับพ่อบ้านแม่บ้านมากที่สุด เพราะหากจัดการไม่ดี อาจก่อให้เกิดเชื้อโรค และส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาได้ วันนี้บ้านไหนที่อยากจัดการกับขยะเปียกเจ้าปัญหาให้สิ้นซาก เรามีวิธีง่าย ๆ มาฝากกัน
การจัดการขยะนั้นต้องเริ่มแยกขยะตัวร้ายอย่างขยะเปียกออกจากขยะทั้งหมดก่อน ซึ่งขยะประเภทนี้ หากหมักหมมไว้นานโดยไม่ได้จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากจะเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ และเป็นแหล่งเชื้อโรคแล้ว ยังทำให้ขยะชนิดอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันสกปรก และไม่สามารถเข้าสู่การบวนการรีไซเคิลได้
สำหรับการจัดการกับขยะเปียกนั้น กูรูท่านนี้ บอกว่า มีอยู่ 2 วิธี คือ เศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า เช่น กระดูกไก่ ก้างปลา น้ำแกง สับบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นอาหารสัตว์ได้ ส่วนเศษอาหารที่บูดเน่าแล้วเหลือพืชผัก ไม่ว่าจะเป็นเปลือกผลไม้ เศษผัก หรือเศษใบไม้ สับ บด และป่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาเป็นจุลินทรีย์หมักทำปุ๋ยได้
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการจัดการขยะให้เหลือศูนย์ หรือทำปุ๋ยนั้น ดร.สมไทย เผยว่า การหมักเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยกำจัดขยะเปียกแล้ว ยังได้น้ำปุ๋ยหมักชีวภาพไว้ใช้ในครัวเรือนอีกด้วย แต่ก่อนอื่นทุกบ้านต้องมีถังหมักประจำบ้านเสียก่อน ซึ่งมีวิธีการทำง่าย ๆ ดังนี้
1. ถังทำจาก ถังสีเก่าเหลือใช้ขนาด 20 ลิตร
2. เจาะรูตัวถังด้านล่างใส่ก๊อกน้ำพลาสติก เพื่อใช้เปิดปิดน้ำหมัก
3. ฝาด้านบนเจาะรู สำหรับให้ออกซิเจนถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
4. ใช้ตะกร้าพลาสติกวางลงไป ให้ช่องว่างระหว่างก้นตะกร้ากับพื้นถังห่างกันประมาณ 5 ซม. เพื่อให้น้ำแกงตกอยู่ด้านล่าง สำหรับเป็นปุ๋ยน้ำ แยกออกจากด้านบน เป็นกากย่อยสลาย
ส่วนวิธีการจัดการเศษอาหารด้วยถังหมักประจำบ้านนั้น มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ เศษอาหาร 40 เปอร์เซ็นต์ เศษใบไม้ 30 เปอร์เซ็นต์ เศษผัก เศษเปลือกผลไม้ 30 เปอร์เซ็นต์ และจุลินทรีย์ EM 200 ซีซี. ผสมน้ำ 2 ลิตร
ขั้นตอนการทำ
1. นำส่วนผสมต่าง ๆ มาผสมเข้าด้วยกัน (เศษอาหาร ใบไม้ เศษผัก เศษผลไม้สับ หรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และจุลินทรีย์ EM ผสมให้เข้ากัน (ใส่ลงในถังหมัก) พลิกทุก ๆ 2 วัน
2. ใช้ฝาถังที่มีช่องระบายอากาศ เพื่อให้ออกซิเจนถ่ายเทได้สะดวก เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในการย่อยสลาย เปิดวาล์วรวบรวมน้ำหมักชีวภาพเพื่อนำไปใช้ประโยชน์
3. ระยะการบ่มหมัก 3 สัปดาห์ (21 วัน) สำหรับผลิตปุ๋ยหมัก
4. ควรเก็บไว้ในที่ร่ม เนื่องจากคุณสมบัติจุลินทรีย์ EM จะเติบโต และทำงานได้ดีในที่ร่ม เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ส่งกลิ่นเหม็น และทำการย่อยสลายขยะในอุณหภูมิที่ออกซิเจนถ่ายเทได้ดี ถ้านำออกไปตากแดด เกิดความร้อน จุลินทรีย์จะตาย ทำให้ขยะที่ต้องการหมักเน่าเสีย ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้../add_file/ "ขยะเปียก" นับเป็นหนึ่งในขยะที่สร้างความรำคาญใจให้กับพ่อบ้านแม่บ้านมากที่สุด เพราะหากจัดการไม่ดี อาจก่อให้เกิดเชื้อโรค และส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาได้ วันนี้บ้านไหนที่อยากจัดการกับขยะเปียกเจ้าปัญหาให้สิ้นซาก เรามีวิธีง่าย ๆ มาฝากกัน
การจัดการขยะนั้นต้องเริ่มแยกขยะตัวร้ายอย่างขยะเปียกออกจากขยะทั้งหมดก่อน ซึ่งขยะประเภทนี้ หากหมักหมมไว้นานโดยไม่ได้จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากจะเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์ และเป็นแหล่งเชื้อโรคแล้ว ยังทำให้ขยะชนิดอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันสกปรก และไม่สามารถเข้าสู่การบวนการรีไซเคิลได้
สำหรับการจัดการกับขยะเปียกนั้น กูรูท่านนี้ บอกว่า มีอยู่ 2 วิธี คือ เศษอาหารที่ยังไม่บูดเน่า เช่น กระดูกไก่ ก้างปลา น้ำแกง สับบดเป็นชิ้นเล็ก ๆ เป็นอาหารสัตว์ได้ ส่วนเศษอาหารที่บูดเน่าแล้วเหลือพืชผัก ไม่ว่าจะเป็นเปลือกผลไม้ เศษผัก หรือเศษใบไม้ สับ บด และป่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำมาเป็นจุลินทรีย์หมักทำปุ๋ยได้
อย่างไรก็ดี ในขั้นตอนการจัดการขยะให้เหลือศูนย์ หรือทำปุ๋ยนั้น ดร.สมไทย เผยว่า การหมักเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะช่วยกำจัดขยะเปียกแล้ว ยังได้น้ำปุ๋ยหมักชีวภาพไว้ใช้ในครัวเรือนอีกด้วย แต่ก่อนอื่นทุกบ้านต้องมีถังหมักประจำบ้านเสียก่อน ซึ่งมีวิธีการทำง่าย ๆ ดังนี้
1. ถังทำจาก ถังสีเก่าเหลือใช้ขนาด 20 ลิตร
2. เจาะรูตัวถังด้านล่างใส่ก๊อกน้ำพลาสติก เพื่อใช้เปิดปิดน้ำหมัก
3. ฝาด้านบนเจาะรู สำหรับให้ออกซิเจนถ่ายเทอากาศได้ดี เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
4. ใช้ตะกร้าพลาสติกวางลงไป ให้ช่องว่างระหว่างก้นตะกร้ากับพื้นถังห่างกันประมาณ 5 ซม. เพื่อให้น้ำแกงตกอยู่ด้านล่าง สำหรับเป็นปุ๋ยน้ำ แยกออกจากด้านบน เป็นกากย่อยสลาย
ส่วนวิธีการจัดการเศษอาหารด้วยถังหมักประจำบ้านนั้น มีส่วนประกอบที่สำคัญคือ เศษอาหาร 40 เปอร์เซ็นต์ เศษใบไม้ 30 เปอร์เซ็นต์ เศษผัก เศษเปลือกผลไม้ 30 เปอร์เซ็นต์ และจุลินทรีย์ EM 200 ซีซี. ผสมน้ำ 2 ลิตร
ขั้นตอนการทำ
1. นำส่วนผสมต่าง ๆ มาผสมเข้าด้วยกัน (เศษอาหาร ใบไม้ เศษผัก เศษผลไม้สับ หรือบดให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ และจุลินทรีย์ EM ผสมให้เข้ากัน (ใส่ลงในถังหมัก) พลิกทุก ๆ 2 วัน
2. ใช้ฝาถังที่มีช่องระบายอากาศ เพื่อให้ออกซิเจนถ่ายเทได้สะดวก เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในการย่อยสลาย เปิดวาล์วรวบรวมน้ำหมักชีวภาพเพื่อนำไปใช้ประโยชน์
3. ระยะการบ่มหมัก 3 สัปดาห์ (21 วัน) สำหรับผลิตปุ๋ยหมัก
4. ควรเก็บไว้ในที่ร่ม เนื่องจากคุณสมบัติจุลินทรีย์ EM จะเติบโต และทำงานได้ดีในที่ร่ม เพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ส่งกลิ่นเหม็น และทำการย่อยสลายขยะในอุณหภูมิที่ออกซิเจนถ่ายเทได้ดี ถ้านำออกไปตากแดด เกิดความร้อน จุลินทรีย์จะตาย ทำให้ขยะที่ต้องการหมักเน่าเสีย ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ ***(เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)***
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2566
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒนาชุมชน)
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ ***(เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)***
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2566
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒนาชุมชน)../add_file/แจ้งขึ้นทะเบียนผู้สูงอายุ ***(เกิดก่อน 2 กันยายน 2507)***
สามารถขึ้นทะเบียนได้ที่ อบต.บ้านหว้า ตั้งแต่วันนี้ - 30 กันยายน 2566
ในวันและเวลาราชการ สอบถามโทร 035-350776 (นักพัฒนาชุมชน)
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : วันนี้ (12 ตุลาคม 2565)
นายสมนึก ไกรสมดี นายกอบต.บ้านหว้า ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคบ้านหว้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกอบต.บ้านหว้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภายใต้คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน อุทกภัย อบต.บ้านหว้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และช่วยถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: วันนี้ (12 ตุลาคม 2565)
นายสมนึก ไกรสมดี นายกอบต.บ้านหว้า ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคบ้านหว้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกอบต.บ้านหว้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภายใต้คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน อุทกภัย อบต.บ้านหว้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และช่วยถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ตำบลบ้านหว้า../add_file/วันนี้ (12 ตุลาคม 2565)
นายสมนึก ไกรสมดี นายกอบต.บ้านหว้า ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคบ้านหว้า พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกอบต.บ้านหว้ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภายใต้คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน อุทกภัย อบต.บ้านหว้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และช่วยถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายให้ผู้ประสบอุทกภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ตำบลบ้านหว้า
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินอุทกภัย อบต.บ้านหว้า ภายใต้การอำนวยการของท่านสมนึก ไกรสมดี สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรอกกระสอบทรายทำยกสะพาน ศพด.เสริมปัญญา
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินอุทกภัย อบต.บ้านหว้า ภายใต้การอำนวยการของท่านสมนึก ไกรสมดี สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรอกกระสอบทรายทำยกสะพาน ศพด.เสริมปัญญา../add_file/ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินอุทกภัย อบต.บ้านหว้า ภายใต้การอำนวยการของท่านสมนึก ไกรสมดี สั่งการให้เจ้าหน้าที่กรอกกระสอบทรายทำยกสะพาน ศพด.เสริมปัญญา
ชื่อไฟล์ : ประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 9.00-16.00น.
ธนาคารออมสินเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565
ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
***การลงทะเบียน ทั้งคนที่เคยมีบัตรแล้วก็ต้องลงทะเบียนใหม่
และคนที่ยังไม่เคยมีบัตร
ต้องยื่นหลักฐาน ดังต่อไปนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
***กรณีที่มีคู่สมรส(จดทะเบียนสมรส)
1.บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงคู่สมรส
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส จำนวน 1 ฉบับ
3.สำเนาทะเบียนสมรส
4.ต้องนำคู่สมรสมาด้วยเพื่อเซ็นต์เอกสาร
คนโสดสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ได้เลยคะ https://welfare.mof.go.th/
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 9.00-16.00น.
ธนาคารออมสินเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565
ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
***การลงทะเบียน ทั้งคนที่เคยมีบัตรแล้วก็ต้องลงทะเบียนใหม่
และคนที่ยังไม่เคยมีบัตร
ต้องยื่นหลักฐาน ดังต่อไปนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
***กรณีที่มีคู่สมรส(จดทะเบียนสมรส)
1.บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงคู่สมรส
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส จำนวน 1 ฉบับ
3.สำเนาทะเบียนสมรส
4.ต้องนำคู่สมรสมาด้วยเพื่อเซ็นต์เอกสาร
คนโสดสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ได้เลยคะ https://welfare.mof.go.th/../add_file/ประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
ในวันพฤหัสบดีที่ 6 ตุลาคม 2565 เวลา 9.00-16.00น.
ธนาคารออมสินเปิดรับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565
ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหว้า
***การลงทะเบียน ทั้งคนที่เคยมีบัตรแล้วก็ต้องลงทะเบียนใหม่
และคนที่ยังไม่เคยมีบัตร
ต้องยื่นหลักฐาน ดังต่อไปนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ฉบับ
***กรณีที่มีคู่สมรส(จดทะเบียนสมรส)
1.บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงคู่สมรส
2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส จำนวน 1 ฉบับ
3.สำเนาทะเบียนสมรส
4.ต้องนำคู่สมรสมาด้วยเพื่อเซ็นต์เอกสาร
คนโสดสามารถลงทะเบียนในเว็บไซต์ได้เลยคะ https://welfare.mof.go.th/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : 5 วิธีแยกขยะ แยกอย่างไรช่วยสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง และโลก
ในภาวะที่โลกต้องการภูมิคุ้มกัน สิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรสร้างให้เป็นนิสัย และเพื่อเป็นฮีโร่ได้ง่ายๆ ในแบบของตัวเอง ก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม สิ่งที่หนึ่งที่เป็นเรื่องง่ายใกล้ตัวที่สุด คือ “การคัดแยกขยะ” ก่อนทิ้งลงถัง ยิ่งในช่วงเวลานี้เรามีขยะติดเชื้อจากครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ถุงมือยาง ถุงมือพลาสติก กระดาษชำระ เป็นต้น และเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในช่วงเวลานี้ ได้นำข้อการแยกขยะง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ มาฝากกัน ดังนี้
1.แยกขยะเปียก ขยะแห้ง ง่ายต่อการนำไปรีไซเคิล
จุดเริ่มต้นของการแยกขยะง่ายๆ ภายในครอบครัว คือแยกขยะเปียก และขยะแห้ง โดยขยะเปียก คือที่มาจากเศษอาหาร แนะนำหาถุงขยะเล็กๆ มาสแตนบายไว้สำหรับทิ้งเศษอาหารแล้วทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการรบกวนของมด หนู แมลงสาบ แถมยังลดกลิ่นเหม็นจากเศษอาหาร สู่การสร้างสุขอนามัยที่ดีด้วย ที่สำคัญการแยกขยะเปียกแห้ง จะทำให้เราสามารถนำขยะมารีไซเคิลได้ง่ายยิ่งขึ้น
2.อัดขยะและมัดปากถุงขยะให้แน่นก่อนลงถัง
เมื่อเราแยกขยะแต่ละประเภทอย่างดีแล้ว ก่อนนำไปทิ้งควรอัดขยะให้แน่นๆ หน่อย แล้วมัดปากถุงให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในถังขยะ จะยิ่งง่ายและเร็วหากใช้ถุงขยะแบบมีหูผูกหรือมีหูรูด เวลาขยะเต็มเพียงแค่มัดและหิ้วไปทิ้งถังขยะเทศบาลหน้าบ้าน สะดวก รวดเร็ว และประหยัด นอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการทำงานของทีมเก็บขยะอีกด้วย
3.แป๊ะโน๊ตข้อความ ระบุประเภทขยะสักนิด ก่อนถึงมือคนเก็บขยะ
กรณีที่มีขยะติดเชื้อ หรือ ขยะประเภทแก้ว กระจก ของมีคม หรือขยะสารเคมีต่างๆ ควรแยกทิ้งใส่ถุงที่หนา เหนียว เป็นพิเศษเพื่อป้องกันการรั่วซึมหรือฉีกขาด และอยากแนะนำเพิ่มเติมว่า ก่อนทิ้งควรสำรวจให้ดีก่อนว่ามีการปิดปากถุงอย่างแน่นหนาแล้ว พร้อมกับติดป้ายหรือใช้ปากกาเมจิกเขียนกำกับหน้าถุงด้วยว่าถุงนี้เป็นขยะประเภทใดให้ชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้ที่มีหน้าที่จัดเก็บระมัดระวังตัว เช่น ถุงขยะนี้มีหน้ากากอนามัยใช้แล้ว หรือ ถุงขยะรีไซเคิล งานนี้ช่วยเซฟพี่ๆ ทีมเก็บขยะได้ด้วย
4.แยกหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วลงในถุงซิปก่อนทิ้งลงถัง
ถุงซิปนอกจากนำมาเพื่อใช้สำหรับเก็บอาหารได้แล้ว ในช่วงเวลาแบบนี้ เรายังสามารถดัดแปลงให้ถุงซิป มาเพื่อใช้ทิ้งหน้ากากอนามัยได้ด้วย วิธีการง่ายๆ คือ มัดหน้ากากอนามัย ทิ้งลงในถุงซิป และเมื่อถุงซิปเต็ม ก็ปิดถุงให้สนิทเพื่อทิ้งต่อไป สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องปิดปากถุงให้สนิทเพื่อช่วยให้พนักงานเก็บขยะได้มีสุขภาวะที่ดีด้วย
5.ทิ้งถูกถัง ช่วยลดปริมาณขยะ
การแยกขยะ คือจุดเริ่มต้นของการลดปริมาณขยะเพื่อให้ขยะที่ต้องกำจัดจริงๆ ให้เหลือน้อยที่สุด บางบ้านไม่สะดวกใช้ถุงขยะ แต่ถนัดใช้ถังขยะในการแยกมากกว่า ดังนั้นวิธีการง่ายๆ คือ แยกขยะสัก 2 ถัง ถังขยะเปียกหรือถังสีเขียว สำหรับใส่เศษอาหาร ขยะย่อยสลายได้ และ ถังขยะแห้งหรือถังสีฟ้า สำหรับขยะทั่วไปหรือขยะรีไซเคิล เพียงเท่านี้ก็ง่ายต่อกระบวนการจัดการขยะแล้ว จะดีมากหากเลือกใช้ถังขยะใบเล็ก เพื่อที่เราจะเก็บไปทิ้งลงถังเทศบาลบ่อยๆ เพื่อการอยู่อาศัยที่สะอาด ปลอดภัยจากแหล่งสะสมเชื้อโรคไปในตัว
การแยกขยะ นอกจากทำให้บ้านเมืองน่ามองแล้วยังเป็นการฝึกวินัยและปลูกฝังลูกหลานเริ่มต้นจากในบ้านได้เป็นอย่างดี หากทุกคนสามารถนำทั้ง 5 วิธีนี้ไปปฏิบัติ เชื่อว่าการแพร่กระจายของขยะติดเชื้อก็จะลดลง เช่นเดียวกับปริมาณขยะที่จะลดลงด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :คิงส์แพ็ค
ภาพ :istockphoto
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: 5 วิธีแยกขยะ แยกอย่างไรช่วยสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง และโลก
ในภาวะที่โลกต้องการภูมิคุ้มกัน สิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรสร้างให้เป็นนิสัย และเพื่อเป็นฮีโร่ได้ง่ายๆ ในแบบของตัวเอง ก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม สิ่งที่หนึ่งที่เป็นเรื่องง่ายใกล้ตัวที่สุด คือ “การคัดแยกขยะ” ก่อนทิ้งลงถัง ยิ่งในช่วงเวลานี้เรามีขยะติดเชื้อจากครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ถุงมือยาง ถุงมือพลาสติก กระดาษชำระ เป็นต้น และเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในช่วงเวลานี้ ได้นำข้อการแยกขยะง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ มาฝากกัน ดังนี้
1.แยกขยะเปียก ขยะแห้ง ง่ายต่อการนำไปรีไซเคิล
จุดเริ่มต้นของการแยกขยะง่ายๆ ภายในครอบครัว คือแยกขยะเปียก และขยะแห้ง โดยขยะเปียก คือที่มาจากเศษอาหาร แนะนำหาถุงขยะเล็กๆ มาสแตนบายไว้สำหรับทิ้งเศษอาหารแล้วทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการรบกวนของมด หนู แมลงสาบ แถมยังลดกลิ่นเหม็นจากเศษอาหาร สู่การสร้างสุขอนามัยที่ดีด้วย ที่สำคัญการแยกขยะเปียกแห้ง จะทำให้เราสามารถนำขยะมารีไซเคิลได้ง่ายยิ่งขึ้น
2.อัดขยะและมัดปากถุงขยะให้แน่นก่อนลงถัง
เมื่อเราแยกขยะแต่ละประเภทอย่างดีแล้ว ก่อนนำไปทิ้งควรอัดขยะให้แน่นๆ หน่อย แล้วมัดปากถุงให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในถังขยะ จะยิ่งง่ายและเร็วหากใช้ถุงขยะแบบมีหูผูกหรือมีหูรูด เวลาขยะเต็มเพียงแค่มัดและหิ้วไปทิ้งถังขยะเทศบาลหน้าบ้าน สะดวก รวดเร็ว และประหยัด นอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการทำงานของทีมเก็บขยะอีกด้วย
3.แป๊ะโน๊ตข้อความ ระบุประเภทขยะสักนิด ก่อนถึงมือคนเก็บขยะ
กรณีที่มีขยะติดเชื้อ หรือ ขยะประเภทแก้ว กระจก ของมีคม หรือขยะสารเคมีต่างๆ ควรแยกทิ้งใส่ถุงที่หนา เหนียว เป็นพิเศษเพื่อป้องกันการรั่วซึมหรือฉีกขาด และอยากแนะนำเพิ่มเติมว่า ก่อนทิ้งควรสำรวจให้ดีก่อนว่ามีการปิดปากถุงอย่างแน่นหนาแล้ว พร้อมกับติดป้ายหรือใช้ปากกาเมจิกเขียนกำกับหน้าถุงด้วยว่าถุงนี้เป็นขยะประเภทใดให้ชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้ที่มีหน้าที่จัดเก็บระมัดระวังตัว เช่น ถุงขยะนี้มีหน้ากากอนามัยใช้แล้ว หรือ ถุงขยะรีไซเคิล งานนี้ช่วยเซฟพี่ๆ ทีมเก็บขยะได้ด้วย
4.แยกหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วลงในถุงซิปก่อนทิ้งลงถัง
ถุงซิปนอกจากนำมาเพื่อใช้สำหรับเก็บอาหารได้แล้ว ในช่วงเวลาแบบนี้ เรายังสามารถดัดแปลงให้ถุงซิป มาเพื่อใช้ทิ้งหน้ากากอนามัยได้ด้วย วิธีการง่ายๆ คือ มัดหน้ากากอนามัย ทิ้งลงในถุงซิป และเมื่อถุงซิปเต็ม ก็ปิดถุงให้สนิทเพื่อทิ้งต่อไป สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องปิดปากถุงให้สนิทเพื่อช่วยให้พนักงานเก็บขยะได้มีสุขภาวะที่ดีด้วย
5.ทิ้งถูกถัง ช่วยลดปริมาณขยะ
การแยกขยะ คือจุดเริ่มต้นของการลดปริมาณขยะเพื่อให้ขยะที่ต้องกำจัดจริงๆ ให้เหลือน้อยที่สุด บางบ้านไม่สะดวกใช้ถุงขยะ แต่ถนัดใช้ถังขยะในการแยกมากกว่า ดังนั้นวิธีการง่ายๆ คือ แยกขยะสัก 2 ถัง ถังขยะเปียกหรือถังสีเขียว สำหรับใส่เศษอาหาร ขยะย่อยสลายได้ และ ถังขยะแห้งหรือถังสีฟ้า สำหรับขยะทั่วไปหรือขยะรีไซเคิล เพียงเท่านี้ก็ง่ายต่อกระบวนการจัดการขยะแล้ว จะดีมากหากเลือกใช้ถังขยะใบเล็ก เพื่อที่เราจะเก็บไปทิ้งลงถังเทศบาลบ่อยๆ เพื่อการอยู่อาศัยที่สะอาด ปลอดภัยจากแหล่งสะสมเชื้อโรคไปในตัว
การแยกขยะ นอกจากทำให้บ้านเมืองน่ามองแล้วยังเป็นการฝึกวินัยและปลูกฝังลูกหลานเริ่มต้นจากในบ้านได้เป็นอย่างดี หากทุกคนสามารถนำทั้ง 5 วิธีนี้ไปปฏิบัติ เชื่อว่าการแพร่กระจายของขยะติดเชื้อก็จะลดลง เช่นเดียวกับปริมาณขยะที่จะลดลงด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :คิงส์แพ็ค
ภาพ :istockphoto../add_file/5 วิธีแยกขยะ แยกอย่างไรช่วยสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง และโลก
ในภาวะที่โลกต้องการภูมิคุ้มกัน สิ่งจำเป็นที่ทุกคนควรสร้างให้เป็นนิสัย และเพื่อเป็นฮีโร่ได้ง่ายๆ ในแบบของตัวเอง ก็คือการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง และช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม สิ่งที่หนึ่งที่เป็นเรื่องง่ายใกล้ตัวที่สุด คือ “การคัดแยกขยะ” ก่อนทิ้งลงถัง ยิ่งในช่วงเวลานี้เรามีขยะติดเชื้อจากครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากอนามัยใช้แล้ว ถุงมือยาง ถุงมือพลาสติก กระดาษชำระ เป็นต้น และเพื่อให้ทุกคนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคในช่วงเวลานี้ ได้นำข้อการแยกขยะง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้ มาฝากกัน ดังนี้
1.แยกขยะเปียก ขยะแห้ง ง่ายต่อการนำไปรีไซเคิล
จุดเริ่มต้นของการแยกขยะง่ายๆ ภายในครอบครัว คือแยกขยะเปียก และขยะแห้ง โดยขยะเปียก คือที่มาจากเศษอาหาร แนะนำหาถุงขยะเล็กๆ มาสแตนบายไว้สำหรับทิ้งเศษอาหารแล้วทิ้งทันทีเพื่อป้องกันการรบกวนของมด หนู แมลงสาบ แถมยังลดกลิ่นเหม็นจากเศษอาหาร สู่การสร้างสุขอนามัยที่ดีด้วย ที่สำคัญการแยกขยะเปียกแห้ง จะทำให้เราสามารถนำขยะมารีไซเคิลได้ง่ายยิ่งขึ้น
2.อัดขยะและมัดปากถุงขยะให้แน่นก่อนลงถัง
เมื่อเราแยกขยะแต่ละประเภทอย่างดีแล้ว ก่อนนำไปทิ้งควรอัดขยะให้แน่นๆ หน่อย แล้วมัดปากถุงให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ในถังขยะ จะยิ่งง่ายและเร็วหากใช้ถุงขยะแบบมีหูผูกหรือมีหูรูด เวลาขยะเต็มเพียงแค่มัดและหิ้วไปทิ้งถังขยะเทศบาลหน้าบ้าน สะดวก รวดเร็ว และประหยัด นอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการทำงานของทีมเก็บขยะอีกด้วย
3.แป๊ะโน๊ตข้อความ ระบุประเภทขยะสักนิด ก่อนถึงมือคนเก็บขยะ
กรณีที่มีขยะติดเชื้อ หรือ ขยะประเภทแก้ว กระจก ของมีคม หรือขยะสารเคมีต่างๆ ควรแยกทิ้งใส่ถุงที่หนา เหนียว เป็นพิเศษเพื่อป้องกันการรั่วซึมหรือฉีกขาด และอยากแนะนำเพิ่มเติมว่า ก่อนทิ้งควรสำรวจให้ดีก่อนว่ามีการปิดปากถุงอย่างแน่นหนาแล้ว พร้อมกับติดป้ายหรือใช้ปากกาเมจิกเขียนกำกับหน้าถุงด้วยว่าถุงนี้เป็นขยะประเภทใดให้ชัดเจน เพื่อแจ้งให้ผู้ที่มีหน้าที่จัดเก็บระมัดระวังตัว เช่น ถุงขยะนี้มีหน้ากากอนามัยใช้แล้ว หรือ ถุงขยะรีไซเคิล งานนี้ช่วยเซฟพี่ๆ ทีมเก็บขยะได้ด้วย
4.แยกหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วลงในถุงซิปก่อนทิ้งลงถัง
ถุงซิปนอกจากนำมาเพื่อใช้สำหรับเก็บอาหารได้แล้ว ในช่วงเวลาแบบนี้ เรายังสามารถดัดแปลงให้ถุงซิป มาเพื่อใช้ทิ้งหน้ากากอนามัยได้ด้วย วิธีการง่ายๆ คือ มัดหน้ากากอนามัย ทิ้งลงในถุงซิป และเมื่อถุงซิปเต็ม ก็ปิดถุงให้สนิทเพื่อทิ้งต่อไป สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องปิดปากถุงให้สนิทเพื่อช่วยให้พนักงานเก็บขยะได้มีสุขภาวะที่ดีด้วย
5.ทิ้งถูกถัง ช่วยลดปริมาณขยะ
การแยกขยะ คือจุดเริ่มต้นของการลดปริมาณขยะเพื่อให้ขยะที่ต้องกำจัดจริงๆ ให้เหลือน้อยที่สุด บางบ้านไม่สะดวกใช้ถุงขยะ แต่ถนัดใช้ถังขยะในการแยกมากกว่า ดังนั้นวิธีการง่ายๆ คือ แยกขยะสัก 2 ถัง ถังขยะเปียกหรือถังสีเขียว สำหรับใส่เศษอาหาร ขยะย่อยสลายได้ และ ถังขยะแห้งหรือถังสีฟ้า สำหรับขยะทั่วไปหรือขยะรีไซเคิล เพียงเท่านี้ก็ง่ายต่อกระบวนการจัดการขยะแล้ว จะดีมากหากเลือกใช้ถังขยะใบเล็ก เพื่อที่เราจะเก็บไปทิ้งลงถังเทศบาลบ่อยๆ เพื่อการอยู่อาศัยที่สะอาด ปลอดภัยจากแหล่งสะสมเชื้อโรคไปในตัว
การแยกขยะ นอกจากทำให้บ้านเมืองน่ามองแล้วยังเป็นการฝึกวินัยและปลูกฝังลูกหลานเริ่มต้นจากในบ้านได้เป็นอย่างดี หากทุกคนสามารถนำทั้ง 5 วิธีนี้ไปปฏิบัติ เชื่อว่าการแพร่กระจายของขยะติดเชื้อก็จะลดลง เช่นเดียวกับปริมาณขยะที่จะลดลงด้วยเช่นกัน
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :คิงส์แพ็ค
ภาพ :istockphoto
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : ????เปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้
ผ่านเว็บไซต์ https://bit.ly/3KNDuGH
*เตรียมเอกสารตามด้านล่างให้พร้อม
-เริ่มลงทะเบียน 5 ก.ย. - 19 ต.ค. 2565 เวลา 6.00 - 23.00 น. (กดปุ่มสีเขียวเพื่อลงทะเบียน)
-กรณีลงทะเบียนที่สาขาให้เตรียมเอกสาร ตามสถานะของผู้สมัคร ดาวน์โหลดเอกสาร https://bit.ly/3KNDuGH
-ตรวจสอบผลการลงทะเบียนทุกวันศุกร์
#หน่วยงานที่รับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565
มีทั้งหมด 7 สถานที่ ได้แก่
-สำนักงานคลังจังหวัด
-ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
-สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
-สำนักงานเมืองพัทยา
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา
-ธนาคารออมสิน ทุกสาขา
-ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา
สอบถาม > https://www.facebook.com/groups/750597116018036/
#สวัสดิการแห่งรัฐ
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ????เปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้
ผ่านเว็บไซต์ https://bit.ly/3KNDuGH
*เตรียมเอกสารตามด้านล่างให้พร้อม
-เริ่มลงทะเบียน 5 ก.ย. - 19 ต.ค. 2565 เวลา 6.00 - 23.00 น. (กดปุ่มสีเขียวเพื่อลงทะเบียน)
-กรณีลงทะเบียนที่สาขาให้เตรียมเอกสาร ตามสถานะของผู้สมัคร ดาวน์โหลดเอกสาร https://bit.ly/3KNDuGH
-ตรวจสอบผลการลงทะเบียนทุกวันศุกร์
#หน่วยงานที่รับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565
มีทั้งหมด 7 สถานที่ ได้แก่
-สำนักงานคลังจังหวัด
-ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
-สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
-สำนักงานเมืองพัทยา
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา
-ธนาคารออมสิน ทุกสาขา
-ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา
สอบถาม > https://www.facebook.com/groups/750597116018036/
#สวัสดิการแห่งรัฐ../add_file/????เปิดลงทะเบียนแล้ววันนี้
ผ่านเว็บไซต์ https://bit.ly/3KNDuGH
*เตรียมเอกสารตามด้านล่างให้พร้อม
-เริ่มลงทะเบียน 5 ก.ย. - 19 ต.ค. 2565 เวลา 6.00 - 23.00 น. (กดปุ่มสีเขียวเพื่อลงทะเบียน)
-กรณีลงทะเบียนที่สาขาให้เตรียมเอกสาร ตามสถานะของผู้สมัคร ดาวน์โหลดเอกสาร https://bit.ly/3KNDuGH
-ตรวจสอบผลการลงทะเบียนทุกวันศุกร์
#หน่วยงานที่รับลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565
มีทั้งหมด 7 สถานที่ ได้แก่
-สำนักงานคลังจังหวัด
-ที่ว่าการอำเภอทุกอำเภอ
-สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร
-สำนักงานเมืองพัทยา
-ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา
-ธนาคารออมสิน ทุกสาขา
-ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา
สอบถาม > https://www.facebook.com/groups/750597116018036/
#สวัสดิการแห่งรัฐ
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ :
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: ../add_file/
ชื่อไฟล์ : วันที่ 12 สิงหาคม นอกจากจะเป็นวันสำคัญของคนไทย เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ยังตรงกับวันสำคัญอีกหนึ่งวันนั่นก็คือ วันช้างโลก (World Elephant Day)
โดยเฉพาะ "ช้างป่า" ถือว่ามีความสำคัญทางระบบนิเวศ และสร้างประโยชน์ให้กับสัตว์ป่าต่างๆ อีกมากมาย เช่น เป็นสัตว์เบิกนำสร้างเส้นทาง สร้างแหล่งน้ำโดยใช้งาขุดเจาะดินตามโป่งดินให้สัตว์อื่นมีแหล่งน้ำใช้ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยกระจายเมล็ดพันธุ์พืช ไปยังส่วนต่างๆ ของผืนป่าผ่านการขับถ่าย
ปัจจุบันช้างป่าถูกล่าเพียงเพื่อนำงาของมันมาทำเป็นเครื่องประดับ โดยกลุ่มมนุษย์ที่มีความเชื่อผิดๆ ว่า งาช้างคือสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์ เป็นมงคล ความเชื่อในพลังอำนาจ ช่วยฟันฝ่าอุปสรรค แคล้วคลาดจากภยันตราย ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติ และระดับโลกที่ต้องควรแก้ไขอย่างต่อเนื่อง
วันช้างโลก (World Elephant Day) ประกาศขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักต่อคนทั่วโลกให้หันมาร่วมกันอนุรักษ์ช้างเอเชียและช้างแอฟริกา ที่ปัจจุบันกำลังตกอยู่ในภาวะเสี่ยงจากการถูกล่า การสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย รวมถึงความขัดแย้งระหว่างคนและช้าง
และจากข้อมูลของ IUCN Red List of Threatened Species บัญชีชนิดพันธุ์ที่ถูกคุกคามขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
(https://goo.gl/SVMZsx) พบว่า.
สถานะของประชากรช้างเอเชียอยู่ที่
ENDANGERED :https://goo.gl/HksLru
สถานะของประชากรช้างแอฟริกาอยู่ที่ VULNERABLE :https://goo.gl/2hNLp9
จากภาพประกอบ โขลงช้างป่าบนเขาใหญ่ที่ใช้เส้นทางเดินผ่านป่า และข้ามถนนบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่เป็นประจำ ซึ่งตอนนี้อุทยานฯ เปิดให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสธรรมชาติ แต่จะต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของทางอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด เพราะที่นี่ถือว่าเป็นบ้านของช้างป่า จึงขอย้ำเตือนให้ผู้มาเยือนเขาใหญ่ควรอยู่ห่างจากช้างป่าในระยะที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเราเองและสัตว์ป่า และอย่าเข้าใกล้มากเกินไปอาจจะเกิดอันตราย
file_download
ดาว์นโหลดไฟล์นี้
ชื่อไฟล์: วันที่ 12 สิงหาคม นอกจากจะเป็นวันสำคัญของคนไทย เนื่องในวัน